|
บลจ.ธนชาติยุบ3กองทุนหุ้นเปิดตัว "เรียลเซกเตอร์ฟันด์"
ผู้จัดการรายวัน(18 มกราคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"ธนชาติ" มองแนวโน้มตลาดหุ้นขาขึ้น ประกาศยุบ 3 กองทุนหุ้นที่หมดอายุก่อนหน้ามูลค่าสุทธิกว่า 2.7 พันล้านบาท เพื่อเปิดเป็น "กองทุนเรียลเซกเตอร์ฟันด์" เน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐาน คาดเปิดขายได้ภายในเดือนมีนาคม "กำพล" เผยทั้ง 3 กองทุน ให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยดัชนีตลาดหุ้น
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาติ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้น 3 กองทุน ซึ่งได้หมดอายุไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2547 ประกอบด้วย กองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 1 กองทุน รวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 2 และกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 3 เพื่อให้ยุบรวมกองทุน เข้าด้วยกันและเปิดซื้อขายหน่วย ลงทุนใหม่อีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้ โดยกองทุนใหม่ที่เปิด จะเป็นกองทุนเปิดธนชาติเรียลเซกเตอร์ฟันด์ ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจของประเทศ รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ
สำหรับกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 1 ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2547 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 724.22 ล้านบาท กองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 2 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 647.70 ล้านบาท และกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 3 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,369.38 ล้านบาท รวม 2,741.3 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 1 ในช่วง 3 ปี ให้ผลตอบแทน 161.25% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ติดลบ 51.37% ส่วนกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 2 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 161.84% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ติดลบ 51.64% และกองทุนรวมออมสินพัฒนาภูมิภาค 3 ให้ผลตอบแทนย้อนหลังในช่วง 3 ปี 162.05% ขณะที่ดัชนีตลาดหลัก ทรัพย์ติดลบ 49.51%
จากข้อมูล ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2547 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมธนชาติ จำกัด มีขนาดทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมภายใต้การบริหารจำนวน 27,964.90 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด (มาร์เกตแชร์) 4.07% จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนบริหารในปี 2547 รวม 687,363.63 ล้านบาท
"กองทุนธนชาติเรียลเซกเตอร์ฟันด์ที่เปิด คาดว่าจะเริ่มขายหน่วยลงทุนได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยกองทุนจะเปิดขายหน่วยลงทุนเดือนละครั้ง ส่วนสาเหตุที่เรารุกกองทุนเปิดลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากเชื่อมั่นในทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น"
นายกำพลกล่าวว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ แต่ในส่วนของหุ้นที่อยู่ในภาคเรียลเซกเตอร์ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการที่เศรษฐกิจจะขับเคลื่อนได้ 5% ขึ้นไป จำเป็นต้องมีการลงทุนจากภาครัฐ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ดังนั้น หุ้นกลุ่มเรียลเซกเตอร์จะได้รับแรงหนุนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน
สำหรับหุ้นที่บลจ.ธนชาติให้น้ำหนักการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเป็นกลุ่มที่เกี่ยว ข้องกับการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลมี นโยบายลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะมีการลงทุนเกิดขึ้นประมาณ 2.2 ล้านล้านบาทในช่วง 4 ปีข้างหน้า
ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ บริษัทยังคงเชื่อว่ายังมีศักยภาพและผลการดำเนินงานในช่วงปีนี้และปีหน้ายังขยายตัวได้อีก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ ถือเป็นอีกกลไกหนึ่งในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|