|
อุ๋ยสั่งหาหลักฐานมัดผู้บริหารKTBก่อนส่งฟ้องศาล
ผู้จัดการรายวัน(25 มกราคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติสั่งหาหลักฐานเพิ่มก่อนส่งฟ้องศาล หลังพบหลักฐานที่ผู้บริหาร ธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อหละหลวม คาดใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์ ขณะที่ฝ่ายตรวจสอบสินเชื่อ ระบุมี 2-3 รายเท่านั้น ที่ต้องให้ฝ่ายคดีพิจารณาต่อว่าจะฟ้องร้องต่อผู้บริหารที่อนุมัติสินเชื่อได้หรือไม่ ด้านรองประธานบอร์ดแบงก์กรุงไทย "ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล" ออกตัวไม่ขอยุ่งเกี่ยว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ฝ่ายคดีของ ธปท. ดำเนินการกล่าวโทษอดีตผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย ในข้อหาปล่อยสินเชื่อที่ส่อไปในทางหละหลวมต่อลูกหนี้ทั้ง 12 รายว่า คณะกรรมการตรวจสอบสินเชื่อที่มีปัญหาได้เสนอเรื่องดังกล่าวมาแล้ว โดยมี 2-3 รายที่ต้องให้ฝ่ายคดีพิจารณาต่อว่า จะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้บริหารที่อนุมัติสินเชื่อ ได้หรือไม่
"การที่ฝ่ายคดีของ ธปท.ส่งหลักฐานเกี่ยวกับผู้บริหารกรุงไทยที่ปล่อยสินเชื่อต่อลูกหนี้ 12 รายอย่างหละหลวมนั้น ตอนนี้ดูแล้วเห็นว่ามีหลักฐานอยู่บ้าง แต่หลักฐานไม่ชัดเจนถึงขนาดฟ้องได้ในทันที จึงต้องให้ไปหาหลักฐาน และดูเพิ่มเติมในอีก 2-3 เรื่องถึงจะสรุปอีกครั้งหนึ่งว่าจะสามารถส่งฟ้องผู้บริหารกรุงไทยได้หรือไม่ และหากฟ้องจะต้องฟ้องคดีใดบ้าง ซึ่งถ้า ธปท. สรุปได้และมีหลักฐานชัดเจน ก็จะต้องดำเนินการฟ้องร้อง"
ทั้งนี้ ฝ่ายคดีของ ธปท. คงต้องพิจารณารายละเอียดและหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนจึงจะสรุปว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายจึงต้องใช้เวลาที่จะพิจารณา และหากจะมีการฟ้องร้องก็ต้องดูว่าจะเป็น ธปท.ฟ้องเอง หรือให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้องเพราะเป็นผู้มีความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ชัดเจน เพราะอาจจะทำให้เสียรูปคดี หรือมีปัญหาได้
ด้านนางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธปท.สายนโยบายการเงิน กล่าวว่า ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินถือว่าเรื่องการฟ้องร้องผู้บริหาร กรุงไทยนั้นจบแล้ว เนื่องจากฝ่ายตรวจสอบธนาคารกรุงไทยได้เสนอเรื่องไปหมดไปแล้ว ซึ่งให้ฝ่ายคดีเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการฟ้องร้องจากหลักฐานที่มีได้หรือไม่ และไม่ต้องเสนอกลับขึ้นมาให้ฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินทราบอีก ซึ่งหากพิจารณาเสร็จก็เสนอให้ผู้ว่าการ ธปท.เป็นผู้วินิจฉัยต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร
"ทางฝ่ายนโยบายสถาบันการเงินถือว่าเรื่องดังกล่าวจบแล้ว อย่ามาถามเลย ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเขาดูดีกว่า แต่หากฝ่ายคดีต้องการหลักฐานเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อรายอื่นเพิ่มเติมก็ส่งเรื่องขอมาได้ ฝ่ายตรวจสอบจะเป็นผู้หาหลักฐานและส่งมอบเพิ่มเติมให้" นางธาริษา กล่าว
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมการธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าว ธปท. มีมติให้ฝ่ายคดีของ ธปท.ดำเนินการกล่าวโทษอดีตผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย 3 ราย โดยจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบนั้น ขณะตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของทาง ธปท. และไม่ขอออกความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด
"เรื่องการฟ้องร้องอดีตผู้บริหารแบงก์กรุงไทย ทั้ง 3 รายตามที่เป็นข่าวผมยังไม่ทราบเรื่องเลย และไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ส่วนผลการตรวจสอบสินเชื่อที่น่าสงสัยทั้ง 12 รายนั้นก็ถือเป็นเรื่องของทางแบงก์ชาติที่จะต้องจัดการ" นายศุภรัตน์ กล่าว
สำหรับผู้บริหารที่ถูกกล่าวโทษนั้นได้หลุดจาก การเป็นกรรมการบริหารชุดปัจจุบัน โดยตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ได้เปลี่ยนจาก ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ มาเป็นนายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ นาย วิโรจน์ นวลแข เปลี่ยนเป็นนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ และนายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา เปลี่ยนเป็น นายรัตน์ พานิชพันธ์ ส่วนนายอุตตม สาวนายน และนายชัยณงค์ อินทรมีทรัพย์ ยังดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารในชุดปัจจุบันอยู่
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|