|
นิสสันอัดฉีดเงิน 2.9 หมื่นล.
ผู้จัดการรายวัน(8 มีนาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
นิสสันปรับแผนลงทุนในไทย เพิ่มเงินลงทุนอีก 1.9 หมื่นล้านบาท รวมทั้งหมดทุ่มกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท รองรับภาคการผลิตปิกอัพ และรถยนต์นั่งโมเดลใหม่ในไทยแห่งแรกในโลก ยกระดับไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เผยเบื้องต้นปีนี้ทุ่มกว่า 4.4 พันล้านบาท ขยายไลน์และเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมปรับการบริการก่อนและหลังการขาย สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า รองรับแผนยอดขายเติบโต 3 เท่าภายในปี 2551 มั่นใจปีนี้ยอดขายทะลุ 5.2 หมื่นคัน
นายโคซาคุ โฮโซคาวา ประธานบริษัท สยามนิสสันออโตโมบิล จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่สยามนิสสันฯ ได้ประกาศแผนธุรกิจ 5 ประการเมื่อกลางปีที่แล้ว โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมด 5 ปี ครอบคลุมทั้งเรื่องการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เพิ่มเป้าหมายการขาย ปรับปรุงคุณภาพการบริการ ใช้ไทยเป็นฐานส่งออกปิกอัพและรถรุ่นอื่นๆ และขยายกำลังการผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์สยามนิสสันฯ จาก 1.3 แสนคัน เป็น 2 แสนคัน
"จากการศึกษาล่าสุดเราได้มีการปรับการลงทุนในไทยใหม่ จากเดิมที่ประกาศไว้ทั้งหมด 1 หมื่นล้านบาท จะเพิ่มอีกเป็นจำนวนเงินกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท หรือรวมเป็นเงินลงทุนทั้งหมดจำนวนกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิต และส่งออกสำคัญของนิสสันในภูมิภาคเอเชีย โดยในเบื้องต้นปีนี้จะใช้เงินลงทุนทั้งหมดกว่า 4.4 พันล้านบาท"
สาเหตุที่ต้องมีการลงทุนเพิ่ม เนื่องจากเดิมจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตปิกอัพ ได้มีการเพิ่มโมเดลใหม่ที่จะทำการผลิตและออกแบบในไทยเป็นแห่งแรก ในโลก ดังนั้นจึงต้องมีการลงทุนเพิ่มเป็นจำนวนมาก ซึ่งรถยนต์โมเดลใหม่ที่จะผลิตในไทยเป็นแห่งแรก ขณะนี้กำลังทำการพัฒนาและวิจัยอยู่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่แน่นอนต้องเป็นรถที่ได้รับความนิยมในตลาดรถยนต์ไทย อย่างเช่นรถปิกอัพที่นิสสันได้เลือกเป็นฐานการผลิตโมเดลแรก ทั้งทำตลาดในประเทศและส่งออก ซึ่งจากการศึกษา น่าจะเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก
ในส่วนของเงินลงทุนในปีนี้ 4.4 พันล้านบาท จะนำไปปรับปรุงอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวกับการผลิตในโรงงานสยามนิสสันฯ บางส่วนได้สร้างขึ้นใหม่ และมีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้แก่ ลงทุนในโรงปั๊มชิ้นส่วนเพิ่ม 1 ไลน์ , ลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 40 คันต่อชั่วโมง ด้วยการเพิ่ม หุ่นยนต์เชื่อมชิ้นส่วนจาก 2 ตัว เป็น 30-40 ตัว, ทำการขยายโรงพ่นชิ้นส่วนพลาสติกให้มีกำลังการผลิตสูงเป็น 200,000 คันต่อปี,ขยายไลน์การประกอบในส่วน ของรถยนต์นั่งจากชั่วโมงละ 9.8 คันเป็น 17 คัน และไลน์ประกอบรถปิกอัพจากชั่วโมงละ 22.8 คันเป็น 30 คัน ลงทุนสร้างสนามทดสอบใหม่ สำหรับทดสอบความเร็วของรถและโรงตรวจคุณภาพรถ
