|

บลจ.กบข.ซุ่มเจรจาพันธมิตรร่วมทุน เล็งลงทุนต่างประเทศ1.4 หมื่นล้านบ.
ผู้จัดการรายวัน(3 กุมภาพันธ์ 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
บลจ.น้องใหม่ค่ายกบข.เตรียมเปิดตัวภายในกลางปีนี้ "วิสิฐ"เผยอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรร่วมทุน เพื่อเสริมเทคโนโลยีและช่องทางการจัดจำหน่าย คาดโยกเม็ดเงินที่ปล่อยให้บลจ.บริหารพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์กลับคืน 7 พันล้านบาท มาบริหารเอง พร้อมเพิ่มสัดส่วนลงทุนในต่างประเทศเป็น 1.4 หมื่นล้านบาท
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า แผนจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ภายใต้การบริหารจัดการของกบข.คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรร่วมทุน เพื่อสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับกบข.
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างการถือหุ้นกบข.จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบลจ.ที่จะตั้งขึ้น โดยแผนการดำเนินงานของบลจ.จะเน้นผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการออมเพื่อการเกษียณ (Pension Product) เป็นสำคัญ
"บลจ.ใหม่ของเราจะเน้นการส่งเสริมการออมเพื่อการเกษียณเป็นสำคัญ รูปแบบคล้ายการประกันชีวิตหรือยูนิตลิงค์ หรือที่เรียกว่า Annulity Product (การเปิดโอกาสให้สมาชิกรับเงินคืนแบบทยอยจ่ายเป็นงวดๆ แทนการจ่ายเป็นก้อนในครั้งเดียว)" นายวิสิฐกล่าว
นายวิสิฐกล่าวว่า รูปแบบการบริหารงานของบลจ.กบข.จะคล้ายกับกองทุนบำเหน็จบำนาญในต่างประเทศ และจะเปิดขายหน่วยลงทุนให้กับเอกชน หรือรัฐวิสาหกิจด้วย ซึ่งจากนี้ไปบลจ.กบข.จะขยายขอบข่ายไปยังต่างจังหวัดให้ครอบคลุมมากที่สุด เพราะในปัจจุบันบลจ.ที่มีอยู่ เน้นฐานลูกค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล ยังไม่ขยายลงไปยังต่างจังหวัด
"เราไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของแบรนดิ้งว่า บลจ.ใหม่ของเราต้องมีสีสรร หรือสวยงามเหมือนกับการทำงานของธนาคารพาณิชย์ แต่บลจ.ของเราจะสื่อให้คนได้เข้าใจ และเห็นความสำคัญกับการออมในอนาคตว่ามีสำคัญต่อชีวิตมากน้อยเพียงใด"นายวิสิฐกล่าว
นายวิสิฐกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการออมภาคบังคับ ดังนั้นในช่วงนี้ควรมีการส่งเสริมให้ความรู้คนทั่วไปได้รู้จักการออมว่ามีส่วนสำคัญต่อชีวิตอย่างไร เพราะวิถีชีวิตในอนาคตของคนไทยต้องเปลี่ยนไปมาก จากเดิมที่เป็นครอบครัวใหญ่ บุตรต้องดูแลครอบครัว หรือลูกหลาน แต่สถานการณ์ในปัจจุบันจำเป็นต้องมีการออมเพื่อตัวเองในอนาคต
"เราต้องตระหนักถึงความเป็นจริงอย่างหนึ่งว่าเศรษฐกิจบ้านเรา คน Generation ที่ 1 จะดูแลคนถึง 3 Generation ได้หรือไม่ ถ้าเราไม่รู้จักออมจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคต"
สำหรับการบริหารจัดการกองทุนรวม เงินส่วนหนึ่งที่กบข.นำไปลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ก่อนหน้าจำนวน 7 พันล้านบาท จะมีการโยกกลับคืนมาบริหารเอง หลังบลจ.กบข.จัดตั้งขึ้น ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมได้พอสมควร
ส่วนเงินที่นำไปลงทุนในต่างประเทศ ก่อนหน้ากบข.ได้ลงทุนผ่านหน่วยลงทุนของบลจ.ที่ตั้งกองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ (FIF) โดยในช่วงก่อนหน้านำไปลงทุนประมาณ 8.5 พันล้านบาท แต่ภายหลังจากตั้งบลจ.กบข.แล้ว เงินที่ลงทุนในต่างประเทศทั้งหมดจะบริหารจัดการภายใต้กบข.ทั้งหมด
"ขณะนี้เราอยู่ระหว่างเจรจากับฟันด์เมเนเจอร์ต่างประเทศหลายแห่ง เพื่อให้บริหารจัดการกองทุน FIF ให้เรา ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับสูงกว่าการว่าจ้างบลจ.ในประเทศบริหาร เนื่องจากต้องเสียค่าธรรมเนียม" นายวิสิฐกล่าว
สำหรับแผนการลงทุนในต่างประเทศของกบข.ในปีนี้ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกระทรวงการคลังได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ลงทุนในต่างประเทศของกบข. สามารถลงทุนในต่างประเทศได้ 10% ของพอร์ตการลงทุนของกบข. ทั้งนี้ กบข.มีพอร์ตการลงทุนรวมประมาณ 2.4 แสนล้านบาท
นายวิสิฐ กล่าวถึงแผนการดำเนินในปีนี้ว่า ในส่วนของการลงทุนในประเทศสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้และตลาดหุ้นในสัดส่วน 50:50 เนื่องจากประเมินว่าแนวโน้มผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นในปีนี้น่าจะให้ผลตอบแทนสูง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาผลตอบแทนจากดัชนีตลาดหุ้นลดลงถึง 13.48%
สำหรับภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในปีนี้ กบข.ได้ปรับสัดส่วนการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ระยะยาวลง เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวจะค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้กบข.ปรับรูปแบบการลงทุนมาเป็นลงทุนผ่านตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะปานกลางแทน และลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว จากเดิมที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่จ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้น พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 15% และจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากตลาดหุ้นในต่างประเทศ การเคลื่อนไหวผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นไทย โดยเฉลี่ยตลาดหุ้นต่างประเทศมีความผันผวนประมาร 15-18% เท่านั้น ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนเฉลี่ย 32-35%
"การลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเราในปีนี้น่าจะดีขึ้นพอสมควร เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นติดลบ 13% เพราะฐาน 680 จุด ถือว่าไม่สูงมาก" นายวิสิฐกล่าว
ส่วนการที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่า การเกิดขึ้นของบลจ.กบข.จะเข้ามาแย่งตลาด หรือเป็นคู่แข่งกับบลจ.ที่มีอยู่เดิม นายวิสิฐกล่าวว่า บลจ.กบข.ที่เตรียมเปิดตัวในช่วงกลางปีนี้ หลักการบริหารงานคงไม่ใช่เข้ามาเป็นคู่แข่งบลจ.ที่มีอยู่เดิม เพราะจุดที่บลจ.กบข.จะเข้าไปเล่นในตลาด จะเน้นการส่งเสริมการออมเป็นสำคัญ และนโยบายไม่เน้นกองทุนที่เข้าไปลงทุนในหุ้นโดยตรง
ส่วนการเข้าไปลงทุนในบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย หรือทีพีไอ นายวิสิฐกล่าวว่า ในส่วนของกบข.ได้เตรียมเม็ดเงินจำนวน 1-1.5 พันล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตรกองทุนไม่ว่าจะเป็นกองทุนไทยทวีทุน และกองทุนไทยสร้างโอกาส โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบและประเมินทรัพย์สิน ก่อนที่จะสรุปราคาในการซื้อ
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|