|
เมื่อสหวิริยาอยากจะขายเทปแม่เหล็กเรื่องราคาก็ไม่ต้องพูดถึง!
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2529)
กลับสู่หน้าหลัก
เมื่อจะพูดถึงสหวิริยาใครๆ ก็รู้ว่าสหวิริยาจับธุรกิจมากมายหลายด้าน กิจการในเครือนั้นมีอยู่ถึง 4 สาย และในแต่ละสายก็ยังแบ่งออกเป็นหลายบริษัท ไม่วาจะเป็นสายอุตสาหกรรม ธุรกิจการเงิน ธุรกิจที่ดินและเรียลเอสเตทจนมาถึงสายคอมพิวเตอร์ที่กำลังฮิตติดหมัดอยู่ในปัจจุบัน และสหวิริยาก็ผงาดอยู่ในวงการธุรกิจเมืองไทยได้อย่างเหนียวแน่นและยั่งยืน นับแต่ปี 2508 มาจนถึงวันนี้
เฉพาะกิจการทางด้านคอมพิวเตอร์นั้น สหวิริยาเริ่มมาจับเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ด้วยความต้องการที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ จากต่างประเทศให้กับสังคมบ้านเรา และดูเหมือนว่าความต้องการนี้จะประสบความสำเร็จมากพอสมควร เมื่อหันมามองสถานการณ์ด้านคอมพิวเตอร์อย่างใน พ.ศ. นี้ที่ใครไม่รู้จักก็นับว่า “เชยแหลก”
ในปี 2508 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ “สหวิริยากรุ๊ป” เริ่มเกิดบริษัท GRAHAM MEGNETIC INCORPORATED ในเครือของบริษัท CARLISLE CORPORATION ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 500 ของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในอเมริกา ได้ริเริ่มผลิตเทปแม่เหล็กและก้าวไกลมาจนได้ลิขสิทธิ์ในระบบการเคลือบสารแม่เหล็กของ GRAHAM โดยเฉพาะ กระทั่งได้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านการผลิตสื่อบันทึกข้อมูล
20 ปีให้หลัง เมื่อ GRAHAM กลายเป็นเจ้ายุทธจักรของวงการเทปแม่เหล็ก ก็อยากจะขยายตลาดเข้ามาในเมืองไทย หลังจากประสบความสำเร็จจากตลาดในสิงคโปร์ มาเลเซีย มาแล้ว ซึ่งการจะเข้ามาก็ต้องเลือกบริษัทที่จะมาเป็นตัวแทนจำหน่ายและช่วยโปรโมตสินค้าให้ หลังจากสืบเสาะbackground แล้ว ก็เลือกให้ความสนใจในสหวิริยาเป็นพิเศษ และนับจากนี้ไปก็คือจุดเริ่มต้นที่สองบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งเกิดปีเดียวกันจะเข้ามาร่วมงานกัน
“GRAHAM” ไม่ใช่ยี่ห้อใหม่ เป็นยี่ห้อที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในสหรัฐฯ หรือในเพื่อนบ้านเรา คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย แต่สำหรับบ้านเราเนื่องจากเวลาที่ผ่านมายังไม่มีตัวแทนจำหน่ายที่ทำอย่างจริงจัง เขาไม่ได้มี distributor เขามี DATA MEDIA ที่สั่งเข้าเป็นล็อตๆ จึงไม่ใช่เป็น PRODUCT ที่มีชื่อเสียงสำหรับบ้านเรา” แจ็ค เอ็ม. ซี. ฮู. กรรมการบริหาร บริษัทสหวิริยาอินเตอร์เนชั่นแนล คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“สหวิริยากรุ๊ป” ในนามบริษัทสหวิริยา อินฟอร์เท็ค คอมพิวเตอร์ จำกัด ใช้เวลาตัดสินใจอยู่หลายเดือนกว่าจะตกลงใจเซ็นสัญญารับเป็นตัวแทนจำหน่ายเทปแม่เหล็กให้กับ GRAHAM ภายใต้สภาพการณ์ที่ดูเหมือนว่าเป็นการ “พบกันครึ่งทาง”
“ปีที่แล้วสหวิริยามีนโยบายในการที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นขนาดไมโคร มินิ หรือเมนเฟรม ในส่วนของเมนเฟรมทางสหวิริยาก็อยากเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เพื่อให้คนรู้จักชื่อของสหวิริยาขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้มีการพิจารณาที่จะทำเกี่ยวกับ MEGNETIC TAPE ขึ้นมา แล้วก็ได้พิจารณาดูหลายๆ บริษัทรวมถึงดู background พื้นฐานความสามารถในการผลิต ฯลฯ ซึ่งก็สรุปผลแล้วว่า GRAHAM เป็นบริษัทที่มีความมั่นคง มี back up ที่ดี และก็เป็นผู้นำทางด้านสื่อบันทึกข้อมูลด้านคอมพิวเตอร์ จึงได้ตกลงเซ็นสัญญากัน” เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดเปิดเผยในวันแถลงข่าว
การพบกันครึ่งทางของสองบริษัทนั้นเป็นผลมาจากด้าน background บริษัทรวมทั้งด้านนโยบายที่อาจเรียกว่าต่างก็มาตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย เลยกลายเป็นเรื่องความบังเอิญที่มาลงล็อกกันพอดิบพอดี
“นโยบายของสหวิริยาจะดูในแง่ระยะยาว คำถามที่เราจะถามคือคุณภาพน่าเชื่อถือหรือเปล่า แทนที่จะถามว่าราคาของคุณถูกหรือเปล่า ซึ่งนโยบายนี้ค่อนข้างจะ match กัน คือนโยบายของ GRAHAM เขาผลิตของที่มีคุณภาพ ต้องมั่นใจว่าขายไปแล้วลูกค้าต้องใช้งานได้อย่างมีประสิทธิผล ไม่มีปัญหา…ดูที่ของผมทุกคนจะมองแต่ราคา แต่อีกส่วนหนึ่งที่มากกว่าราคานั่นคือคุณภาพ…” แจ็ค เอ็ม. ซี. ฮู. กล่าวเสริมเมื่อพูดถึงเรื่องราคา
แหล่งธุรกิจที่สหวิริยาหมายตาไว้เป็นอันดับแรกก็คือบรรดาธนาคารต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ข้อมูลที่ชัดเจน ผิดพลาดไม่ได้ ดังนั้นอย่างไรเสียธนาคารก็เป็นตลาดส่วนหนึ่งที่จะรับไว้อย่างไม่มีปัญหา
“เขาคงจะไม่เกี่ยงว่าราคาผิดกัน 10% แต่ DATA ของเขามี SECURITY ที่สูงกว่า 3 เท่า 5 เท่า หรือ 10 เท่า แน่นอน… เขาจะเอาความปลอดภัยไว้ก่อน…”แจ็ค เอ็ม. ซี. ฮู. บอกอย่างมั่นใจ…
สหวิริยาทำธุรกิจมานานจากธุรกิจเล็กๆ จนเติบโตมาได้ขนาดนี้ ความจัดเจนสนามย่อมต้องมีภาษีอยู่แล้ว หากคิดจะจับทำสิ่งใดก็คงจะวางแผนไว้อย่างรอบคอบ เมื่อคิดจะขายเทปแม่แหล็กของ GRAHAM ที่สหวิริยาก็รู้ๆ อยู่ว่าราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่น แต่ด้วยความมั่นใจในคุณภาพที่นับว่าเป็นต่อ สหวิริยาก็เลยกล้าคุยว่า…เรื่องราคาก็ไม่ต้องพูดถึง!
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|