ส.โบรกฯนัดขับบีฟิท17ก.พ.


ผู้จัดการรายวัน(11 กุมภาพันธ์ 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

สมาคมโบรกฯ เรียกประชุมสมาชิก 17 ก.พ. เพื่อตัดสินกรณีบล.บีฟิทดึงเจ้าหน้าที่มาร์เกตติ้งจากโบรกเกอร์อื่น หลังจากดึงค่ายซีมิโก้ 7 คน ดึงค่ายเอเซียพลัส 21 คน และที่กำลังร่ำลือจะดึงจากกิมเอ็ง 100 คน ชี้ถ้าพบผิดจริงและสมาชิกลงความเห็น 3 ใน 4 มีสิทธิพ้นจากการเป็นสมาชิกสมาคมฯ ด้านหุ้น BFIT ราคาร่วงเฉียด 4% "กิตติรัตน์" รับลูกเตรียมนำเข้าบอร์ด เหตุพ้นสมาชิกโบรกฯ แต่ไม่พ้นสมาชิกตลท.อัตโนมัติ แต่เชื่อน่าจะเข้าใจกันได้ ติงดึงเจ้าหน้าที่บล.อื่นไม่สร้างสรรค์

เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ได้แจ้งว่าภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2548 สมาคมได้มีการเรียกประชุมใหญ่วิสามัญสมาชิกเพื่อให้ที่ประชุมสมาชิกพิจารณาข้อเท็จจริงกรณีที่มีบริษัทสมาชิกฝ่าฝืนข้อตกลงย้ายงานของเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) ว่ามีการฝ่าฝืนข้อตกลงหรือไม่และหากฝ่าฝืนข้อตกลงจริงที่ประชุมสมาชิกจะพิจารณาลงโทษให้สมาชิกที่ฝ่าฝืนข้อตกลงนั้นพ้นจากสมาชิกภาพของสมาคม

ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2548 ที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารของสมาคมเพื่อพิจารณากรณีสมาชิกสมาคมรายหนึ่งรับเจ้าหน้าที่การตลาดจากสมาชิกรายอื่นโดยปฏิบัติฝ่าฝืนข้อตกลงเรื่องการรับเจ้าหน้าที่การตลาดโดยไม่ได้ปรึกษาหารือและขอความเห็นชอบสมาชิกต้นสังกัดก่อน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์เคยประชุมสมาชิกเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2546 เพื่อระงับปัญหาที่จะบั่นทอนเสถียรภาพของธุรกิจหลักทรัพย์และตลาดทุนโดยรวมเนื่องจากมีการดึงตัวเจ้าหน้าที่การตลาดกันอย่างไม่เป็นปกติซึ่งอาจเป็นช่องทางในการลดค่านายหน้าให้แก่ลูกค้าโดยผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด

สมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ยืนยันข้อตกลงระหว่างสมาชิกสมาคมด้วยกันว่าจะไม่มีการรับเจ้าหน้าที่การตลาดจากสมาชิกอื่น โดยไม่ได้ปรึกษาหารือและได้รับการยินยอมก่อนและหากมีการฝ่าฝืนเกิดขึ้นจะถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จะพิจารณาให้พ้นจากสมาชิกภาพของสมาคม

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่าการประชุมใหญ่วิสามัญสมาชิกของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ในครั้งนี้เนื่องจากได้มีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัสได้ยื่นหนังสือมายังสมาคมเพราะช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่การตลาดของบล.เอเซียพลัสถูกบล.บีฟิทดึงไปจำนวน 21คนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดประจำสาขาสีลมโดยบล.เอเซียพลัสไม่ได้ให้ความเห็นชอบ ดังนั้นจึงจะให้สมาชิกพิจารณาเกี่ยวกับการกระทำผิดของบล.บีฟิทดังกล่าว

อนึ่ง ก่อนหน้านี้บล.บีฟิทก็ได้มีการดึงเจ้าหน้าที่การตลาดของบล.ซีมิโก้ไปร่วมงานจำนวน 7 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับใบอนุญาตในการเป็นเจ้าหน้าที่ส่งคำสั่งซื้อขาย (เทรดเดอร์ไอดี) จากตลาดหลักทรัพย์นอกจากนี้ได้มีกระแสข่าวว่าจะมีเจ้าหน้าที่การตลาดของบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำนวนกว่า 100 คนลาออก เพื่อที่จะไปร่วมงานกับบล.บีฟิท ซึ่งถ้ามีการลาออกจริงคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งการตลาดของบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) พอสมควร

แหล่งข่าวจากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์เปิดเผยว่าการประชุมบริษัทสมาชิกในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ จะให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการดึงเจ้าหน้าที่การตลาดได้ชี้แจงรวมถึงให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงเช่นกันเพื่อให้สมาชิกทั้งหมดได้รับฟังก่อนที่จะมีการตัดสินใจ สำหรับเกณฑ์การลงโทษได้กำหนดว่าถ้าเสียงของสมาชิกเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมดเห็นว่ากระทำผิดก็จะลงโทษโดยการภาคทัณฑ์ หรือการเปรียบเทียบปรับแต่ถ้าเสียงของสมาชิก 3 ใน 4 ของทั้งหมดเห็นว่ากระทำผิดก็มีสิทธิที่จะเพิกถอนบริษัทหลักทรัพย์ที่กระทำผิดจากการเป็นสมชิกภาพของสมาคมได้

