หุ้นใหญ่AMCขอติดไซเลนต์ 30 ล้านหุ้น อีกปี


ผู้จัดการรายวัน(2 กุมภาพันธ์ 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เอเซียเมทัลขยายไซเลนต์พีเรียด 30 ล้านหุ้น ออกไปอีก 1 ปีจากเดิมที่จะหมด 12 ก.พ.นี้ สร้างความเชื่อมั่นให้รายย่อย หวังเป็นตัวอย่างให้กับหุ้นน้องใหม่อื่นๆ พร้อมประกาศเพิ่มทุนจาก 200 ล้านเป็น 400 ล้าน นำเงินทำศูนย์กระจายสินค้า ตั้งเป้าปีนี้ยอดขายโต 30% เล็งปันผลไม่ใช่เงิน

นายวิเชียร เอื้อสงวนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินบริษัทเอเซียเมทัล (AMC) เปิดเผยว่าภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2548 นี้ หุ้นจำนวน 30 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 25% ของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ติดไซเลนต์พีเรียดจะสามารถนำออกมาเสนอขายได้โดยหุ้นเหล่านี้มีต้นทุนในราคาหุ้นละ 1 บาท

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้คำนึงถึงผู้ถือหุ้นรายย่อย จึงได้มีการประชุมคณะกรรมการและมีมติออกมาว่าจะขอตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะยืดระยะเวลาไซเลนต์พีเรียดออกไปอีก 1 ปี ดังนั้นหุ้นจำนวนนี้จะนำออกมาขายได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2549

ทั้งนี้ สาเหตุที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ขอยืดระยะเวลาไซเลนต์พีเรียดออกไป เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องมากังวลและเป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ต้องการที่จะขายหุ้นออกมา และเชื่อว่าการดำเนินการของผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเอเซียเมทัลในครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหุ้นใหม่

นอกจากนี้ AMC ยังจะมีข่าวดีเกี่ยวกับการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นซึ่งจะมีการประชุมภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยการจ่ายปันผลนั้นไม่จำเป็นต้องจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้นซึ่งจะต้องพิจารณาความเหมาะสม และในอนาคตบริษัทอาจจะมีการระดมทุน โดยการออกตราสารหนี้ได้

นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเอเซียเมทัล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 200 ล้านบาท เพิ่มเป็น 400 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมโดยจัดสรรในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 1 บาทซึ่งถือว่าเป็นระดับราคาที่ต่ำมาก โดยต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีซึ่งขณะนี้อยู่ที่หุ้นละ 1.80 บาท โดยยังไม่รวมกับผลประกอบการในปี 2547

อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้ผู้ถือหุ้นให้ความเห็นชอบเสียก่อน โดยจะมีการจัดประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้นในวันที่ 1 มีนาคม 2548 นี้การเพิ่มทุนในครั้งนี้จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมเพิ่มขึ้นจาก 520 ล้านบาท เพิ่มเป็น 720 ล้านบาท และหนี้สินต่อทุนจะลดลงจาก 1.2 เท่าลดลงเหลือไม่ถึง 1 เท่า ซึ่งทำให้ฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้นและมีความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันการเงินได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 200 ล้านบาทนี้ จะนำไปเช่าพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อใช้เป็นศูนย์ในการกระจายสินค้าซึ่งบริษัทจะเน้นการจัดจำหน่ายในกรุงเทพฯและรอบปริมณฑลซึ่งจะใช้เงินประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 150 ล้านบาทนั้น จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

สาเหตุที่บริษัทเพิ่มทุนเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมนั้นเนื่องจากต้องการผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับประโยชน์จากการลงทุน และการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะทำให้ฐานทุนของบริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งทำให้การประมูลงานของภาครัฐได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น

"ในแง่ของยอดขายบริษัทเอเซียเมทัลนั้น อยู่ในระดับใกล้เคียงกับบริษัทแปซิฟิกไพพ์, บริษัทสามชัย สตีลอินดัสเทรียล และบริษัทค้าเหล็กไทยแต่ในส่วนของทุนนั้นจะน้อยกว่าดังนั้นการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยทำให้ฐานของทุนมีความใกล้เคียงกัน" นายชูศักดิ์กล่าว

ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าว่ามียอดขายภายในปี 2548 เพิ่มขึ้นประมาณ 30% โดยสินค้าของบริษัทในปัจจุบันนี้ที่มี 3 ประเภท คือท่อเหล็ก, เหล็กรูปตัวซีและศูนย์บริการเหล็กโดยในส่วนของท่อเหล็กซึ่งเป็นสินค้าที่ทำรายได้มากสุดนั้นคาดว่าภายในปีนี้จะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 100%

สำหรับกำลังการผลิตของบริษัทโดยรวมมีจำนวน 2.2 แสนตันต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1.38 แสนตันต่อปี โดยแบ่งเป็นท่อเหล็ก 8 หมื่นตันต่อปี, เหล็กรูปตัวซีจำนวน 5 หมื่นตันต่อปี และศูนย์บริการเหล็กจำนวน 9 หมื่นตันต่อปี สาเหตุที่กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นนั้นเนื่องจากมีการก่อสร้างโรงงานเพิ่มเติมทำให้พื้นที่โรงงานขยายจาก 1 หมื่นตารางเมตร เพิ่มเป็น 1.7 หมื่นตารางเมตร และได้มีการจัดซื้อที่ดินพื้นที่ 3 ไร่เศษเพื่อก่อสร้างโกดังสินค้า

นายชูศักดิ์กล่าวว่า ผลประกอบการปี 2547 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 121.30 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 173.70 ล้านบาท จากปี 2546 ที่มีกำไรสุทธิ 44.32 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้รวมปี 2547 ทั้งสิ้น 2,931.20 ล้านบาทจากรายได้รวมปี 2546 ซึ่งมีจำนวน 1,676.82 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 74.81% สาเหตุที่ผลประกอบการดีเนื่องจากความต้องการใช้เหล็กทั้งท่อเหล็ก เหล็กรูปตัวซี รวมทั้งความต้องการใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศเพิ่มขึ้นมาก ทั้งในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์, อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมยานยนต์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.