อีพีแอล ขอจัดประชุมเจ้าหนี้ทีพีไอ ลงมติยืดเวลาขายสินทรัพย์รอง1ปี


ผู้จัดการรายวัน(11 เมษายน 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จัดประชุมเจ้าหนี้ เพื่อขอมติขยายเวลาการขายสิน ทรัพย์รองออกไปอีก 1 ปี

หลังจากไม่สามารถเดินตามแผนฟื้นฟูกิจการด้วยการนำสินทรัพย์มูลค่า 200 ล้านเหรียญออกมาขายได้ภายในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นายเดวิด มอนด์ รองผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส จำกัด

หรืออีพีแอล ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ กล่าวว่า วานนี้ (10 เม.ย.) บริษัทได้ ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ (จพท.)

แห่งสำนักฟื้นฟูกิจการ เพื่อขอให้จัดประชุมเจ้าหนี้ ตามกฎหมายเพื่อลงมติแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัททีพีไอใน 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือการแก้ไขข้อ

กำหนดในแผนเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนสาระสำคัญในแผนเพื่อให้ตรงกับแนวทางในพระราชบัญญัติล้มละลาย โดยที่ยังคงสิทธิของคณะกรรมการเจ้าหนี้ในการจัดประชุมเจ้าหนี้

ที่เข้าร่วมแผนปรับโครงสร้างหนี้ทางการเงินในการประเมินเสียงสนับสนุน สำหรับข้อเสนอการแก้ไขแผนใดๆ ก่อนที่จะมีการลงมติในการประชุมตามกฎ-หมายที่จัดโดยสำนักฟื้นฟูกิจการ ประเด็นที่สอง

การแก้ไขกำหนดเวลาการขายทรัพย์สินที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลัก (สินทรัพย์รอง) เป็นวันที่ 31 มีนาคม 2546 หรือวันอื่นที่อาจมีการขยายออกไปตาม ที่เสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมเจ้าหนี้ที่

เข้าร่วมแผนปรับโครงสร้างหนี้ทาง การเงินเห็นชอบ โดยคำร้องขอแก้ไขแผนได้ระบุว่า การแก้ไขแผนใน 2 ประเด็น เป็นสิ่งจำเป็นในการฟื้นฟูกิจการ การจัดประชุมตามกฎหมาย

โดยสำนักฟื้นฟูกิจการเพื่อลงมติจะมีขึ้น ในราวกลางเดือนพฤษภาคม 2545 แต่ก่อนที่จะมีการลงมติในเรื่องดังกล่าวนั้น อีพีแอลยังคงเป็นผู้บริหาร แผน

และดำเนินงานตามขั้นตอนของแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอต่อไป ด้านนายปีเตอร์ กอทธาร์ด ผู้บริหารอาวุโสอีพีแอล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ขอให้ศาลล้มละลายกลางมีการแก้ไขหลักเกณฑ์

การลงคะแนนเสียงของเจ้าหนี้ทีพีไอ และการเลื่อนระยะเวลาการจำหน่ายทรัพย์สินรองเป็นวันที่ 31 มีนาคม 2546 ซึ่งเจ้าหนี้ของทีพีไอจะต้องเข้าประชุม

เพื่อลงคะแนนเสียงสนับสนุนตามกฎหมายที่กำหนดไว้คาดว่าการประชุมเพื่อลง คะแนนเสียงดังกล่าวจะมีขึ้นราวหนึ่งเดือนข้างหน้า ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การลงคะแนนเสียงที่ระบุไว้ในแผนเดิม

ที่ให้สิทธิแก่เจ้าหนี้รายหนึ่งให้สามารถทำให้มติใดๆ ตกไปด้วยเสียงของตนเพียงรายเดียว ทำให้การแก้ไขเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่มี เจ้าหนี้จำนวนมากถึง 130 ราย

การลงคะแนนเสียงของเจ้าหนี้ทีพีไอทุกครั้ง อีพีแอลจะได้รับเสียงสนับสนุนไม่ต่ำกว่า 89% ซึ่งการขอแก้ไขหลักเกณฑ์การลงคะแนนเสียงในแผนเพื่อให้เป็นแนว

ทางเดียวกับที่กำหนดในกฎหมายล้มละลายมาตรา 90/46 ขณะเดียว กันคณะกรรมการเจ้าหนี้ ยังสามารถประเมินเสียงสนับสนุนต่อ ข้อเสนอการแก้ไขแผนใดๆ

ก่อนที่จะมีการลงมติในการประชุมตามกฎหมายที่จัดโดยสำนักฟื้นฟูกิจการŽ สำหรับการจัดประชุมครั้งใหม่ นี้ สืบเนื่องจากอีพีแอล ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ ไม่สามารถ

ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการที่กำหนดไว้ คือ ต้องขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลัก มูลค่าประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ที่ผ่านมา

ดังนั้นอีพีแอล จึงจำเป็นต้องจัดให้มีการประชุมเพื่อขอมติให้มีการเลื่อนกำหนดการขายสิน ทรัพย์รองออกไป โดยในการประชุมครั้งแรกนั้นได้มีเจ้าหนี้บางรายคัดค้านการขยายเวลาออกไป

ทำให้มติดังกล่าวเป็นอันตกไป และจะต้องมีการจัดประชุมเพื่อขอมติใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์แล้วในการประชุมดังกล่าว จะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 75% ของมูลหนี้ทั้งหมด

และเจ้าหนี้ทุกรายจะต้องเห็นด้วยกับการขยายระยะเวลาออกไป คือหากมีเจ้าหนี้เพียง 1 รายคัดค้าน ก็เท่ากับว่าแผนไม่ผ่าน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.