"ถ้าสมาชิกออกเสียงให้บริษัทหลักทรัพย์ที่กระทำผิดออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคมจะมีผลกระทบต่อการเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์จะเป็นผู้พิจารณาโดยสมาคมจะส่งผลการลงมติของสมาชิกให้กับตลาดหลักทรัพย์" แหล่งข่าวกล่าว

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทกว่า 100 คน จะลาออกไปอยู่กับบล.บีฟิท ไม่คิดว่าจะมีจริงเชื่อว่าน่าจะเป็นข่าวลือ

"จากอดีตที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการแข่งขันกันโดยการดึงเจ้าหน้าที่การตลาดนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรเลยบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งก็ประสบปัญหาการขาดทุนขณะเดียวกันอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ก็อ่อนแอลงดังนั้นจึงเห็นว่าบริษัทหลักทรัพย์ควรที่จะช่วยเหลือกันมากกว่า" นายมนตรีกล่าว

ด้านราคาหุ้นบริษัทเงินทุน (บง.) กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT ร่วงติด 1 ใน 10 หุ้นที่ราคาลดลงมากสุด กระทั่งปิดตลาดที่ 33 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.65% แต่มูลค่าการซื้อขายเพียง 16.91 ล้านบาท

นางพรรณี เถกิงเกียรติ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด กล่าวว่า พร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมวิสามัญสมาชิกของสมาคม ซึ่งก็พร้อมที่จะชี้แจง เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการดึงเจ้าหน้าที่อย่างผิดข้อตกลงแต่อย่างใด ซึ่งบริษัทปฏิบัติตามกฎระเบียบมาตลอดอย่างไรก็ตามต้องการให้สมาคมบริษัทหลักทรัพย์มีการกำหนดกฎระเบียบการย้ายเจ้าหน้าที่การตลาดให้มีความชัดเจน

สำหรับกรณีที่มีเจ้าหน้าที่การตลาดของ บล.เอเซียพลัสย้ายมาร่วมกับบริษัทนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่การตลาดดังกล่าวได้รับหนังสือยินยอมจากบล.เอเซียพลัสแล้วส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่การตลาดของบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำนวนกว่า 100 คนมาร่วมนั้นไม่เป็นความจริงเพราะที่ผ่านมายังไม่มีเจ้าหน้าที่การตลาดจากบล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มาติดต่อแต่อย่างใด

นางพรรณีกล่าวว่าขณะนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดอบรมเจ้าหน้าที่การตลาดหน้าใหม่ทุกเดือน เพื่อที่จะสร้างเจ้าหน้าที่การตลาดเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 80 คน คาดว่าภายในปีนี้จะเพิ่มเป็น 120-150 คน เพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต โดยปัจจุบันนี้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด 2% คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3% ภายในสิ้นปีนี้

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์และจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญสมาชิกในวันที่ 17 ก.พ.นี้ ในการพิจารณาว่า บล.บีฟิทมีการรับเจ้าหน้าที่การตลาดจากบล.ซีมิโก้โดยผิดข้อตกลงการรับเจ้าหน้าที่การตลาดหรือไม่ ซึ่งมองว่าการประชุมครั้งนี้ก็น่าจะเกิดความเข้าใจกันในทุกๆ ฝ่าย และอาจจะมีการหารือกรณีใหม่คือบล.บีฟิทรับมาร์เกตติ้งจาก เอบีเอ็น เอเซียพลัส

ทั้งนี้ หากสมาคมมีการพิจารณาว่าบีฟิททำผิดข้อตกลงแล้วให้พ้นจากสมาชิกบล.นั้นแล้วบีฟิทจะพ้นจากการเป็นสมาชิกของตลท.หรือไม่ ซึ่งหากมีมติให้มีการพ้นจากการเป็นสมาชิกบล.ทางตลท.ก็มีหน้าที่จะต้องติดตามดูแลเรื่องดังกล่าวและนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการตลท.อีกครั้ง แต่เมื่อพ้นจากการเป็นสมาชิกบล.แล้วจะพ้นจากการเป็นสมาชิกตลท.นั้นไม่เป็นการพ้นแบบอัตโนมัติ

"ตนเชื่อว่าการประชุมสมาชิกสมาคมบล.ครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมีความเข้าใจกันดีเรื่องนี้ก็จะสามารถจบด้วยดี ซึ่งตนเองก็เสียดายที่ธุรกิจบล.มีไม่ถึง 40 แห่ง ซึ่งทำงานร่วมกันมาตลอดแต่ดูเหมือว่าการคุยจะ มีการเข้าใจกันน้อยเกินไป แต่ ตลท.ก็มีหน้าที่จะประสานให้บล.มีความเข้าใจกันในการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการย้ายงานแต่มาร์เกตติ้งที่จะย้ายก็ควรคิดถึงผลประโยชน์ของอุตสาหกรรม ซึ่งถือว่าการย้ายงานของมาร์เกตติ้งเป็นสิทธิที่ทำได้ถ้าไม่ผิดข้อกำหนดและปราศจากข้อกังขา"

อย่างไรก็ตาม ก็อยากที่เตือนบล.ที่จะมีการขยายธุรกิจแต่ไม่สร้างบุคลากรเองโดยไปดึงเจ้าหน้าที่จากบล.อื่นถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์ในธุรกิจสถาบันการเงิน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.