บีทีเตรียมบุกธุรกิจกองทุนครบวงจรตั้งเป้าบริหารกองทุนสำรอง 5 หมื่นล.


ผู้จัดการรายวัน(10 มีนาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

บลจ.บีทีตั้งเป้ารุกธุรกิจกองทุนรวมครบวงจร เตรียมเปิดตัวต้นเดือนพ.ค. "อนุสรณ์" ตั้งเป้าบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ ส่วนกองทุนรวมคาดออก 6-8 กองทุน มูลค่า 5.2-7.5 พันล้านบาท ขณะที่กองทุนส่วนบุคคลตั้งเป้า 2.5-3.5 พันล้านบาท เชื่อมั่นตลาดหุ้นมีโอกาสแตะ 900-1,000 จุด ขณะที่ตลาดกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนมีเงินออม

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด หรือ BTAM เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทมุ่งสู่การเป็นบริษัทจัดการกองทุนรวมที่ให้บริการครบวงจรตั้งแต่การออกกองทุนรวม การบริการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การบริหารกองทุนส่วนบุคคล และธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน โดยขณะนี้บริษัทได้รับใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจจัดการกองทุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนใบอนุญาต (ไลเซนส์) ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยจะมีการโอนพอร์ตการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากธนาคารไทยธนาคารที่มีมูลค่า 2.3-2.4 หมื่นล้านบาท มาบริหารจัดการได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ และตั้งเป้าบริหารสินทรัพย์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปีนี้ที่ 5 หมื่นล้านบาท

สำหรับการออกกองทุนรวมตราสารหนี้และตราสารทุนในปีนี้ตั้งเป้าออกกองทุนประมาณ 6-8 กองทุน มูลค่ารวม 5.2 พันล้านบาท และในอนาคตบริษัทตั้งเป้าหมายบริหารจัดการสินทรัพย์รวมประมาณ 5 หมื่นล้านบาท

นายอนุสรณ์กล่าวว่า บริษัทจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นก็จะทยอยออกกองทุน โดยกองแรกจะเปิดตัวในวันที่ 19 พฤษภาคม โดยกองแรกที่ออกน่าจะเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น เนื่องจากได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่มีเงินออม และแสวงหาผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

สำหรับกองทุนตราสารทุนจะทยอยออกเป็นระยะ เนื่องจากบริษัทประเมินว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยในปีนี้น่าจะยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยประเมินว่าดัชนีมีโอกาสไปแตะที่ระดับ 900-1,000 จุด เพราะไทยมีโอกาสได้รับการปรับอันดับเครดิตจากสถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในการลงทุน

นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าในส่วนของกองทุนส่วนบุคคล โดยใช้เครือข่ายกลุ่มลูกค้าธนาคารไทยธนาคาร ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท โดยปีนี้ตั้งเป้าบริหารกองทุนส่วนบุคคลประมาณ 2.5-3.5 พันล้านบาท

"การขยายฐานลูกค้าของเราจะ อาศัยช่องทางการขายผ่านธนาคารไทยธนาคารเป็นช่องทางหลัก และใช้ทีมขายของบริษัทในการเจาะกลุ่มลูกค้า" นายอนุสรณ์กล่าว

สำหรับแนวโน้มการแข่งขันธุรกิจกองทุนรวมในปีนี้คาดว่าจะมีการแข่งขันมากขึ้น เนื่องจากมีบลจ.ใหม่เข้ามาในตลาด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแข่งขันที่สูงจะทำให้ยอดการลงทุนผ่านกองทุนรวมขยายตัวเพิ่ม และเชื่อว่าในส่วนของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งมีการให้สิทธิพิเศษด้านภาษีกับนักลงทุนจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เนื่องจากได้รับผลประโยชน์ด้านภาษี และนักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนผ่านกองทุน RMF และ LTF มากขึ้น

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ปัจจัยหนุนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแตะที่ 900-1,000 จุด นอกเหนือจากการปรับอันดับเครดิตประเทศแล้ว ยังมีเรื่องของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทประเมินว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะขยายตัวประมาณ 20%

สำหรับเป้าหมายที่ตั้งไว้ในอนาคตสำหรับบลจ.บีที ต้องการให้เป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของบลจ.ในทุกๆด้านภายใน 3 ปี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.