|
ตระกูลดัง"คงอุดม" ลุยอสังหาฯขนที่ดินเก่าพัฒนาโครงการในพัทยา
ผู้จัดการรายวัน(31 มกราคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"ครอบครัวชัช เตาปูน" ขนที่ดินเก่าลุยพัฒนาโครงการอสังหาฯพัทยา ล่าสุดผุดโครงการ "มัณธารา" ที่ ต.หนองปรือ จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง จ่อคิวพัฒนาโครงการแบบครบวงจร ทั้งโรงแรม รีสอร์ต บ้าน ศูนย์การค้า บนเนื้อที่ 100 ไร่ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท พร้อมนำที่ดินที่เกาะช้าง 4 แปลง ติดกับน้ำตกธารมะยม เตรียมพัฒนาเป็นโรงแรมและรีสอร์ต ใช้แนวคิดเดียวกับมัลดีฟส์
นางวงเดือน คงอุดม ประธาน บริษัท ดับบลิว.ซี.เค.พรอพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งบริษัทดังกล่าวขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจบ้านจัดสรรในเมืองพัทยา โดยโครงการแรกคือ มัณธารา พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว สไตล์ Tropical Resort จำนวน 37 หลัง ขนาดเนื้อที่ 80-100 ตร.ว.อยู่บนเนื้อที่ 13 ไร่ ราคาขาย 4.8-6.9 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 130 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่ในซ.ประภามิตร 13 หรือ ซ. ฟ้ามิอาจกั้น ใกล้กับอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 20 ยูนิต ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ซื้อก่อนที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเพื่อนและคนรู้จัก ที่ต้องการซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 เพื่อลงทุนให้เช่าต่อ หรือเก็บไว้พักอาศัยเอง แต่หลังจากเปิดตัวโครงการ อย่างเป็นทางการบริษัทตั้งเป้าขายโดยจะมุ่งเจาะกลุ่มชาวต่างชาติ 70% ที่เหลือ 30% เป็นคนไทย
นางวงเดือน กล่าวต่อว่า นอกจากที่ดินแปลงดังกล่าวแล้ว ตนยังมีที่ดินในชลบุรีอีกประมาณ 5-6 แปลง ซึ่งจะต้องรอดูกระแสตอบรับจากโครงการมัณธารา ว่าได้รับการตอบรับที่ดีและโครงการสามารถดำเนินการไปได้ด้วยดี บริษัทก็มีแผนที่จะนำที่ดินจำนวน 100 ไร่ บริเวณสวนสาธารณะ ซ.ราชพฤกษ์ 2 มาพัฒนาต่อเพื่อสร้างเป็นโรงแรม รีสอร์ต, บ้าน และ ศูนย์การค้า มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 300 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ที่แปลงนี้บริษัทได้ซื้อมาในราคาไร่ละ 1 ล้านบาท เมื่อปี 2540 ซึ่งที่ดินในบริเวณข้างเคียงเป็นกองขยะเก่า บนเนื้อที่กว่า 30-40 ไร่ ทำให้ยังไม่กล้านำมาพัฒนา ต่อมาเมื่อปีที่ผ่านมาเทศบาลเมืองพัทยาได้พัฒนาที่กองขยะดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะ พร้อมกันนั้นยังมีโครงการสร้างสนามกีฬา มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ทำให้ที่ดินแปลงดังกล่าวของบริษัทได้รับอานิสงส์ไป ด้วย โดยปัจจุบันราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นเป็นไร่ละ 3 ล้านบาท ส่วนที่ดินแปลงอื่นๆ ในพัทยาปัจจุบันยังไม่มีแผนพัฒนาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องการดำเนินธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
สำหรับแผนในการนำที่ดินมาพัฒนานั้น จะเน้นการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจท่องเที่ยว ในรูปแบบให้เช่าหรือการบริการ มากกว่าการลงทุนเพื่อขาย เพราะการลงทุนเพื่อให้เช่าและบริการนั้นสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องมากกว่าการขายขาด