ผลจากการลงทุนเพิ่มกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท จะทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์ที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน โดยสามารถผลิตรถยนต์จากปัจจุบัน 1.3 แสนคัน เป็น 2 แสนคันต่อปี ภายในปี 2551 หรือคิดสัดส่วนการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของโรงงานแห่งนี้ ซึ่งจะต้องสูงมากกว่า 90% จากที่ปัจจุบันใช้ศักยภาพการผลิตเพียงแค่ 30% เท่านั้น
นายโฮโซคาวากล่าวว่า การลงทุนทั้งหมดของนิสสัน เพื่อเตรียมรองรับการผลิตรุ่นใหม่ๆ ที่ได้วางแผนจะแนะนำสู่ตลาดไทยภายในปี 2551 ทั้งหมดถึง 10 รุ่น โดยเกือบทั้งหมดจะผลิตในไทย โดยเมื่อปีที่แล้วได้เปิดตัว นิสสัน เทียน่า ไปแล้วหนึ่งรุ่น และในปี 2548 นี้จะเพิ่มอีกรุ่น คือ นิสสัน เอ็กซ์-เทรล รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งขายดีเป็นอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา ซึ่งเอ็กซ์-เทรลจะเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการวันที่ 15 มีนาคมนี้ นอกจากนิสสัน เอ็กซ์-เทรล แล้วในปีนี้ยังมีแผนที่จะทำการเปิดตัวรถใหม่อีก 7 รุ่นภาย ในปี 2551 รวมทั้งรถไมเนอร์เชนจ์อีกหลายรุ่น
นอกจากนี้ เพื่อรองรับการรุกตลาดในไทย นิสสันได้ทำการปรับปรุงบริการทั้งก่อนและหลังการขาย พร้อมกันนี้ยังได้เพิ่มปริมาณผู้จำหน่ายใหม่และ ขยายโชว์รูมใหม่ของผู้จำหน่ายเดิมภายในปีนี้จำนวน 17 สาขา ครอบคลุมการบริการลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากยิ่งขึ้น โดยทั้งหมดจะมีความพร้อมในการให้บริการครบวงจร คือ การขาย บริการ และการบริการหลังการขายอย่างครบถ้วน เช่นเดียว
กับทางด้านโยบายคุณภาพและมาตรฐานสินค้า
ในกรณีที่จำหน่ายและส่งมอบรถให้กับลูกค้านั้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า จะมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างถี่ถ้วนและมีมาตรฐานทุกฝ่าย และพร้อมรับผิดชอบและแก้ไขหากเกิดข้อผิดพลาดจนกว่าลูกค้าจะพึงพอใจ
"ในช่วงกลางปีหน้า นิสสันยังเตรียมจะเปิดบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเป็นเจ้าของรถยนต์ของลูกค้าง่ายขึ้น ส่งผลให้นิสสันมียอดขายตามเป้าที่วางไว้ 1.3 แสนคัน ภายในปี 2551 หรือเพิ่มเป็น 3 เท่าของปัจจุบัน สำหรับเป้าหมายในปีนี้นิสสันประมาณการขายไว้ที่ 5.2 หมื่นคัน เติบโตจากปีที่แล้ว 12.12% ขณะที่ตลาดรวมคาดว่าจะอยู่ที่ 6.6 แสนคัน"
สำหรับการใช้ไทยเป็นฐานส่งออกเบื้องต้นนิสสันจะส่งออกปิกอัพไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ยกเว้นยุโรป และตะวันออกกลาง โดยมีประเทศส่งออกสำคัญ ได้แก่ ประเทศในภูมิภาคอาเซียน, ตะวันออกกลาง, อเมริกาใต้ และแอฟริกา นอกจากนี้ยังมีแผนส่งออกรถยนต์ส่วนบุคคลไปยังประเทศในเขตอาเซียน และออสเตรเลียด้วยเช่นกัน นอกจากการส่งออกรถยนต์รุ่นต่างๆ แล้ว นิสสันยังมีโอกาสจะส่งออกเครื่องยนต์และอะไหล่ต่างๆ ที่ผลิตในประเทศไทย ไปยังประเทศในเขตอาเซียนและตลาดอื่นๆ ทั่วโลกอีกด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|