แลนด์ใส่ทุนแบงก์ใหม่ควัก700ล.ถือหุ้น70%


ผู้จัดการรายวัน(17 มีนาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"อนันต์ อัศวโภคิน" กุมเบ็ดเสร็จในธนาคารสินเชื่อเพื่อรายย่อย หลังบอร์ดมีมติแลนด์-ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) ใส่เงินเพิ่มทุนกว่า 700 ล้านบาท ดันสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ 70% คาดไม่เกิน 1 ปี ยกระดับเป็นแบงก์เพื่อรายย่อยได้แน่นอน พร้อมนั่งเก้าอี้ประธานและกรรมการผู้จัดการ ระบุจากนี้เป็นขั้นตอนควบรวมกิจการกับบง.บุคคลัภย์ จำกัด (มหาชน) และรับโอนทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมด

ในวงการอสังหาริมทรัพย์แล้วบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาฯอันดับต้นๆ ของประเทศไทย และจากนี้ไปความยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่งของบริษัทแลนด์ฯ จะเติบโตเป็นทวีคูณ หลังจากที่ขุมกำลังทางด้านการเงินของบริษัทฯ ได้ก่อตัวขึ้นจากการที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้ขายบริษัทเงินทุน (บง.) บุคคลัภย์ให้ ซึ่งนายอนันต์ อัศวโภคิน หมายมั่น ที่จะยกระดับเป็นธนาคารเฉพาะกิจที่ทำธุรกิจด้านสินเชื่ออสังหาฯ

ล่าสุดนายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) LH แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 2/2548 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2548 มีมติให้บริษัทเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LHCF) เป็นจำนวนเงินรวม 661,360,000 บาท จำนวน 4,724,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท) ในราคาหุ้นละ 140 บาท ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน LHCF เพิ่มขึ้นเป็น 43 %จากเดิม 0.60%

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) QH ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของแลนด์ (ถือหุ้นQH สัดส่วน 21.84 % ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547) ให้บริษัทลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ LHCF เป็นจำนวนเงินรวม 414,960,000 บาท จำนวน 2,964,000 หุ้น ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของQH เพิ่มเป็น 27% จากเดิม 0.60% อย่างไรก็ตามหากพิจารณามูลค่ารวมของรายการข้างต้น คิดเป็นจำนวนเงิน 751, 987,264 บาท เนื่องจากในรายการที่ QH ซึ่งเป็นบริษัทร่วม จะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ LHCF โดยนับมูลค่ารายการตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท คิดเป็นจำนวนเงินรวม 90,627,264 บาท

ทั้งนี้ บริษัทจะเข้าทำรายการภายหลังจากได้รับอนุมัติการทำรายการดังกล่าวจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัท ครั้งที่ 1/2548 จัดในวันที่ 19 เมษายน 2548 ซึ่งจะเกี่ยวกับรายการให้ LHCF แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ LHCF มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 100 ล้านบาท เป็น 2,600 ล้านบาท และมีมติอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 4,724,000 หุ้น เสนอขายให้แก่บริษัท, การรับโอนสินทรัพย์ หนี้สินและภาระผูกพันทั้งหมดหรือบางส่วนที่สำคัญจากบง.บุคคลัภย์ฯมาให้ LHCF สำหรับบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ฯ ดำเนินธุรกิจด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซื้อขาย รับซื้อฝาก จัดหาและจำหน่ายซึ่งที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ การเช่า ให้เช่าซื้อ แลกเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์ การให้กู้ยืมเงิน โดยวิธีรับจำนองอสังหาริมทรัพย์เป็นประกัน รวมถึงการประกอบธุรกิจอื่นใดอันเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเครดิต ฟองซิเอร์ ซึ่งแผนการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยของ LHCF ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงการคลังโดยคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2547 ทั้งนี้ขั้นตอนการยกระดับเป็นธนาคารเพื่อสินเชื่อรายย่อย คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2548) รวมทั้งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ของ LHCF และคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนของ BC ให้แก่กระทรวงการคลังภายในวันเปิดดำเนินการในส่วนของกรรมการได้มีการระบุอย่างชัดเจน มีกรรมการร่วมจำนวน 2 ราย

นอกจากนี้ นายอนันต์ อัศวโภคิน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการของบริษัท นั่งตำแหน่งประธานกรรมการ LHCF และนายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการ และรองกรรมการของบริษัทนั่งเป็นกรรมการของ LHCF, ดร.ศิริ การเจริญดี (อดีตรองผู้ว่าการธปท.) นั่งตำแหน่งกรรมการกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ, นายอดิศักดิ์ อธิราษฎร์กุล กรรมการ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.