|

ธปท.ปฏิเสธควบBT-SCIB
ผู้จัดการรายวัน(16 มีนาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
รองผู้ว่าการแบงก์ชาติยันไม่มีแผนควบรวมกิจการธนาคารที่กองทุนฟื้นฟูฯถือหุ้นอยู่ ย้ำไม่เคยระบุจะควบรวมกิจการนครหลวงไทยกับไทยธนาคาร เป็นเพียงภาพรวมของสถาบันการเงินที่จะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อรองรับการแข่งขัน แย้มกองทุนฟื้นฟูฯ พร้อมขายหุ้นออกหากได้ราคาที่ดี ด้านราคาหุ้น "ไทยธนาคาร" ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนกระแสบวก 3.45%
นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การควบรวมกิจการของสถาบันการเงินตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน) ในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่ที่มีภาวะควบรวมให้เห็นนั้นเป็นเรื่องของธุรกิจที่จะร่วมมือกันเพื่อความแข็งแกร่งของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง พร้อมที่จะมีศักยภาพในการแข่งขัน และสามารถอยู่รอดได้ทั้งนี้ การรวมกิจการไม่ว่าจะเป็นระหว่างสถาบันการเงินของรัฐบาลหรือของเอกชนก็ตามสิ่งสำคัญคือสถาบันการเงินที่จะจับคู่เพื่อควบรวมกิจการเข้าด้วยกันจะต้องมีลักษณะการดำเนินธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน และมีความต้องการที่ตรงกัน รวมทั้งมีปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เหมาะสมในการรวม ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องมีขนาดใหญ่แล้วกิจการจะแข็งแกร่งเสมอไป
"เข้าใจว่าธนาคารแต่ละแห่งมีการเจรจาหารือกันอยู่ และบางรายที่เลิกเจรจากับรายหนึ่งแล้วหันไปสนใจอีกแห่งก็มี หากใครมีเงื่อนไขตรงกันก็สามารถเกิดแผนการควบรวมกิจการขึ้นได้ เป็นความสมัครใจของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ใช่การบังคับ ซึ่งแผนการรวมกิจการนั้นตนไม่เคยระบุชื่อว่าธนาคารนครหลวงไทยจะรวมกิจการกับธนาคารไทยธนาคารแต่อย่างใด" นางธาริษากล่าว
อย่างไรก็ตาม การเจรจาในธุรกิจของสถาบันการเงินเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากทุกแห่งต้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของแต่ละแห่งเพื่อประเมินศักยภาพการแข่งขันของตนเองและปรับปรุงพัฒนาธุรกิจต่อไป ซึ่งในระยะต่อไปจะเกิดการเจรจากันอยู่ตลอด โดยภาวะในลักษณะดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไร
สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ) เป็นผู้ถือหุ้นนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีนโยบายที่จะนำธนาคารที่ถือหุ้นอยู่ไปควบรวมกันเอง เนื่องจากกองทุนฟื้นฟูฯ ก็ไม่มีนโยบายลงทุนระยะยาวในธนาคารพาณิชย์ แต่หากมีการติดต่อขอเจรจาซื้อหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในปัจจุบันเข้ามาทางกองทุนฟื้นฟูฯก็พร้อมที่จะขายออกหากเป็นช่วงที่ได้ราคาดี ซึ่งการพิจารณาว่าราคาขายจะมีความเหมาะสมหรือไม่เป็นหน้าที่ของกองทุนฯ
รายงานข่าวจาก ธปท.แจ้งว่าปัจจุบันทางกองทุนฟื้นฟูฯถือหุ้นอยู่ในธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารไทยธนาคาร ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน และธนาคารยูโอบีรัตนสิน ที่กองทุนฟื้นฟูเพิ่งตัดสินใจขายหุ้นให้กับธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ไปทั้งหมด 802 ล้านหุ้น หรือ 16.22% ในราคา 2,950 ล้านบาท โดยมีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปแล้วเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้นธนาคารไทยธนาคาร (BT) และนครหลวงไทย (SCIB) วานนี้ (15 มี.ค.) ปรากฏว่า ราคาหุ้น BT วิ่งสวนกระแสตลาดที่ปรับตัวลดลง โดยปิดที่ราคาหุ้นละ 6.00 บาท เพิ่มขึ้นจาก วันก่อน 0.20 บาท หรือ 3.45% มูลค่าการซื้อขาย 101.37 ล้านบาท ขณะที่ SCIB ปรับตัวลงปิดที่ 24.70 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.30 บาท หรือ 1.20% มูลค่าการซื้อขาย 355.29 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|