ผ่าสายตาสั้นให้เหมือนปกติธรรมดา เพิ่มบุคลิกของคนให้ดีขึ้น

ผ่าสายตาสั้นให้เหมือนปกติธรรมดา เพิ่มบุคลิกของคนให้ดีขึ้น

โดย พิม พนา
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2528)

กลับสู่หน้าหลัก

ผ่าสายตาสั้นให้ปกติเหมือนธรรมดา

เป็นการเพิ่มบุคลิกของคนที่ต้องใส่แว่น

ฉบับที่แล้วได้เขียนถึงเรื่องการเลือกแว่นตาใส่ให้เหมาะกับใบหน้าก็พอดีมีท่านผู้อ่านจดหมายมาถามว่าได้ข่าวมีจักษุแพทย์ที่สามารถผ่าตัดตาคนสายตาสั้นให้กลับมาเป็นปกติได้นั้นมีจริงหรือเปล่า

มีจริงครับ และนายแพทย์ผู้ผ่าตาคนนี้ก็ได้ผ่าไปแล้วเป็นร้อยราย

นายแพทย์ผู้นี้คือคุณหมอสุพงษ์ วงศ์วรเศรษฐ

ผู้เขียนได้ไปพบหมอสุพงษ์แล้ว และท่านก็เล่าให้ฟังว่าการผ่าตาสั้นให้กลับเป็นปกตินี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้วตั้งแต่ปี 1953 โดยจักษุแพทย์ผู้มีชื่อเสียงชาวญี่ปุ่นชื่อจักษุแพทย์ซาโต เขาได้คิดวิธีการผ่าตัดสายตาสั้นโดยใช้มีดที่เขาประดิษฐ์คิดสอดเข้าไปในตา แล้วกรีดด้านหลังของกระจกตาดำ แต่เนื่องจากวิธีของจักษุแพทย์ซาโตมีข้อเสียและมีผลเสียต่อกระจกตาดำ วิธีนี้จึงได้เลิกล้มไปจนกระทั่งในปี 1972 จักษุแพทย์ฟิโอโดรอฟ เป็นจักษุแพทย์ชาวรัสเซีย ได้ริเริ่มการผ่าตัดสายตาสั้นขึ้นมาใหม่ โดยมีเหตุการณ์ประหลาดอันหนึ่งเกิดขึ้น เด็กชาวรัสเซียคนหนึ่งเกิดชกต่อยกับเพื่อนและเกิดมีกระจกแว่นตาแตก ทำให้กระจกบาดกระจกตาดำมีบาทแผลเกิดขึ้น เด็กคนนี้ถูกรับเข้าโรงพยาบาล วันรุ่งขึ้นจักษุแพทย์มาตรวจเด็กคนนี้ก็ต้องเกิดความประหลาดใจอย่างมาก เพราะคนไข้สามารถอ่านตัวเลขบนจอได้โดยไม่ต้องใส่แว่นตา จักษุแพทย์ฟิโอโดรอฟจึงถูกตามมาตรวจเด็กคนนี้และพบว่ากระจกตาดำของข้างที่เกิดมีบาดแผลนั้นแบนราบกว่าอีกข้าง ด้วยเหตุนี้จึงสามารถแก้สายตาสั้นได้ จักษุแพทย์ฟิโอโดรอฟจึงให้ได้เหตุผลและทฤษฎีในการแก้ไขสายตาสั้นนี้ว่า เนื่องจากคนสายตาสั้นมีความยาวของกระบอกตายาวกว่าปกติและความโค้งของกระจกตาดำก็จะทำให้ส่วนนี้อ่อนแอและโปร่งออก ส่วนกลางของกระจกตาดำก็จะถูกดึงไปข้างๆ ทำให้ส่วนกลางนั้นจะยุบลงไปทั้งที่เห็นในภาพก็จะทำให้ความยาวกระบอกตานั้นสั้นลง ซึ่งสายตาที่สั้นก็จะถูกแก้ไขด้วยวิธีนี้

หมอสุพงษ์ให้เหตุผลของการผ่าตัดสายตาสั้นว่า

1. ถูกบังคับจากวิชาชีพ อย่างเช่น นักบิน ทหาร ตำรวจ พนักงานดับเพลิง ซึ่งมีข้อห้ามใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์ เพราะฉะนั้นพวกนี้ต้องได้รับการผ่าตัดก่อนจึงจะประกอบอาชีพนี้ได้

2. เพื่อการทำงานที่ดีขึ้น คนไข้ไม่ต้องพึ่งแว่นหรือคอนแทคเลนส์ต่อไป ทำอะไรก็สะดวกและมีประสิทธิภาพกว่า

3. เพื่อการเสริมบุคลิกและเพื่อความสวยงาม

การเลือกคนไข้ในการผ่าตัด

1. ต้องมีอายุเกิน 20 ปีขึ้นไป เพราะคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปียังมีโอกาสสั้นต่อไปอีก หลังผ่าตัด อาจต้องใส่แว่นอีก

2. คนไข้ต้องไม่มีโรคตาแดงอย่างน้อย 3 เดือน

3. ไม่เปลี่ยนแว่นเกิน 200 ในระยะเวลา 18 เดือน

4. ต้องไม่มีความผิดปกติของกระจกตาดำ

5. สายตาต้องสั้นอยู่ในช่วง 300-700

6. ถ้ามีโรคเบาหวานต้องได้รับการควบคุมอย่างถูกต้อง

เมื่อได้ผู้ป่วยมาแล้วเราก็จะตรวจสิ่งต่อไปนี้

ต้องตรวจสายตาว่า ขณะใส่แว่นนั้นอ่านได้ดีแค่ไหน คนไข้ต้องอ่านได้ไม่ต่ำกว่า 20/30 หรือ 20/40 เพราะถ้าใส่แว่นแล้วยังอ่านได้แค่ 20/200 ก็ไม่มีประโยชน์ในการผ่า เพราะถึงผ่าแล้วก็ยังมองไม่เห็น แสดงว่า เสียที่ประสาทตาหรือจอรับภาพด้วย

เมื่อตรวจครบแล้วเราก็จะนัดวันผ่า การผ่านี้ไม่ต้องวางยาสลบ ไม่ต้องฉีดยา ใช้หลอดยาเท่านั้น การผ่าใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ปิดตาแล้วก็กลับบ้านได้ วันรุ่งขึ้นก็จะเห็นทันทีการผ่าชนิดนี้คือการผ่าบนตาดำ เพื่อให้ความโค้งของตาดำโค้งน้อยลง ไม่มีการผ่าเข้าไปในตา ฉะนั้นจึงไม่มีอันตรายอย่างที่คิดไว้ เพราะเป็นการผ่าตัดภายนอก คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด แต่จะรู้สึกเคืองตาในวันแรกหลังผ่าตัดจากนั้นก็จะเป็นปกติ

การผ่าตัดจะทำข้างใดข้างหนึ่งก่อน แล้วรอ 2 อาทิตย์จึงจะผ่าตาข้างต่อไป การผ่าจะปิดตาข้างที่ผ่าเพียง 2 วัน ผ่าเสร็จก็กลับบ้านได้เลย แล้วก็หยอดยาต่อไป 1 เดือน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น อาจเห็นแสงไฟเป็นวาวๆ และแฉกๆ ในระยะ 2-3 เดือนแรก แล้วก็จะหายไป

ส่วนราคานั้นก็ตกข้างละประมาณ 4,000 บาท หรือ 8,000 บาทต่อคู่

คอลัมน์ PERSONAL MANAGEMENT

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย