|
ยุบเอ็นซีซี เจอข้อหางานซ้ำซ้อน
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2526)
กลับสู่หน้าหลัก
เอ็นซีซีหรือในชื่อเต็มเป็นทางการว่า “คณะกรรมการพิจารณากำหนดนโยบายและการบริหารงานคอมพิวเตอร์ของรัฐ” สำหรับคนทั่วไปอาจจะยังไม่ทราบว่า มีหน้าที่อย่างไรและสำคัญแค่ไหน แต่สำหรับหน่วยงานรัฐที่อยากมีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งานสักระบบสองระบบตลอดถึงยุทธจักรนักขายคอมพิวเตอร์แล้ว ซึมทราบความข้อนี้เป็นอย่างดีทุกประการ
ทั้งนี้เพราะกว่าที่หน่วยราชการแต่ละแห่งจะติดตั้งคอมพิวเตอร์ได้นั้น ข้อมูลทุกขั้นตอนตั้งแต่ความจำเป็น ความเหมาะสมจนถึงสเป็กของเครื่องจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดนี้เสียก่อน การจัดซื้อหรือเช่าจึงจะเริ่มขึ้นได้
“ถ้าท่านบอกว่าเยสก็เยส เกิดบอกว่าโนก็ต้องโนทำนองนั้น” แหล่งข่าวในวงการสรุป
เอ็นซีซีตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจของนายกรัฐมนตรีในประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 ข้อ 9 (6) และได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 18/2520 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดนโยบายและการบริหารงานคอมพิวเตอร์ของรัฐ สั่ง ณ วันที่ 27 มกราคม 2520 ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้คงไว้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อกลั่นกรองเรื่องการมีการใช้คอมพิวเตอร์ของทุกหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ
จนเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันก็มีมติยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งเอ็นซีซี อันถือเป็นการยุบคณะกรรมการชุดนี้ตามข้อเสนอของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกนายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ด้วยเหตุผลว่าเอ็นซีซีทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกับ “คณะกรรมการสถิติแห่งชาติ” ซึ่งตั้งไว้แล้วก่อนหน้าเอ็นซีซี การยุบคณะกรรมการชุดนี้ไม่ปรากฏเป็นข่าวสาธารณชนแต่อย่างใด คงเป็นเรื่องที่พูดกันในหมู่ผู้เกี่ยวข้องเงียบๆ
ที่จริงข่าวเรื่องเอ็นซีซีจะอยู่หรือไปนั้น ได้มีการกล่าวถึงอย่างหนาหูมาแล้วตั้งแต่ต้นปี 2526 สมัยที่นายชาญ มนูธรรม เป็นผู้รับผิดชอบ จนในที่สุดคณะรัฐมนตรีชุดนี้ได้มีมติเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2526 ยืนยันให้เอ็นซีซีคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปนั้นแหละจึงได้หยุดพูด
ปฏิกิริยาในเชิงไม่เห็นด้วยนั้นมีนายไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ ซึ่งเข้ามารับผิดชอบงานด้านนี้แทนนายชาญ มนูธรรม ด้วยผู้หนึ่ง และไม่ใช่ไม่เห็นด้วยเฉยๆ วันที่ 14 กันยายน 2526 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกจากพรรคกิจสังคมท่านนี้ก็ร่างหนังสือกราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี มีใจความว่า.....
“ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการและคณะกรรมการอื่นในคณะกรรมการสถิติแห่งชาติ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 9 สิงหาคม 2526 นั้นกระผมได้พิจารณาขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสถิติแห่งชาติซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา 8 ของพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2508 ความว่า ให้คณะกรรมการสถิติแห่งชาติ มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่สำนักงานสถิติแห่งชาติและเมื่อได้พิจารณาถึงอำนาจหน้าที่ของสำนักงานสถิติแห่งชาติตามมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ตลอดถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในเรื่องการบริหารงานและปฏิบัติการด้านคอมพิวเตอร์อยู่ด้วย คือศูนย์ประมวลผลด้วยเครื่องจักรแห่งประเทศไทย ขณะนี้ในการบริหารงานและกำหนดนโยบายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นี้ มีคณะกรรมการชุดหนึ่งซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจของนายกรัฐมนตรีในประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 ข้อ 9(6) โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 18/2520 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดนโยบายและการบริหารงานคอมพิวเตอร์ของรัฐสั่ง ณ วันที่ 27 มกราคม 2520 ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้คงไว้ คณะกรรมการชุดนี้มิได้มีความเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสถิติแห่งชาติตามพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2508 จึงทำให้การปฏิบัติงานไม่ประสานกันเท่าที่ควร” นั่นคือใจความในท่อนแรก ซึ่งสรุปประเด็นสำคัญก็คือเอ็นซีซีนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ “คณะกรรมการสถิติแห่งชาติ” ทั้งยังไม่ประสานงานกัน แม้จะมีหน้าที่เกี่ยวข้องอย่างสัมพันธ์
ดังนั้นใจความท่อนต่อมาของหนังสือนายไชยศิริ จึงกล่าวว่า “อนึ่ง ได้พิจารณาถึงบทบัญญัติมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2508 ความว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ถ้าคณะกรรมการสถิติแห่งชาติ เห็นสมควรแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อทำการใดๆ ตามที่มอบหมายหรือเชิญบุคคลใดมาให้ ข้อเท็จจริง คำอธิบายแนะนำหรือให้ความเห็นก็ให้กระทำได้ กระผมมีความเห็นว่าหากได้รวมงานเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและการบริหารงานคอมพิวเตอร์ของรัฐไว้กับอนุกรรมการฯ ที่คณะกรรมการสถิติแห่งชาติจะตั้งขึ้นเพื่อรับผิดชอบงานด้านนี้ ก็จะทำให้การปฏิบัติงานด้านสถิติของชาติและการบริหารงานคอมพิวเตอร์ของรัฐมีความสอดคล้องและมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก จึงขอยกเลิกคณะกรรมการพิจารณากำหนดนโยบายและการบริหารงานคอมพิวเตอร์ของรัฐ ซึ่งตั้งขึ้นตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 18/2520 สั่ง ณ วันที่ 27 มกราคม 2520 จึงประทานกราบเรียนมาเพื่อโปรดนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไปด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง...”
เรื่องดังกล่าวนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 27 กันยายนศกนี้ และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอทุกประการ
บ๊ายบาย...เอ็นซีซี
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|