"ผินขู่" ปิดภูเก็ตแฟนตาซี


ผู้จัดการรายวัน(7 มีนาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"ผิน" ประกาศปิดภูเก็ตแฟนตาซีและซาฟารีเวิลด์ ลอยแพพนักงาน 2,000 คน หากภายใน 7 วัน รัฐบาลไม่ปล่อยเงินกู้ 120 ล้าน มาเสริมสภาพคล่อง หลังเข้าเจรจามาแล้ว 3 ครั้งไม่เป็นผล รอครั้งที่ 4 ในสัปดาห์นี้ ระบุหลังเหตุการณ์สึนามิ ลูกค้าตกวูบ 10 เท่า เหลือรายได้เพียง 10 ล้านบาทต่อเดือน พ้อรัฐบาลไม่เห็นความสำคัญทั้งที่แฟนตาซีเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ต ประชดจะย้ายครอบ ครัวไปอยู่จีน คุยรัฐบาลจีนอ้าแขนรับ ด้านแหล่งเงินทุนเอสเอ็มอีแบงก์และกองทุนสึนามิ เผยต้องขอดูเจตนาและความเสียหายก่อนว่าเกิดจากสึนามิจริงหรือไม่ ก่อนปล่อยสินเชื่อ

นายผิน คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด เจ้าของกิจการ ภูเก็ต แฟนตาซี และสวนสัตว์ ซาฟารี เวิลด์ เปิดเผยว่า ภายใน 7 วันจากนี้ไป หากรัฐบาลยังไม่อนุมัติเงินช่วยเหลือจำนวน 120 ล้านบาท จะปิดดำเนินการทั้งภูเก็ตแฟนตาซี และซาฟารีเวิลด์ทันที และจะไม่ขายกิจการให้ใครทั้งสิ้น ทั้งนี้เพราะตั้งแต่ภายหลังการเกิดเหตุการณ์สึนามิ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมา จ.ภูเก็ต รวมถึงจังหวัดที่ประสบภัยทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทต้องแบกรับต้น ทุนเงินสดที่ต้องใช้จ่ายในการดำเนินกิจการทุกวัน ประมาณวันละ 1 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา บริษัทได้ปิดให้บริการชั่วคราว ช่วงวันที่ 8-31 ม.ค.เริ่มให้บริการ อีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ.โดยจ่ายเงินเดือนพนักงานเต็มจำนวนทุกคนและไม่มีการเลิกจ้างงาน ถึงขณะนี้บริษัทสูญเสียรายได้ไปแล้ว 250 ล้านบาท และความเสียหายของอาคารที่พังจากคลื่นสึนามิอีกราว 70 ล้านบาท รวมประมาณ 320 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมภูเก็ตแฟนตาซี ลดลงเหลือวันละประมาณ 300 คน มีรายได้เหลือเดือนละ 10 ล้านบาท จากก่อนหน้าเหตุการณ์สึนามิ ภูเก็ตแฟนตาซี มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยคืนละ 3,000 คน มีรายได้เดือนละ 100 ล้านบาท ซึ่งหากบริษัทไม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้ 120 ล้านบาท เพื่อมาใช้เสริมสภาพคล่องในองค์กรจนกว่าเหตุการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ก็จำเป็นต้องปิดกิจการ

ส่วนการปิดกิจการ จะปิดทั้งภูเก็ตแฟนตาซีและซาฟารีเวิลด์ เพราะโดนผลกระทบเรื่องไข้หวัดนกด้วย หากทั้ง 2 กิจการยังขืนทำต่อไป ทั้งปีจะขาดทุนรวม 900 ล้านบาท ตรงนี้จะทำให้มีพนักงานต้องตกงานทั้งสิ้นรวม 2,000 คน แบ่งเป็นที่ซาฟารีเวิลด์กว่า 800 คน และที่ภูเก็ต อีกกว่า 1,100 คน

ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการยื่นเสนอขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ในโครงการช่วยเหลือผู้ประ-กอบการที่ประสบเหตุสึนามิ โดยมีอัตราดอกเบี้ย 2% คงที่ 3 ปี ในวงเงิน 120 ล้านบาท โดยเจรจาผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อนำส่งไปให้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้พิจารณาผ่านการอนุมัติ โดยเจรจา มาแล้ว 3 ครั้ง ได้รับการปฎิเสธมาตลอด พร้อมให้เหตุผลว่า บริษัทไม่ได้เป็นลูกหนี้สินเชื่อ จึงไม่ตรงในหลักเกณฑ์การปล่อยกู้ ซึ่งภายใน 7 วันนับจากนี้ ตนจะเข้าไปเจรจาเพื่อฟังคำตอบเป็นครั้งที่ 4 หากยังยืนยันเช่นเดิม ก็จะสั่งปิดกิจการทั้งหมดทันที ส่วนตัวเองและครอบครัวจะเดินทางกลับไปประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลจีนก็ยินดีที่จะให้เราไปพัฒนาธุรกิจในรูปแบบนี้ที่ประเทศจีนด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินอยู่ในบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย จำนวน 1,300 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่าการปรับโครงสร้างหนี้ เราลงทุนที่ภูเก็ตไปกว่า 3,000 ล้านบาท หากต้องขายคงไม่มีใครสนใจเพราะราคาแพง ที่ผ่านมาตลอด 7 ปี ที่ภูเก็ตแฟนตาซีเปิดให้บริการ ก็มีปัจจัยลบมากระทบตลอด เช่น สงครามอีรัก การระเบิดตึกเวิลด์เทรด ระเบิดที่บาหลี ไข้หวัดนก ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งก็ต่อสู้ดิ้นรนมาตลอด แต่เหตุการณ์สึนามิที่เราได้รับผลกระทบครั้งนี้ มีผู้ประกอบการจำนวนมากก็ได้รับผลกระทบ และรัฐบาลก็มีโครงการช่วยเหลือ แต่ทำไมต้องเลือกปฏิบัติ ด้วยเหตุผลที่เราไม่ได้เป็นหนี้สินเชื่อแบงก์พาณิชย์ ทั้งที่ภูเก็ตแฟนตาซี เป็นหนึ่งในแม็กเน็ตดึงนักท่องเที่ยว หากเป็นเช่นนี้ก็ขอปิดกิจการดีกว่า เพราะปัจจุบันบริษัทมีต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้ง 2 แห่ง เฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อวัน

"นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการเป็นชาวยุโรป ที่ผ่านมาบริษัทพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อพยุงกิจการด้วยการจัดแพกเกจ ร่วมกับบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ ลดราคาตั๋ว 30% จากราคาปกติ ไม่เข้าใจรัฐบาลนี้เหมือนกันว่าบอกมีเงินช่วยเหลือ 70,000 ล้านบาท แต่บริษัทขอให้ช่วยแค่ 120 ล้านบาท ช่วยไม่ได้ เหตุผลที่ได้มันไม่แฟร์เลย ทั้งๆที่ผ่านมาได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และสร้างภูเก็ตแฟนตาซีให้เป็นแม่เหล็ก ทางการท่องเที่ยวของไทย กิจการของเราไม่มีสาขาเหมือนธุรกิจอื่น เมื่อประสบปัญหา จึงไม่มีรายได้เข้ามาเจือจุน ยอมรับว่าปัญหาครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้ง เมื่อรัฐบาลไทยไม่ให้ความช่วยเหลือก็ขอไปดีกว่า"

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ใน บสท. แล้วกิจการได้รับผลกระทบภายหลังเกิดสึนามิ จึงไม่ได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน ซึ่งหากรัฐบาลจริงใจที่จะช่วย ควรดูที่เหตุผลประกอบด้วย ไม่ใช่แค่ตามเงื่อนไขที่ร่างไว้

แหล่งเงินขอดูก่อนว่าภูเก็ตแฟนตาซีเข้าข่ายใด

นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ประกอบการจากภัยสึนามิมีอย่างต่อเนื่อง ธนาคารพาณิชย์ทั้งรัฐและเอกชน และธนาคารเฉพาะ ต่างเร่งดำเนินการช่วยเหลือทุกๆด้าน โดยออกมาตรการพิเศษ พักดอกเบี้ย ยืดอายุการชำระหนี้ และยังมีการช่วยเหลือ ต่อเนื่องอีก หากผู้ประกอบการต้องการผู้ร่วมทุน ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชน จัดตั้งกองทุนสึนามิ โดยเอสเอ็มอีแบงก์ จะเข้าร่วมขนาดเล็กที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี มีขนาดกลางและย่อม

