|
"ไทรทอง" แตกไลน์รุกธุรกิจอสังหาฯผุดรีสอร์ตหรู Di Mare หัวหิน-ดึงไนท์แฟรงค์ฯบริหารการขาย
ผู้จัดการรายวัน(8 มีนาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
กลุ่มผู้ประกอบการจิวเวลรี "ไทรทอง" แตกไลน์ธุรกิจ บุกตลาดอสังหาฯดึงไนท์แฟรงค์ฯ บริหารการขาย ออกแบบและก่อสร้าง ผุด "Di Mare หัวหิน" โครงการหรูสไตล์รีสอร์ต จับกลุ่มลูกค้าบีบวก นักธุรกิจเจ้าของกิจการ และชาวต่างชาติ มูลค่า 800 ล้าน ชูคอนเซ็ปต์บ้านพักผ่อนครบวงจรโครงการเดียวในหัวหิน คาดยอดจอง 200 ยูนิต ในงานเปิดตัว 7 มี.ค. ด้านไนท์แฟรงค์ฯ แจง ปี48 เซ็นสัญญารับบริหารการขายเพิ่ม 5 โครงการตั้งเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาท
นายสรรเสริญ ธีระสาสน์ ประธานบริษัท ไทรทองอนันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา (2003) จำกัด กล่าวในงานเปิดตัวโครงการ "Di Mare หัวหิน" ว่า ไทรทองเป็นกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจค้าจิวเวลรีและสื่อสิ่งพิมพ์ โดยมีหนังสือพิมพ์มหาชนนิวส์ในการบริหาร ส่วนไทรทอง พร็อพเพอร์ตี้ นับเป็นบริษัทลูกในเครือที่ขยายไลน์ธุรกิจ เข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง Di Mare เป็นโครงการแรกที่บริษัท ได้พัฒนา โดยจะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน หรือกลุ่มที่จะซื้อบ้านหลังที่สอง ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าระดับผู้บริหาร ชาวต่างชาติ นักลงทุน และประชาชนในท้องถิ่น โดยในโครงการนี้ได้ว่าจ้างให้บริษัท ไนท์ แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินงานบริหารและดำเนินการวางรูปแบบ ออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารการขายโครงการให้
"สำหรับจุดขายของโครงการนี้ จะอยู่ที่รูปแบบของโครงการที่เป็นโฮมรีสอร์ตส่วนตัว และเป็นสังคมคุณภาพแห่งการพักผ่อน ซึ่งแตกต่างจากบ้านหลังแรก เน้นในเรื่องของความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และบริการหลังการขาย ซึ่งจะมีทีมดูแลบ้านอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง แม้ในขณะที่ผู้อาศัยไม่เข้ามาพักผ่อน" นายสรรเสริญกล่าว
นายสรรเสริญกล่าวว่า โครงการ Di Mare หัวหิน เป็นโครงการบ้านหรู สไตล์ รีสอร์ต ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Real Resot Lifestyle" มีมูลค่าขาย 800 ล้านบาท บนเนื้อที่ 72 ไร่เศษ จำนวน 142 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 2.44 ล้านบาท-12 ล้านบาท ซึ่งแบ่งโครงการออกเป็น 2 ส่วนคือ แบบบ้านเดี่ยว และบ้านเดี่ยวพิเศษ แบบ Cluster House โดยในกลุ่ม บ้านแบบ Cluster จะมี 4 กลุ่ม คือ Pool Cluster กลุ่มบ้านเดี่ยวที่รายล้อมด้วยสระว่ายน้ำ กลุ่ม Bali Cluster กลุ่มบ้านที่มีความเขียวชอุ่มของต้นไม้ และการตกแต่งบาหลีสไตล์ กลุ่มบ้าน Venice Cluster กลุ่มบ้านที่มีท่าน้ำยื่นไปใน Lake น้ำใสกว่า 8 เมตร และกลุ่มบ้าน Twin Cluster กลุ่มบ้านแบบ พิเศษเพื่อการลงทุน ที่สามารถคืนกำไรให้กับลูกค้าได้
อนึ่งที่ดินในโครงการดังกล่าว ยังมีภาระผูกพันอยู่กับธนาคารกรุงไทย ดังนั้นการลงทุนในโครงการนี้จึงเป็นการลงทุนโดยใช้เงินกู้จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 60% และใช้เงินทุนของบริษัท ไทรทองอนันตา รีสอร์ทฯ 40%
ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะเข้ามาดูแลการก่อสร้างการดำเนินการโครงการนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบตลอดจนถึงการบริหารการขายในโครงการจนกว่าจะปิดการขายโครง การทั้งหมด ทั้งนี้ที่ผ่านมาโครงการ ในลักษณะบ้านพักตากอากาศในพื้นที่ตลาดหัวหินนับว่ายังไม่มีการเปิดตัว ซึ่งโครงการถือเป็นโครงการ แรกที่เข้ามาพัฒนาในรูปแบบบ้านพัก สไตล์รีสอร์ต โดยก่อนหน้านี้การเข้ามาลงทุนเปิดตัวโครงการของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 85% จะเป็นการเปิดตัวโครงการลักษณะโครงการอาคารชุด และในปัจจุบันยังไม่มีโครงการในลักษณะนี้ที่เปิดตัวในหัวหิน ทำให้คู่แข่งของโครงการนี้ยังไม่มี ดังนั้นจึงเชื่อว่าโครงการนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีครึ่งก็จะสามารถปิดการขายได้
ทั้งนี้ การที่ยังไม่มีคู่แข่งที่เข้ามาเปิดตัวโครงการในลักษณะนี้ในพื้นที่ เนื่องจากราคาที่ดินที่หัวหินมีราคาที่สูง คือราคาขายต่อตารางวาอยู่ที่ประมาณ 16,000-23,000 บาท และนอกจากนี้ที่ดินขนาดใหญ่แปลงเดียวที่จะขึ้นโครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่หัวหินมีจำนวนน้อยทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นยังไม่เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการในรูปแบบดังกล่าว อย่างไรก็ตามในปี 2547 ที่ผ่านมาตลาดหัวหินมีผู้ประกอบการเข้ามาพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ขายอยู่ประมาณ 7 โครงการซึ่งส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จจากการขายเกือบทุกโครงการ
สำหรับโครงการ Di Mare หัวหิน จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 เฟส โดยในเฟสแรกจะก่อสร้างบ้านจำนวน 80 ยูนิต ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 15 เดือน ส่วนเฟสที่ 2 จะเป็นการก่อสร้างบ้านในส่วนที่เหลือ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาทั้งหมดในการก่อสร้างทั้ง 2 เฟสไม่เกิน 2 ปี
ทั้งนี้ ในวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวพร้อมเปิดให้จองซื้อบ้านในโครงการ แล้วโดยผู้ที่ซื้อบ้านในงานดังกล่าวจะได้รับส่วนลด ราคาขายสูงสุด 600,000 บาท และคาดว่าในงานดังกล่าวจะมียอดจองซื้อบ้านประมาณ 200 ยูนิต ซึ่งในช่วงก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้มีลูกค้าเข้ามาซื้อที่ดินในโครงการและสร้างบ้านเองแล้ว โดยเป็นการซื้อที่ดินหลายๆ แปลงมารวมกันซึ่ง ได้ขายไปในราคา 20 กว่าล้านบาท
นายพนม กล่าวถึงการดำเนินงานในส่วนของ บริษัท ไนท์แฟรงค์ฯ ว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายประมาณ 1,000 กว่าล้านบาทจากการบริหารการขายโครงการในมือ 4 โครงการ คือ โครงการคอนโดมิเนียม อเวนิว 61 สุขุมวิท โครงการวิลล่า 3 โครงการ ส่วนในปี 2548 นี้บริษัท ได้เซ็นสัญญารับบริหารการขายโครงการแล้วทั้งหมด 6 โครงการประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม ในกรุงเทพฯ 2 โครงการ เป็นโครงการ โลว์ไลต์ 1 โครงการ และโครงการไฮไลต์อีก 1 โครงการ และโครงการ บ้านจัดสรร 1 โครงการ ส่วนในต่างจังหวัดอีก 2 โครงการประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียมในจังหวัดระยอง 1 โครงการ และโครงการ Di Mare หัวหิน โดยคาดว่าในปีนี้บริษัทจะมียอดขายจาก 5 โครงการดังกล่าว 3,000 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|