"ยูเอช" ชูเชนโนโวเทลบุกบริหารรร.สุวรรณภูมิ20ปี


ผู้จัดการรายวัน(2 กุมภาพันธ์ 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

กลุ่มกิจการร่วมค้ายูเอชเซ็นสัญญารับบริหารโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว 20 ปี ดันแอคคอร์พันธมิตรหลักเป็นตัวชูโรงบริหาร ใช้ชื่อ "โนโวเทลสุวรรณภูมิ" คาดอัตราเข้าพักเฉลี่ย 65% รายได้ปีแรก 500 ล้านบาท เจาะ 3 กลุ่มหลักทำตลาด

นางสาวจิตติมาศ เกตุวรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ กิจการร่วมค้า ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที หรือยูเอช เปิดเผยว่า วานนี้ (1 ก.พ.) ยูเอชได้เซ็นสัญญาเป็นผู้บริหารโรงแรมของบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการการประมูล ให้เข้าบริหารโรงแรมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ สัญญาบริหารจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่โรงแรมเปิดใช้บริการ ซึ่งตามที่รัฐบาลกำหนดและเตรียมเปิดบริการวันที่ 29 กันยายน 2548 โดยมีอายุสัมปทาน 20 ปี โดยจะใช้ชื่อว่า โรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ

ทั้งนี้ ยูเอชเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เพื่อใช้ในการประมูลโครงการนี้ เป็นการถือหุ้นระหว่างบริษัท ดีเค แลม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กับบริษัท ทองธนา จำกัด โดยเป็นพันธมิตรกับทางกลุ่มแอคคอร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการบริหารโรงแรม โดยโครงการนี้แอคคอร์จะเป็นผู้บริหาร และอยู่ภายใต้การควบคุมของทางยูเอชอีกทอดหนึ่ง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานข้อบังคับของบริษัทโรงแรมท่าอากาศยานฯ

เงื่อนไขหลักๆ ที่ทางกลุ่มต้องดำเนินการคือ จะเป็นผู้บริหารหลัก ส่วนการลงทุนนั้นจะเป็นเรื่องของทางบริษัทโรงแรมท่าอากาศยานฯ โดยจะต้องทำรายได้และส่งให้กับบริษัทโรงแรมท่าอากาศยานฯในปีแรกประมาณ 500 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปีสุดท้ายประมาณหลักพันล้านบาท ส่วนค่าธรรมเนียมในการรับบริหารนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตัวผู้บริหารตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ซึ่งได้เสนอให้ทางบริษัทโรงแรมท่าฯแล้ว เป็นผู้ชายชาวฝรั่งเศส นอกจากนี้จะมีผู้บริหารระดับสูงอีก 10 คน โดยเป็นคนไทย 5 คน คนต่างชาติ 5 คน

สำหรับแผนการตลาดจะเจาะกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มผู้โดยสารที่แวะเปลี่ยนเครื่องบินและลูกค้าสายการบิน ประมาณ 30% 2.กลุ่มเป้าหมายที่เป็นองค์กรธุรกิจทั่วไป 40% 3.กลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวทั่วไป 30% ตั้งเป้าหมายมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 65% ในช่วงปีแรก ส่วนค่าบริการห้องพักนั้น จะอิงอัตราเดียวกับของโรงแรมโนโวเทลซึ่งเป็นเครือของกลุ่มแอคคอร์ แต่จะดูความเหมาะสมของตลาดประกอบกันด้วย

สาเหตุที่ทางกลุ่มเป็นผู้ชนะประมูลบริหารโครงการนี้ เนื่องมาจากว่า กลุ่มแอคคอร์ซึ่งเป็นพันธมิตรกันนั้น มีความโดดเด่นและประสบการณ์บริหารโรงแรมในสนามบินมากที่สุดในโลก โดยเป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสที่เข้ามาดำเนินธุรกิจโรงแรมในเอเชียแปซิฟิก และเติบโตอย่างรวดเร็วเป็น หนึ่งในกิจการโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ภายในเวลา 2 ทศวรรษ โดยบริหารโรงแรมจำนวน 229 แห่ง หรือกว่า 40,000 ห้อง ใน 15 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก

นายบัญชา ปัตตนาภรณ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มแอคคอร์เป็นเครือข่ายโรงแรมที่ใหญ่มีประสบการณ์บริหารโรงแรมทั่วโลกที่ยาวนานและมีความพร้อมในด้านระบบเครือข่ายห้องพัก เชื่อว่าเมื่อเข้ามาบริหารโรงแรมนี้จะช่วยทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความเป็นสากลและความทันสมัยในรูปแบบใหม่ของท่าอากาศยานแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโนโวเทลก็เป็นเครื่องหมายการค้า ที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว

นายไมเคิล ไอเซนเบิร์ก กรรมการผู้จัดการ แอคคอร์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า แอคคอร์เป็น ผู้บริหารโรงแรมที่มีประสบการณ์ยาวนาน ในการดำเนินกิจการโรงแรมในท่าอากาศยานที่โดดเด่น รวมถึงโรงแรมท่าอากาศยานในปารีส ลอนดอน ชิคาโก แฟรงก์เฟิร์ต และซิดนีย์ โดยที่โรงแรมสุวรรณภูมิจะเป็นโรงแรมท่าอากาศยานลำดับที่ 59 ใน 17 ประเทศของแอคคอร์

อนึ่ง โครงการโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมินี้เป็นการร่วมลงทุนกันระหว่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 60%, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 30% และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 10% โดยมีบริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหลักใช้เงินลงทุนประมาณ 2,700 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.