ล่าสุดได้มีการพิจารณาและอนุมัติการร่วมทุนกับผู้ประกอบการบ้างแล้ว คิดเป็นวงเงินหลักร้อยล้านบาท โดยที่ผ่านมาเป็นขั้นตอนของการรวบรวมข้อมูลและพิจารณาถึงความเสียหายและวงเงินที่ผู้ประกอบการต้องการ หากผู้ประกอบการยังมีความตั้งใจ และโครงการมีความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจ ก็พิจารณาอนุมัติให้ในกรอบกว้างๆ นั้น คือ ผู้ประกอบการจะต้องได้รับผลกระทบจากสึนามิจริงๆ

ส่วนกรณีของภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด ที่ต้องการจะขอเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ในโครงการความช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน)นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าขอเข้ามาในรูปแบบใด ซึ่งของเอสเอ็มอี แบงก์คงจะไม่เข้ากรอบ เพราะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ นอกจากนี้จะต้องพิจารณาดูว่าได้รับผลกระทบจริงหรือไม่

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนสึนามิ กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้ระดมเงินทุนจากธนาคารพาณิชย์ไปแล้วกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยระดมทุนจนครบ 1,400 ล้านบาท โดยจะแบ่งการระดมทุน 2 ส่วน คือ วงเงิน 700 ล้านบาทจะมาจากธนาคารออมสิน 500 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์ 200 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากสมาชิกของสมาคมธนาคารไทย 700 ล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าว่าจะร่วมลงทุนให้ครบวงเงินประมาณ สิ้นเดือนมีนาคม

สำหรับกรณีของภูเก็ตแฟตาซีนั้น ต้องดูก่อนว่าสามารถเข้ากรอบของกฎหมายหรือไม่ที่จะเข้าไปลงทุน รวมทั้งได้รับความเสียหายจากสึนามิโดยตรงหรือไม่ เข้าใจว่านักท่องเที่ยวได้ลดลงทำให้การเข้าชมในภูเก็ตแฟนตาซีอาจจะลดลง

สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปของภูเก็ตแฟนตาซี ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ในค่ำคืนนี้ บรรยากกาศค่อนข้างเงียบเหงามีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการค่อนข้างน้อยกว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สึนามิมาก โดยที่บริเวณลานจอดรถซึ่งปกติจะมีรถทัวร์และรถนักท่องเที่ยวจอดเต็มพื้นที่ แต่ในระยะนี้ที่จอดรถมีที่ว่างจำนวนมาก

จากการสอบถามพนักงานของภูเก็ตแฟนตาซีรายหนึ่งระบุว่าปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการคืนละประมาณ 200-300 คน จากเดิมที่ใช้บริการสูงถึงคืนละ 2,000-3,000 คน โดยนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย และนักท่องเที่ยวจากยุโรป ส่วนนักท่องเที่ยวชาวเอเชียค่อนข้างน้อย และการแสดงของภูเก็ตแฟนตาซีลดเหลือเพียงคืนละ 1 รอบเท่านั้น โดยแสดงในเวลา 21.00 น. ราคาค่าเข้าชม 1,600 บาท รวมอาหารต่อคน หากไม่รวมอาหารเหลือ 1,100 บาท ต่อคน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตรอบๆ บริเวณโครงการภูเก็ตแฟนตาซียังไม่มีการปิดป้ายประกาศเลิกให้บริการแต่อย่างใด และจากการสอบถามไปยังนางสาวศิริกุล อัมรามร ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ภูเก็ตแฟนตาซี บอกเพียงว่า ภูเก็ตแฟนตาซียังไม่ปิดให้บริการ และยังคงให้บริการต่อไป

จากการสอบถามยังบริษัทซีทัวร์ ซึ่งจำหน่ายทัวร์ให้แก่ภูเก็ตแฟนตาซี นายกิตติพงษ์ พุดทรง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบริษัท ซีทัวร์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ทางภูเก็ตแฟนตาซียังไม่มีการแจ้งยกเลิกการขายทัวร์ให้แก่ภูเก็ตแฟนตาซีแต่อย่างใด บริษัทยังคงขายให้ตามปกติ แต่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการในช่วงนี้ยังมีจำนวนน้อยอยู่ เช่นเดียวกับธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ โดยบริษัทเปิดขายทัวร์ของภูเก็ตแฟนตาซีรอบใหม่หลังจากที่หยุดบริการชั่วคราวไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ ที่ผ่านมา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.