9 โครงการ-สินทรัพย์สำคัญของ ปตท.สผ.


นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2537)



กลับสู่หน้าหลัก

แหล่งน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาตินั้นคือ สินทรัพย์ที่สำคัญของธุรกิจสำรวจและผลิตอย่าง ปตท.สผ. ความเติบโตของบริษัทขึ้นอยู่กับปริมาณและคุณภาพของสินทรัพย์ตัวนี้ในปัจจุบัน แหล่งผลิตที่มีการขุดเจาะนำน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติขึ้นมาใช้ในเชิงพาณิชย์ และที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการของ ปตท.สผ. มีอยู่ด้วยกัน 9 โครงการคือ

โครงการเอส 1

นับเป็นโครงการแรกของ ปตท.สผ. โดยร่วมทุนกับไทยเชลล์เอ็กซพลอเรชั่นแอนด์โปรดักชั่น เมื่อปลายปี 2528 ในสัดส่วน 25% บริเวณพื้นที่ 5 จังหวัดภาคกลางตอนบน ซึ่งมีแหล่งสำคัญคือลานกระบือ ในการร่วมทุนนั้น ปตท.สผ. ไม่ต้องชำระค่าใช้จ่ายที่ไทยเชลล์ได้จ่ายไปก่อนหน้าแล้ว

ปัจจุบันมีการผลิตน้ำมันดิบอัตราเฉลี่ยวันละ 22,070 บาร์เรล ก๊าซธรรมชาติอัตราเฉลี่ย 51 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจาะสำรวจเพิ่มเติมเพื่อหาแหล่งปิโตรเลียมต่อไป

โครงการอี 5

ปตท.สผ. เป็นตัวแทนรัฐบาลในการร่วมลงทุน 20% กับบริษัทเอสโซ่เอ็กซพลอเรชั่นแอนด์โปรดักชั่น โครราชอิงค์ บริเวณพื้นที่ อ. น้ำพอง จ. ขอนแก่น เมื่อปี 2533 ปัจจุบันระดับการผลิตประมาณ 60-65 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน คาดว่าในปี 2538 จะมีการเจาะหลุมผลิตเพิ่มเติม เพื่อรักษาระดับการผลิตเดิม

โครงการยูโนแคล 3

อยู่บริเวณอ่าวไทยนอกชายฝั่งทะเล จ. สุราษฎร์ธานี ปตท.สผ. ต้องจ่ายเงินค่าได้สิทธิสัมปทาน 5% ให้กับยูโนแคลไทยแลนด์และมิตซุยออยล์เอ็กซพลอเรชั่นเบื้องต้นประมาณ 384 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการร่วมทุนจากการเจรจาปกติทางการค้า มิใช่ตามสิทธิพิเศษเหมือนกับ 2 โครงการแรก

ปัจจุบันเจาะหลุมผลิตเพิ่มอีก 22 หลุมเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติในอัตราเฉลี่ย 195 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และคอนเดนเสท 9,000 บาร์เรล/วัน

โครงการบงกช

ปตท.สผ. ร่วมทุนกับบริษัทโทเทลเอ็กซพลอเรชั่นแอนด์โปรดักชั่น บริษัทบีจีไทยแลนด์ บริษัทสแต็ทออยล์ (ประเทศไทย) บริษัทร่วมทุนทั้ง 3 รายนี้ต้องจ่ายเงินในการเข้าถือสิทธิสัมปทานในสัดส่วน 60% แก่ ปตท.สผ. เป็นเงิน 1,554 ล้านบาท ในระยะแรกโทเทลจะเป็นผู้ดำเนินการเอง หลังจากนั้น ปตท.สผ. จะเข้าเป็นผู้ดำเนินการต่อในปี 2541

สัมปทานแหล่งนี้เคยเป็นของบริษัทเท็กซัสแปซิฟิค (ประเทศไทย) จำกัด รัฐบาลไทยได้ให้ ปตท.สผ. ขอซื้อกลับมาเมื่อ 12 กรกฎาคม 2531

แหล่งนี้เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทเมื่อกลางปีที่แล้วนี้เอง ทาง ปตท.สผ. มีแผนจะเพิ่มระดับการผลิตที่ 350 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ในต้นปี 2539 ภายหลังจากที่ได้ลงทุนในส่วนขยายของโครงการแล้ว เนื่องจากพบว่าที่แหล่งนี้มีอัตราไหลของก๊าซธรรมชาติสูงกว่าที่คาดไว้ และมีค่า HEATING VALUE สูงกว่าที่ประมาณไว้

