เหมราชฯลดเพดานขายที่ดิน


ผู้จัดการรายวัน(15 มีนาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"เหมรา" ประกาศปรับโครงสร้างรายได้ลดความเสี่ยง ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากการปล่อยเช่า เก็บค่าสาธารณูปโภค 35% ธุรกิจอสังหาฯ 25% ลดรายส่วนการขายที่ดิน 40% ในยะเวลา 4-5 ปี คาดปี48 รับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียมเดอะพาร์คชิดลม 2,400 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4,800 ล้านบาท

นายเผ่าพิทยา สมุทรกลีน ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และวางแผน บริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบันบริษัทมีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ในการบริหาร 4 แห่ง ซึ่งทั้ง 4 แห่งมีพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการบริหารการขาย ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมชลบุรีมี 520 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 3,700 ไร่ นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก 230 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 2,700 ไร่ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด1,500-1,800 ไร่จากพื้นที่ทั้งหมด 8,080 ไร่ และนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (มาตาพุด) ซึ่งบริษัทได้ซื้อมาในปี 2547 โดยมีสัญญาว่าจะซื้อขายที่ดินทั้งหมดจำนวน 9,300 ไร่

แต่ในขณะนี้ได้ทำสัญญาซื้อขายไปแล้ว 6,800 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 2,500 ไร่ จะซื้อเข้ามาในช่วง 3 ปีนี้ นอกจากนี้ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมตะวันออก ในปีนี้จะมีการซื้อที่ดินเข้ามาใหม่อีก 200-300 ไร่

ทั้งนี้ทีผ่านมานับจากช่วงก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 บริษัทมีรายได้จากการขายที่ดินประมาณ98 % ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการให้บริการในนิคมอุตสาหกรรม ทำให้เมื่อเกิดช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ

บริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่องด้านการเงิน ดังนั้นบริษัทมีแผนปรับสัดส่วนรายได้ใหม่ โดยจะเพิ่มรายได้ในส่วนของการปล่อยเช่า และการจัดเก็บค่าสาธารณูปโภคและลดรายได้ในส่วนของการขายที่ดินลงในช่วงระยะเวลา 4-5 ปีนี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของบริษัท

โดยบริษัทตั้งเป้าว่าในอนาคต บริษัทจะมีรายได้จากการขายที่ดิน 40% การเก็บค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่าโรงงาน และอื่นๆ 35% ส่วนที่เหลืออีก 25% จะมาจากการพัฒนาโครงการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

จากที่ปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักจากการขายที่ดินอยู่ที่ 60% ส่วนที่เหลือ 40% มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การบริหารโครงการ จัดเก็บค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่า และอื่นๆ

นายเผ่าพิทยา กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 4,800 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีรายได้ 3,700 ล้านบาท โดยจะมีรายได้ส่วนมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม เดอะพาร์ค ชิดลม 2,400 ล้านบาท จากที่ปี 2547 โครงการดังกล่าวมียอดขายอยู่ที่ 313 ล้านบาท

นอกจากนี้ในส่วนของรายได้จากนิคมอุตสาหกรรมคาดว่าปีนี้จะมียอดขายที่ดินประมาณ 750 ไร่ ส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคในนิคมฯปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 20% หรือประมาณ 525 ล้านบาทและในส่วนของธุรกิจให้เช่าโรงงานในปีนี้คาดว่าจะขายพื้นที่ให้เช่าได้เพิ่มขึ้นประมาณ 60% หรือ 1.1 แสนตารางเมตร จากปี 2547 ที่มีพื้นที่ให้เช่า 7.3หมื่นตารางเมตร

สำหรับงบลงทุนในปีนี้ จะใช้เงินลงทุนในการพัฒนาโครงการทั้งหมดประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนในโครงการเดอะ พาร์ค 1,000 ล้านบาท จากวงเงินกู้ในการพัฒนาโครงการทั้งหมด 1,800 บาท และที่เหลือเป็นเงินลงทุนในการขายนิคมอุตสาหกรรมโรงงานให้เช่า และสาธารณูปโภค ส่วนแหล่งเงินทุนจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทซึ่งปัจจุบัน มีทุนหมุนเวียนประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะออกหุ้นกู้หรือตั๋วบี/อีหรือกู้จากสถาบันการเงิน คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.