"อาภา" บิ๊กASLรับเอเพกซ์ไม่ทำเงินจับควบรวมแอ๊ดคินซันช่วยลดต้นทุน


ผู้จัดการรายวัน(11 กุมภาพันธ์ 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้บริหารแอ๊ดคินซันชี้หลังจากการควบรวมกิจการผลประกอบการจะดีขึ้น หลังจากล้างขาดทุนสะสมหมดแล้วและเริ่มมีกำไร พร้อมที่จะจ่ายเงินปันผลคาดจะมีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับ 1 ใน 10 เผยบล.แอ๊ดคินซัน จ่ายเงินตอบแทนการโอนกิจการ 142.88 ล้านบาท กำหนดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อชี้ขาดการควบรวม 17 มี.ค.นี้

นางอาภา คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการที่บล.แอ๊ดคินซันได้นำบล.เอเพกซ์เข้ามาควบรวมจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้น โดยในหลายปีที่ผ่านมาบริษัทยังมีขาดทุนสะสมอยู่ แต่เมื่อปี 2547 ที่ผ่านมาสามารถล้างขาดทุนสะสมแล้ว และเริ่มมีกำไรสะสมจึงคาดว่าภายในอนาคตจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้

"สาเหตุของการควบรวมกิจการนั้นเพราะที่ผ่านมาผลประกอบการของบล. เอเพกซ์ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรเนื่องจากภาวะการแข่งขันที่สูงและมีการดำเนินการที่ซ้ำซ้อน ดังนั้นจึงต้องการให้เกิดความชัดเจนและถือว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพให้บริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น รวมถึงจะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานจากการทำงานที่ซ้ำซ้อน โดยคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนได้เดือนละหลายล้านบาท" นางอาภากล่าว

ทั้งนี้ จากการควบรวมกิจการดังกล่าว คาดว่าจะทำให้สินทรัพย์ของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยบล.แอ๊ดคินซันมีสินทรัพย์ประมาณ 4 พันล้านบาท ขณะที่ บล.เอเพกซ์มีสินทรัพย์อยู่ที่ระดับ 300-400 ล้านบาท ในด้านส่วนแบ่งการตลาดนั้นคาดว่าหลังจากควบรวมกิจการแล้วจะอยู่ที่ระดับ 3% ซึ่งจะมาจากบล.แอ๊ดคินซันประมาณ 1.8-2% และจากบล.เอเพกซ์ประมาณ 1% ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทเป็นโบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับ 1 ใน 10

สำหรับในส่วนของพนักงานของบล.เอเพกซ์หลังจากการควบรวมกิจการแล้วบล.แอ๊ดคินซันจะพยายามรับให้มากที่สุด แต่ในส่วนงานที่ซ้ำซ้อนเช่นในส่วนของแบ็กออฟฟิศบางส่วนอาจจะจำเป็นต้องปลดพนักงาน แต่ก็พร้อมที่จะจ่ายชดเชยตามกฎหมาย

"ปัจจุบันนี้พนักงานของบล.เอเพกซ์มีจำนวนประมาณ 350 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดที่อยู่ทั้งสำนักงานใหญ่และสาขาต่างๆ อีก 23 แห่งเป็นจำนวนกว่า 200 คน ซึ่งบล.แอ๊ดคินซันก็พร้อมที่จะรับไว้ทั้งหมด แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่การตลาดด้วยว่าจะทำย้ายมาอยู่ที่ บล.แอ๊ดคินซันหรือไม่ และถ้าเจ้าหน้าที่การตลาดต้องการลาออกก็พร้อมที่จะให้ออกขณะนี้ในส่วนของพนักงานด้านแบ็กออฟฟิศนั้นมีจำนวน 101คน โดยรวมเจ้าหน้าที่ด้านวาณิชธนกิจซึ่งมีประมาณ 10 คนเศษนั้น ต้องพิจารณาถ้าส่วนใดที่มีความซับซ้อนก็อาจจะต้องปลดพนักงานออก แต่บริษัทก็พร้อมที่จะจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย"

นางอาภากล่าวถึงสาขาบริการค้าหลักทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนกัน โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ภูเก็ต และอุบลราชธานี จะต้องเข้าไปศึกษา แต่ที่ผ่านมาสาขาเหล่านี้สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายได้ดีและมีผลประกอบการที่มีกำไร ดังนั้นจึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา และจากการควบรวมกันในครั้งนี้ทำให้บล.แอ๊ดคินซันจะมีสาขารวมกันทั้งสิ้นจำนวน 65 สาขา ดังนั้นจึงทำให้บล.แอ๊ดคินซันก็จะชะลอแผนการเปิดสาขาบริการค้าหลักทรัพย์ออกไปก่อนจากเดิมที่มีแผนจะเปิดเพิ่ม

นางอาภากล่าวว่า การควบรวมในครั้งนี้เป็นลักษณะของบล.แอ๊ดคินซันเข้าไปซื้อทรัพย์สินและหนี้สินของบล. เอเพกซ์ ดังนั้นในส่วนของใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของบล.เอเพกซ์ก็จะดำเนินการขายออกไป แต่ที่ผ่านมายังไม่มีใครติดต่อที่จะซื้อซึ่งการขายจะขึ้นอยู่กับราคาว่าจะได้ในระดับใด เพราะที่ผ่านมาได้มีการซื้อขายใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในระดับราคา 300-500 ล้านบาท ดังนั้น ราคาขายใบอนุญาตของบล.เอเพกซ์ น่าจะไม่ต่ำกว่าระดับดังกล่าว

สำหรับกรณีที่บล.กิมเอ็ง (สิงคโปร์) เข้ามาถือหุ้นของบล.แอ๊ดคินซันในสัดส่วน 3% เศษนั้น ถือได้ว่าเป็นการเข้ามาลงทุนเท่านั้น โดยไม่ได้ส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัทแต่อย่างใด และขณะนี้บริษัทก็ยังไม่แผนที่จะหาพันธมิตรเข้ามาร่วมถือหุ้นแต่อย่างใด ทิศทางต่อไปของบล.แอ๊ดคินซันหลังจากที่ควบรวมกิจการแล้วนั้นจะมุ่งเน้นในธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ เพราะฐานลูกค้าของบริษัทจะเป็นนักลงทุนรายย่อยรวมถึงธุรกิจวาณิชธนกิจ ซึ่งจะดึงทีมงานจากบล.เอเพกซ์นำมารวมกับทีมวาณิชธนกิจใหม่ที่บริษัทจะดึงมา โดยบริษัทมีแผนที่จะขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจการเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (อันเดอร์ไรเตอร์) กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะใช้ต้องเสีย ค่าขอใบอนุญาตประมาณ 100 ล้านบาทโดยคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตประมาณกลางปีนี้

เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) บล.แอ๊ดคินซัน ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯถึงผลการประชุมคณะกรรมการซึ่งได้มีมติรับโอนกิจการของบล.เอเพกซ์โดยบริษัทได้จ่ายค่าตอบแทนในการโอนกิจการเบื้องต้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 เป็นจำนวนเงิน 142.88 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยค่าตอบแทนในการโอนสินทรัพย์จำนวนเงินประมาณ 351.76 ล้านบาท หักด้วยมูลค่าของหนี้ และภาระจำนวนเงินประมาณ 208.87 ล้านบาทโดยบริษัทตกลงจะชำระค่าตอบแทนในการโอนกิจการดังกล่าวด้วยเงินสดหรือเช็คธนาคารซึ่งคาดว่าจะเริ่ม ดำเนินการได้ภายในช่วงปลายไตรมาส 1 หรือต้นไตรมาส 2 ของปี 2548 โดยจะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2548 ในวันที่ 17 มีนาคม 2548 เวลา 9.00 น. ณ โรงแรมวินเซอร์สวีท กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ กำหนดให้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จคณะกรรมการบริษัทยังได้อนุมัติการแต่งตั้งบริษัทเอสซี-เอ็มบี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทเดอะลีจิสท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษากฎหมายในการดำเนินการรับโอนกิจการดังกล่าว

สำหรับราคาหุ้น บล.แอ๊ดคินซันปิด ที่ 9.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 1.02% มูลค่าการซื้อขาย 256.02 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.