|
คอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสผู้รู้วิธีหากำไรจากการบาร์เตอร์
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2528)
กลับสู่หน้าหลัก
ฌอง-บาบติส ดูมอง (JEAN-BAPTISTE DOUMENG) เป็นที่รู้จักของคนฝรั่งเศสว่าเป็น “เศรษฐีคอมมิวนิสต์” เขาเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ตั้งแต่วัยรุ่น และรู้จักกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโซเวียตเกือบทุกคนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
เขาเป็นคีย์แมนคนสำคัญในทางการค้าระหว่างฝรั่งเศส-โซเวียต นอกจากนี้ยังเป็นนักเคาน์เตอร์ เทรด ผู้มีประสบการณ์มากที่สุดคนหนึ่งของโลก หลังจากคร่ำหวอดอยู่ในวงการกว่า 38 ปี
ดูมอง อายุ 66 ปีแล้ว เขาเริ่มค้าขายแลกเปลี่ยนกับประเทศในกลุ่มคอมมิวนิสต์ โดยขายปุ๋ยเพื่อแลกกับรถแทรกเตอร์ เขาสร้างความร่ำรวยขึ้นมาด้วยการหาตลาดให้กับสินค้าประเภทอาหารที่มีมากมายเกินพอของประเทศประชาคม เศรษฐกิจยุโรป โดยขายให้กับโซเวียต
บริษัท อินเตอร์ อักรา (INTERAGRA) ที่เขาก่อตั้งขึ้นในปี 1947 ได้กลายเป็นบริษัทค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป มีพนักงานกว่า 650 คน และสำนักงานต่างประเทศกว่า 15 แห่ง อินเตอร์ อักราซื้อขายสินค้ากว่า 32 ชนิด ตั้งแต่น้ำมัน เครื่องมือทำฟาร์ม ไม้ เนื้อสัตว์ และธัญพืช 1 ใน 3 ของปริมาณการค้าทำกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก แต่รวมแล้วค้าขายกับ 64 ประเทศ
ในปีนี้ ดูมองจะขายเนยกว่า 200, 000 ตัน และข้าวสาลีกว่า 4 ล้านตัน ในตลาดจร ประมาณครึ่งหนึ่งของธุรกิจเป็นแบบเคาน์เตอร์เทรด ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นการค้าขายโดยตรง
ถึงแม้จะประกาศตัวเป็นคอมมิวนิสต์ เขาก็ยังตั้งเป้าหมายทำกำไรเป็นเป้าหมายแรก อินเตอร์ อักรา ทำกำไรได้ประมาณปีละ 6 ล้านเหรียญจากยอดขาย 3 พันล้าน ทำให้เขามีเครื่องบินไอพ่นส่วนตัวใช้ กินอาหารหรูหราราคาแพงในปารีสบ่อย ๆ และมีที่ดินอีกมหาศาลอยู่ทางใต้ของฝรั่งเศล บ้านของเขามีสระว่ายน้ำและคอกม้าแข่ง
“เคาน์เตอร์เทรดไม่เกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจ” เขากล่าว "มันเป็นผลพวงของปัญหาทางการตลาด ความไม่มั่นคงของเงินตราต่างประเทศและปัญหาด้านเครดิต” เขากล่าวปฏิเสธข่าวลือที่ว่าบริษัทของเขาให้เงินสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียต และรัฐบาลโซเวียตเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท
นักวิพากษ์วิจารณ์บางคนกล่าวว่าดูมองตักตวงเอาผลประโยชน์จากประเทศกำลังพัฒนาไม่ต่างไปจากพวกจักรวรรดินิยมในศตวรรษที่ 19 ด้วยการสร้างโรงงานที่ประเทศในโลกที่ 3 ไม่ต้องการ
ดูมองกล่าวว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสเชื้อเชิญให้เขาไปช่วยเจรจาทางการค้าเพื่อให้ฝรั่งเศสได้สัญญาขายสินค้าส่งออกจากประเทศในยุโรปตะวันออก เขาไม่คิดว่านโยบายของรัฐบาลฝรั่งเศสเปลี่ยนไปมากนัก “ก็เหมือนกับรัฐบาลชุดก่อน ๆ” เขากล่าว “ธุรกิจย่อมเป็นธุรกิจ”
คอลัมน์ ต่างประเทศ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|