เปิดฉากมอเตอร์โชว์อัดแคมเปญสู้น้ำมัน

เปิดฉากมอเตอร์โชว์อัดแคมเปญสู้น้ำมัน

ผู้จัดการรายวัน(25 มีนาคม 2548)

กลับสู่หน้าหลัก

มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 26 เริ่มแล้ววันนี้ ค่ายรถใจดีสู้เสือเชื่อน้ำมันพุ่งไม่กระทบ มุ่งแคมเปญจูงใจ ฟรีเงินดาวน์-ดอกเบี้ย พร้อมให้ความสำคัญกับการแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ยักษ์จีเอ็มปล่อยข่าวดีลงทุนเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิต เพิ่มโรงทำสีรถยนต์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เตรียมนำรถที่มีปัญหาแรลลี่ทั่วกรุงเทพฯ ก่อนไปจอดหน้างานมอเตอร์โชว์ ขณะที่ลูกค้าโตโยต้าประเดิมโวยขอเปลี่ยนรถใหม่

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 26 เปิดเป็นทางการวันนี้ (25 มี.ค.) ไปจนถึงวันที่ 3 เม.ย.นี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา ปีนี้มีรถยนต์เข้าร่วมงานถึง 31 ยี่ห้อ ท่ามกลางภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เปิดเผยในงานมอเตอร์โชว์รอบสื่อมวลชนและแขก วีไอพี วานนี้ (24 มี.ค.) ว่า การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในขณะนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อจำนวนคนเข้ามาชมงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ เพราะมีการรับรู้มาบ้างแล้ว และจากการตอบรับของผู้ที่จะมาชมงานยังคงดีอยู่ ที่สำคัญทางผู้จัดเองได้มีการเตรียมพร้อมไว้ก่อนประกาศปรับน้ำมัน โดยได้มีการเตรียมรถบัสและรถตู้ไว้รองรับผู้มาชมงานตามจุดต่างๆ กว่า 70 คัน อาทิ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอ่อนนุช ห้างสรรพสินค้า เสรีเซ็นเตอร์ และเซ็นทรัล บางนา โดยใช้งบประมาณเฉพาะส่วนนี้ถึงกว่า 10 ล้านบาท ทำให้ผู้มาชมงานไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องค่าน้ำมัน และปัญหาการจราจรแต่อย่างใด

"เรายังมั่นใจว่าจะมีผู้มาชมงานตลอดช่วง 10 วัน ไม่ต่ำกว่า 1.6-1.7 ล้านคน เท่ากับปีที่ผ่าน และด้วยพื้นที่จัดงานก็ไม่สามารถรองรับได้มากกว่านี้แล้ว ขณะที่ปริมาณการขายรถยนต์ในงานเชื่อว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 1 หมื่นคันเท่ากับปีที่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีรถยนต์ตลาดรุ่นใหม่เปิดตัวมากนัก แต่ด้วยแคมเปญ ต่างๆ ที่จูงใจ อาทิ มาสด้าฟรีดาวน์ หรือโฟล์คสวา-เกน ฟรีดอกเบี้ย 6 ปี น่าจะกระตุ้นยอดขายได้ดี"

อย่างไรก็ตาม งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ มี เป้าหมายชัดเจนไม่เน้นจัดงานแสดงเพื่อขายรถยนต์ แต่เป็นงานแสดงเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมยานยนต์ ดังเช่นปีนี้ที่มีคอนเซ็ปต์งาน "Power of Natural" หรือวิถีชีวิตใหม่พลังธรรมชาติ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากบริษัทรถยนต์ โดยนำรถยนต์ต้นแบบ และพลังงานทดแทนมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่นำรถยนต์รุ่น E200 NGT ที่สามารถใช้พลังงาน 2 ระบบ น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน และก๊าซธรรมชาติ เช่นเดียวเชฟโรเลตที่นำรถคอร์ซา เฟล็กพาวเวอร์ ที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและเอทานอล หรือโตโยต้าที่นำยนตรกรรมเคลื่อนที่อัจฉริยะ i-UNIT และรถต้นแบบไฟน์-เอ็น มาจัดแสดง

สำหรับบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ มีค่ายรถยนต์เข้าร่วมคับคั่ง แต่รถใหม่เปิดตัวครั้งแรกในไทยไม่มีให้ฮือฮานัก โดยเฉพาะรถตลาดจากค่ายญี่ปุ่นแทบจะไม่มีรุ่นใหม่เปิดตัวเลย ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์จากค่ายยุโรป ทั้งแลนด์โรเวอร์ ดิสคัฟเวอร์รี่3, เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส, บีเอ็มดับเบลยู ซีรีส์3 โฉมใหม่ และ วอลโว่ S80 D5 เป็นต้น

ค่ายรถเชื่อน้ำมันพุ่งไม่กระทบ

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของผลกระทบจากราคาน้ำมัน ดีเซลปรับตัวขึ้น ขณะนี้โตโยต้ายังไม่มีการปรับแผนหรือเป้าหมายอะไร คงจะต้องรอดูอีกสักระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก เพราะเรื่องนี้ได้มีการรับทราบกันพอสมควรแล้ว ส่วนผลกระทบต่อ งานมอเตอร์โชว์คงจะไม่มีผลมาก เพราะลูกค้ามีความ ตั้งใจที่จะมาซื้อรถอยู่แล้ว ประกอบกับมีการจัดราย การส่งเสริมการขายแข่งขันกันรุนแรง จึงเป็นโอกาสของผู้บริโภคมากกว่า

นางปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า มองว่าราคาน้ำมัน ที่เพิ่มขึ้นไม่กระทบรุนแรงกับอุตสหากรรมยานยนต์ เพราะว่าพื้นฐานการเติบโตเศรษฐกิจของไทยมั่นคง แต่อาจจะกระทบด้านจิตวิทยา อย่างไรก็เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ไม่น่ากระทบกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

สำหรับยอดขายของอีซูซุนั้นได้รับผลกระทบเล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาเหล็กที่ทำให้บริษัทแบกรับต้นทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจุดขายของบริษัทเพื่อรอง รับกับปัญหาราคาน้ำมันแพงคือเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน ซึ่งทางบริษัทได้ใช้มาถึง 20ปีแล้ว

นายฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดเผยว่า จากภาวะราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 3 บาท เชื่อว่าจะไม่กระทบกับยอดขายรถยนต์หรู เนื่องจากมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆเข้าสู่ตลาด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า แต่ยอมรับว่าในระยะสั้นอาจจะกระทบต่อความรู้สึกของผู้บริโภคบ้าง

"ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่รัฐบาลได้มีการปรับราคาดีเซลเพิ่มขึ้น เพราะจะทำให้ผู้บริโภครับทราบถึงราคาต้นทุนน้ำมันที่แท้จริง และจะทำให้ตระหนักถึงการประหยัดน้ำมัน ซึ่งจริงๆแล้ว อัตราการสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ดีเซลจะประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน" นายฉัตวิทัย กล่าว

นางฉันทนา วัฒนารมณ์ รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การปรับราคาน้ำมันดีเซลนั้นจะกระทบกับตลาดรถยนต์โดยรวมในระยะสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์ออกไปบ้าง ซึ่งคาดว่าในงานมอเตอร์โชว์จะได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเข้าชมงานใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของตลาดรถยนต์หรูคาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อนคือ ประมาณ 5%

จีเอ็มเท 2 พันล.เพิ่มกำลังการผลิต

นายวิลเลี่ยม บอทวิค ประธานภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส จำกัด หรือจีเอ็ม ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลต เปิดเผย ว่า ผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ยังไม่สามารถ คาดการณ์ได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจรถยนต์แค่ไหน แต่ที่ชัดเจนคงต้องส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจแน่นอน อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยได้ประกาศว่าเศรษฐกิจไทยยังจะเติบโตกว่า 5% ซึ่งการ ปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันก็คงไม่ผลมากนัก

"การประกาศขึ้นราคาน้ำมันดีเซล คงจะไม่ส่งผลกระทบต่อมากนัก รวมถึงงานมอเตอร์โชว์ และที่สำคัญเรื่องการปรับตัวขึ้น-ลงของราคาน้ำมันที่เป็นมาตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จึงไม่เป็นที่ประหลาดใจของผู้บริโภคมากนัก แต่สิ่งเหล่านี้ยากที่จะคาดได้ คงต้องรอดูสถานการณ์ระยะหนึ่งก่อน"

นายบอทวิคกล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินงานจีเอ็มที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างมาก มียอดขายรถยนต์เชฟโรเลตตลอดช่วง 3 เดือนในปีนี้ มีจำนวนกว่า 7,000 คัน ซึ่งหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มียอดขายเพียงกว่า 1,000 คัน มีอัตราการเติบโตหลายเท่าตัวทีเดียว จนทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการผลิตรถยนต์เต็มจำนวนการผลิตของโรงงาน

"ล่าสุดจีเอ็มได้มีการลงทุนเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต โดยเฉพาะการเพิ่มโรงทำสีรถยนต์ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1 แห่ง เป็น 2 แห่ง ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นได้จำนวนมาก เพราะปัจจัยสำคัญของการเพิ่มจำนวนผลิตรถยนต์อยู่ที่การทำสีรถยนต์ โดยนับจากนี้อีก 11 เดือนคาด ว่าจะสามารถเพิ่มการผลิตได้ และช่วงแรกจะเพิ่มได้อีกประมาณ 4-5 หมื่นคัน แต่หลังจากนั้นเมื่อมีการลงทุนเพิ่มอีกเล็กน้อยจะทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เต็มที่ เพียงแต่ขณะนี้ไม่สามารถบอกตัวเลขได้"

วันแรกเจอดีลูกค้าโตโยต้าโวย

ส่วนบรรยากาศของงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ วันแรกรอบสื่อมวลชนและแขกวีไอพี ค่ายยักษ์ใหญ่ "โตโยต้า" เจอดี เมื่อลูกค้า นายดีเอก มณีโชติ อดีตนักกระโดดน้ำทีมชาติเหรียญทองซีเกมส์ เมื่อปี 2516 ได้เข้ามาโวยวายภายในงานฯ กล่าวหาโตโยต้าไม่รับผิดชอบ หลังจากซื้อรถยนต์โตโยต้า อัลติส มาได้ 3 ปีมีปัญหามาตลอด จนเกิดปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานที่เข้ามาสร้างความวุ่นวาย เลยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญออกไป เพื่อเจรจากับตัวแทนของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

ผู้บริโภคประจานป้ายแดงห่วย

น.ส.พจศนา บุญทอง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ปัจจุบันมีรถป้ายแดงมีปัญหาจำนวน มาก และบริษัทรถยนต์ปฏิเสธความรับผิดชอบ ขณะที่ผู้บริโภคไม่สามารถหันหน้าไปพึ่งหน่วยงานของรัฐได้ ดังนั้น วันนี้ (25 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันเปิดงานมอเตอร์โชว์เป็นทางการวันแรก ทางมูลนิธิจะนำรถที่มีปัญหาแรลลี่ทั่วกรุงเทพฯแล้วมาหยุดที่หน้างานมอเตอร์โชว์ ไบเทค บางนา เพื่อยื่นหนังสือต่อบริษัท รถยนต์ทุกยี่ห้อ ขณะเดียวกัน จะแจกใบปลิวเพื่อ เตือนให้ผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจซื้อรถตระหนักถึงความไม่รับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทรถ

ทั้งนี้ ช่วงที่มีข่าวเรื่องรถป้ายแดง ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ). ออกมาแถลงข่าวใหญ่โตว่าจะรับหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ พอถึงเวลาจริงๆ ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อผู้บริโภคได้ บริษัทรถปฏิเสธความรับผิดชอบทุกกรณี แล้วอย่างนี้ผู้บริโภคจะหันหน้าไปพึ่งใคร

อนึ่ง วานนี้ (24 มี.ค.) เวลาประมาณ 13.00 น. ทางมูลนิธิได้รวมพลคนป้ายแดงที่มีปัญหาเดินทางมาที่รัฐสภา ซึ่งจะมีการแบกโลงศพ เพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้ออกมาดูแลผู้บริโภค

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย