ชิ้นส่วนไทยบุกสหรัฐฯทุ่ม2พันล.ฮุบศูนย์ซ่อม


ผู้จัดการรายวัน(27 มกราคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

กลุ่มชิ้นส่วนไทยสยายปีกเจาะตลาดสหรัฐอเมริกา ด้วยกลยุทธ์เทกโอเวอร์ ศูนย์ซ่อมและบริการรถยนต์ STRAUSS ในนิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ กว่า 100 สาขา ด้วยเงินลงขันกว่า 2 พันล้านบาท เปิดช่องทางส่งชิ้นส่วนอะไหล่ไทย ชิงส่วนแบ่งจากเจ้าตลาดไต้หวัน มั่นใจจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ชิ้นส่วนไทยยกระดับมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2553

นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเข้าไปซื้อกิจการศูนย์ซ่อมและบริการรถยนต์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายกันในอีกไม่กี่เดือนนี้

นายวัชระกล่าวว่า ศูนย์ซ่อมและบริการรถยนต์ดังกล่าวมีชื่อว่าSTRAUSS โดยมีสาขากว่า 100 แห่ง ในสองมลรัฐใหญ่ของสหรัฐอเมริกา คือ นิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งหากการเจรจาจบสิ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยจะเข้าไปซื้อกิจการสาขาทุกแห่ง มูลค่าแห่งละ 5 แสนเหรียญสหรัฐ หรือรวมมูลค่าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นเงินสูงถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อเข้าไปบริหารศูนย์ซ่อมฯ หมดทั้ง 100 สาขา

สำหรับกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนดังกล่าว ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้เนื่องจากยังไม่มีการเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะเสร็จสิ้นในอีก 1-2 เดือน โดยเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนขนาดกลาง จับมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เป็นกิจการในตลาดหลักทรัพย์ของไทย รวมกลุ่มกันเข้าไปซื้อกิจการโดยมีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้ประสานในการเจรจาครั้งนี้

ผลดีจากการเข้าไปซื้อกิจการศูนย์ซ่อมและบริการ STRAUSS ครั้งนี้ จะทำให้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ของไทยมีตลาดรองรับมากขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่เป็นตลาดใหญ่อันดับหนึ่งของโลก และที่ผ่านมาตลาดชิ้นส่วนอะไหล่จากต่างชาติในสหรัฐอเมริกาเป็นของผู้ผลิตจากไต้หวันเกือบทั้งหมด ขณะที่ชิ้นส่วนอะไหล่จากแหล่งอื่นๆ แทบจะเจาะไม่ได้ การที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยเข้าไปกุมจุดขายโดยตรงจึงเป็นการเปิดโอกาส ให้ชิ้นส่วนอะไหล่สามารถเข้าไปในตลาดนี้ได้ทันที ที่สำคัญชิ้นส่วนไทยยังขายตรงไม่ต้องผ่านคนกลาง ทำให้มีกำไรจากการผลิตที่สูงกว่าอย่างแน่นอน และนี่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนไทยมีมูลค่าเป็น 4 แสนล้านบาท ภายในปี 2553 ตามแผนยุทธศาสตร์ยานยนต์ที่วางไว้

นายวัชระกล่าวว่า นอกจากนี้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เร็วๆ นี้จะเดินทางไปยังประเทศสเปน เพื่อไปศูนย์ทดสอบรถยนต์ ADIADA ซึ่งเป็นศูนย์ทดสอบรถยนต์กลางที่ใหญ่ที่สุดในโลก และไม่ได้เป็นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ที่จะก่อตั้งศูนย์ทดสอบรถยนต์กลางในไทย

สำหรับการไปชมศูนย์ทดสอบรถยนต์ที่สเปนครั้งนี้ นอกจากไปศึกษาและดูการดำเนินงานของเขาแล้ว อาจจะมีการเจรจาให้มาร่วมลงทุนที่ศูนย์ทดสอบรถยนต์กลางในไทยด้วย เพราะขณะนี้มีผู้ผลิตรถและผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทย สนใจที่จะร่วมลงทุนแล้วหลายราย ซึ่งหากสร้างศูนย์ทดสอบรถยนต์กลางได้สำเร็จ จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยพัฒนาเทียบเท่ากับศูนย์กลางรถยนต์ของโลกอย่างแท้จริง ทำให้ไทยเป็นดีทรอยต์แห่งเอเชียที่การผลิต พัฒนาและวิจัย และมาตรฐานระดับโลกอย่างครบวงจร


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.