กลุ่มบัวทองปรับผังองค์กรลดธุรกิจซ้ำซ้อนหนุน "บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้" ขึ้นแท่นจัดสรร


ผู้จัดการรายวัน(27 มกราคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"กลุ่มบัวทอง" ปรับผังองค์กรใหม่ หวังลดความซ้ำซ้อนของการดำเนินงาน ดึงบีที สมาร์ท บริหารงานขายโครงการระดับบน ส่วนบัวทอง มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เฮ้าส์ซิ่ง รับงานโครงการระดับกลางและล่าง พร้อมลดบทบาทงานขายของบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ เตรียมขึ้นแท่นบริษัทจัดสรรบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาทเต็มตัว ด้านบัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จัดสรร บ้านระดับ 3 ล้านบาทขึ้นไป หวังยอดขายทั้งกลุ่ม 3,000 ล้านบาท

นายรังสรรค์ หวังไพทูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท บีที สมาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2548 กลุ่มบริษัทบัวทองเตรียมปรับแผนการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงการปรับผังองค์กรใหม่ ซึ่งแผนการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทบัวทองนั้น เริ่มตั้งแต่การจัดตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท บีที สมาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นมาเพื่อรับบริหารงานขายโครงการระดับกลางถึงบนขึ้นไป เพื่อแบ่งแยกตลาดงานขายโดยชัดเจนจากบริษัท บัวทอง มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เฮ้าส์ซิ่ง ที่รับบริหารงานขายโครงการบ้านที่ระดับกลางล่าง

ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท บีที สมาร์ทฯ นั้นก่อตั้ง เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2547 ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท (ชำระเต็ม) ภายใต้นโยบายการรับบริหารงาน ขายและวางแผนการตลาด รับเป็นที่ปรึกษาโครงการ ทำการวิเคราะห์ข้อมูล วางแผนการดำเนินงาน วางแผนทางด้านกานเงิน วางแผนด้านการตลาด รวมถึงวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ มุ่งเน้นบริหารโครงการระดับกลางถึงระดับสูง เพื่อตอบสนองลูกค้า กลุ่มผู้ประกอบการโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม ในระดับราคา 2.5 ล้านบาทขึ้นไป

ส่วนบริษัทบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเดิมทำหน้าที่รับบริหารงานขายนั้นจะเริ่มลดบทบาทลง และหันไปพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรระดับกลางล่าง คือราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ บ้านทิพย์พิมาน ซึ่งมีระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท โดยภายในกลางปี 2548 นี้บริษัทบัวทองพร็อพเพอร์ตี้จะหันไปพัฒนาบ้านจัดสรรอย่างเต็มตัว โดยในส่วนของโครงการที่รับบริหารงานขายอยู่ในปัจจุบันจะค่อยลดบทบาทลงจนหมดงานขายที่อยู่ในมือทั้งหมดในที่สุด ด้านบริษัท บัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ นั้นจะพัฒนาโครงการบ้านระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งที่ผ่านมาใช้แบรนด์บ้านพฤกษ์พิมาน

ด้านบีที สมาร์ท ได้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,300 ล้านบาท ส่วนในปี 2549 คาดมียอดขาย 3,000 ล้านบาท โดยยอดขายที่มีอัตราการเติบโตกว่าเท่าตัวดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการลดบทบาทด้านการรับบริหารงานขายของบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ ที่บีที สมาร์ทจะเข้าไปรับช่วงโครงการระดับบนต่อ

สำหรับการปรับแผนการดำเนินงานและผังองค์กรใหม่ดังกล่าว นายรังสรรค์กล่าวว่า เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน เพิ่มความคล่องตัวให้กับบริษัท รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการลงได้ นอกจากนี้บริษัทยังได้ทำการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ไอทีเพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นว่าในปัจจุบันระบบไอทีมีความสำคัญอย่างมากต่องานขายรวมถึงการบริหารจัดการ

ด้านนายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทบัวทอง เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2547 ว่า บริษัทสามารถทำยอดขายได้จำนวน 3,185 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายของบริษัทบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 2,493 ล้านบาท บัวทอง มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด 693 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี 3,500 ล้านบาท ซึ่งยอดขายต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 315 ล้านบาท

ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้ยอดขายของกลุ่มบริษัทไม่ได้ตามเป้าหมาย นายรังสรรค์กล่าวว่า เนื่องมาจากโครงการที่บริษัทรับบริหารงานขายส่วนใหญ่ยังไม่มีความพร้อมที่จะขาย อาทิ โครงการไม่มีห้องตัวอย่าง เพื่อให้ลูกค้าได้ดูเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบ ไม่มีความคืบหน้าของโครงการทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น ซึ่งจากการเก็บรวบรวมข้อมูลกลุ่มลูกค้าของบัวทองพบว่า ปัจจุบันลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการกว่า 6-7 โครงการก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ นั่นแสดงว่าจะต้องเกิดการเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งหากโครงการใดไม่มีศักยภาพทั้งในด้านของคุณภาพ ราคา ทำเล ก็จะทำการขายได้ยาก

สำหรับในปีนี้เพื่อให้การบริหารงานขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทจะทำการคัดเลือกโครงการที่จะรับบริหารงานขายมากขึ้น โดยพิจารณาจากคุณภาพ ทำเล ความเหมาะสมของราคา รวมถึงทำการสำรวจกลุ่มลูกค้าและความเป็นไปได้ของโครงการก่อนตัดสินใจรับบริหารงานขาย รวมถึงเข้าไปร่วมวางแผนโครงการและศึกษาร่วมกับผู้ประกอบการด้วยหากลูกค้าต้องการ

ด้านเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2548 นี้ กลุ่มบัวทองได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,000 ล้านบาท โดยแยกเป็นยอดขายจากบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำนวน 1,200 ล้านบาท, บีที สมาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ จำนวน 1,300 ล้านบาท และบัวทองมาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เฮ้าส์ซิ่ง อีก 500 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.