โครงการพีทีทีอีพี 1

เป็นโครงการแรกที่ ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการเอง (OPERATOR) โดยเริ่มดำเนินการเมื่อกลางปีที่ผ่านมาเช่นกัน

แปลงนี้ ปตท.สผ. ซื้อกิจการมาจากบีพีเอ็กซพลอเรชั่นโอเปอเรติ้ง (ประเทศไทย) ซึ่งค้นพบน้ำมันดิบที่ จ. สุพรรณบุรีและนครปฐม น้ำมันดิบที่ผลิตได้มีจำนวนไม่มากนัก เฉลี่ยไม่เกิน 1,000 บาร์เรล/วัน

โครงการบี 12/27

อยู่ห่างจากชายฝั่ง จ. นครศรีธรรมราช 200 กม. ปตท.สผ. ซื้อสิทธิสัมปทานจากบีพี (45%) เมื่อกลางปีที่แล้วอีกเช่นกัน และได้ให้ยูโนแคลเป็นผู้ดำเนินการ เท่าที่ผ่านมาสำรวจไปแล้ว 11 หลุม พบน้ำมันดิบ 2 หลุม ก๊าซธรรมชาติ 7 หลุม

โครงการบี 5/27

เป็นแหล่งน้ำมันดิบขนาดเล็กบริเวณอ่าวไทย จ. ประจวบคีรีขันธ์ ที่ ปตท.สผ. ถือหุ้นครึ่งหนึ่งร่วมกับบีจีไทยแลนด์ (บริติชก๊าซ) เมื่อปลายปี 2533 ในระยะต้นได้มอบหมายให้บริติชก๊าซเป็นผู้ดำเนินการ จากนั้น ปตท.สผ. จะเข้าเป็นผู้ดำเนินการเองในภายหลังเมื่อมีการผลิตแล้ว

จากการดำเนินงานที่ผ่านมา หุ้นส่วนทั้งสองได้รับข้อมูลธรณีวิทยา และธรณีฟิสิกส์ ตลอดจนวิศวกรรมปิโตรเลียมเพิ่มเติม และอยู่ระหว่างการขยายเวลาขั้นตอนการสำรวจเพื่อวางแผนต่อไป

โครงการลำปาง-แพร่

เป็นพื้นที่ของกรมการพลังงานทหาร ซึ่ง ปตท.สผ. ได้เข้าสำรวจเมื่อปี 2536 โดยลงทุนเองทั้งหมด หากค้นพบปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์และกำหนดพื้นที่ผลิตแล้ว กระทรวงกลาโหมทีสิทธิจะร่วมทุน 20%

โครงการ JDA

โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซีย ที่ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจก่อตั้งองค์กรร่วมเพื่อแสวงผลประโยชน์ในพื้นที่ JDA นี้ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2522 และเมื่อปี 2534 รัฐบาลทั้งสองได้จัดตั้งคณะกรรมการองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJA) ซึ่งมี ม.ร.ว. เกษมสโมสร เกษมศรี เป็นประธาน และจารุอุดม เรืองสุวรรณ อดีตรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร สำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์

พื้นที่ JDA มีศักยภาพทางปิโตรเลียมค่อนข้างสูง บริษัทเท็กซัสแปซิฟิคเจ้าของสัมปทานเก่าเคยขุดหลุมสำรวจในแปลง บี-17 1 หลุมและพบก๊าซธรรมชาติแล้ว นอกจากนี้พื้นที่ทางเหนือยังเชื่อมติดกับแหล่งบงกช ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวไทย

บริษัทร่วมทุนของบริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนลและบริษัทปิโตรนาสคาริกาลี ซึ่งถือหุ้นฝ่ายละ 50% จะเป็นผู้ดำเนินการในแปลงสัมปทาน A-18 ขนาดพื้นที่ 3,000 ตร. กม. บริษัทไตรตันออยล์แห่งประเทศไทยกับบริษัทปิโตรนาสคาริกาลี (ถือหุ้นบริษัทละ 50%) เป็นผู้มีสิทธิสัมปทาน

ผลตอบแทนจากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจะออกมาในรูปสัญญาแบ่งผลผลิต (PRODUCTION SHARING CONTRACT) ซึ่งบริษัททั้งสองฝ่ายลงนามกับ MTJA เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ครั้งที่นายกฯ ชวนเดินทางไปเยือนมาเลเซีย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.