ด้านนายชื่นชอบ คงอุดม รองประธานกรรมการบริษัท ดับบลิว.ซี.เค.ฯ กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกทำเลในย่านพัฒนานั้น เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพัทยายังมีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมาก และมีอัตราการเติบโตเทียบเท่ากับภูเก็ต แม้ว่ากลุ่มลูกค้าที่พัทยาจะมีรายได้ไม่มากเท่าก็ตาม แต่ในเรื่องของทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯและสนามบินสุวรรณภูมิ ประกอบกับเมืองพัทยาเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จักจึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
บริเวณพัทยากลางที่ใกล้กับโครงการต้องยอมรับว่ามีการแข่งขันสูง เพราะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ เกิดขึ้นค่อนข้างมากในหลายระดับราคา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยในระดับราคาแพง แต่ในส่วนของบริษัท เนื่องจากต้นทุนที่ดินไม่สูงนัก ประกอบกับบริษัทได้ลงทุนในการทำโรงงานขนาดเล็กเพื่อผลิตวัสดุก่อสร้าง 2 ประเภท ได้แก่ อิฐแดง และกระเบื้องหลัง หรือกระเบื้องว่าว จึงทำให้โครงการของบริษัทมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถควบคุมต้นทุนได้ ทำให้ราคาขายไม่สูงนักเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นในบริเวณนี้ที่ขายในราคาสูงกว่า
อย่างไรก็ตาม จากนโยบายของรัฐบาลที่พยายามผลักดันที่จะ มีการลงทุนเปิดบ่อนเสรีหรือกาสิโนในเมืองพัทยา ซึ่งแม้ว่าโครงการดังกล่าวจะยังไม่เกิด แต่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ดึงดูดผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในพื้นที่และจากส่วนกลางให้ขยายเข้ามา แต่ในส่วนของบริษัทคงไม่มีนโยบายจะลงทุนในธุรกิจอสังหาฯเพื่อรับการเปิดบ่อนกาสิโน แต่ก็ยอมรับว่าโครงการที่จะลงทุนนั้นจะได้รับประโยชน์ทางอ้อมมากกว่าในรูปแบบการทำโครงการให้พักผ่อน
นางวงเดือนกล่าวอีกว่า ตนเองไม่ใช่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ในวงการพัฒนาที่ดิน และอยู่ในวงการนี้มานานนับ 10 ปี โดยเริ่มจากการพัฒนาโครงการเตาปูนแมนชั่น คอนโดมิเนียมพักอาศัย สูง 15 ชั้น จำนวน 3 ตึก มีห้องพักรวมกว่า 1,500 ห้อง ในนามบริษัท คงอุดม จำกัด และเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างภายใต้ บริษัท เตาปูนก่อสร้าง จำกัด
นอกจากนี้ บริษัทยังมีที่ดินสะสมอีกหลายแปลงในหลายจังหวัดท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งที่ดินแปลงใหญ่และเล็ก ได้แก่ ที่ดินที่เกาะช้าง 4 แปลง ติดกับน้ำตกธารมะยม 4 แปลง ขนาด 26 ไร่ ,15 ไร่, 20 ไร่, และ 28 ไร่ ที่ดินทั้ง 4 แปลง แม้จะไม่ติดกัน แต่เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นเกาะส่วนตัว จึงเตรียมพัฒนาเป็นโรงแรมและรีสอร์ต โดยจะใช้แนวคิดเดียวกับการทำรีสอร์ตบนเกาะมัลดีฟส์ นอกจากนี้ ยังมีที่ดิน ที่เชียงใหม่ใกล้กับแม่น้ำแม่ปิง เนื้อที่ 5 ไร่ และที่ดินที่กรุงเทพฯ เช่นที่ รามอินทรา ซ. 5 เนื้อที่ 9 ไร่ เป็นต้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|