|

เคพีเอ็นฯนำร่องใช้กรีนชูเตรียมขายไอพีโอ17ม.ค.
ผู้จัดการรายวัน(7 มกราคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ หุ้นน้องใหม่ขนาดกลางตัวแรกนำระบบกรีนชูมาใช้จำนวน 3.3 ล้านหุ้น หวังสร้างความสนใจให้กับนักลงทุน เตรียมกระจาย 17-18 ม.ค. พร้อมเข้าเทรด 26 ม.ค.นี้ ด้านบล.เอเซียพลัสเตรียมเข็นหุ้นน้องใหม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15 บริษัท "เคพีเอ็น ออโตโมทีฟ" นำร่องตัวแรก
นายเล็ก สิขรวิทย รองกรรมการผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟเปิดเผยว่าคณะกรรมการ บริษัทเคพีเอ็นได้มีมตินำระบบการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู) โดยจะนำหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 3.3 ล้านหุ้น ในกรณีที่มีความต้องการซื้อหุ้นมากกว่าจำนวนหุ้นสามัญใหม่ที่นำออกมาเสนอขายและถือเป็นบริษัทขนาดกลาง บริษัทแรกที่นำระบบกรีนชูมาใช้จำนวนหุ้นที่นำออกมาใช้กรีนชูนั้นส่งผลทำให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมลดลงไม่ถึง 1% เท่านั้น
ทั้งนี้ บริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 22.641 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 5 บาท โดยจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 22.50 ล้านหุ้น และที่เหลืออีก 141,374 หุ้นจะจัดสรรให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นได้ภายในวันที่ 17-18 มกราคมนี้ และคาดว่าหุ้นจะเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 26 มกราคม 2548 โดยหุ้นที่เสนอขายนั้นจะจัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบันประมาณ 50-60% สาเหตุที่จัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบันจำนวนมากเพราะนักลงทุนสถาบันจะให้ความสนใจในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์
"การที่บริษัทเคพีเอ็นฯนำระบบกรีนชูมาใช้เพราะคาดว่าจะมีความต้องการของนักลงทุนจำนวนมากเหมือนกับหุ้นจองที่ผ่านมาซึ่งมีนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองซื้อหลายเท่า ประกอบกับธุรกิจของบริษัทเคพีเอ็นจะเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีและการนำระบบกรีนชู มาใช้สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้แต่ถือว่าไม่ใช่เป็นปัจจัยหลักเป็นเพียงปัจจัยเสริมเท่านั้น" นายเล็กกล่าว
สำหรับราคาหุ้นนั้นจะไม่ใช้วิธีการสำรวจความต้องการจากนักลงทุนสถาบัน (บุ๊กบิลด์) แต่จะกำหนดราคาเลย โดยราคาจะมีส่วนลดให้กับนักลงทุนที่จองซื้อและค่าพี/อีเรโชจะต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์โดยคาดว่าจะรู้ราคาที่แน่นอนภายในกลางสัปดาห์หน้า
นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ ประธานกรรมการปฏิบัติการบริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อซื้อเครื่องจักรชุดขึ้นรูปประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเพิ่มศักยภาพในการใช้โลหะเพื่อการผลิตชิ้นงานชุดขึ้นรูปจาก 1.5 หมื่นตันต่อปีเพิ่มเป็น 2 หมื่นตันต่อปี
นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะซื้อเครื่องจักรด้านงานกลึงกัดไสประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อเสริมจุดแข็งของบริษัทและเพื่อเตรียมผลิตชิ้นงานให้กับลูกค้ารายใหม่คือ DANA Corporation ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่จากสหรัฐฯที่มีเครือข่ายทั่วโลกโดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 180 ล้านบาทในปีหน้า และบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มแฟรนไชส์ ร้านค้าเคพีเอ็นพลัส ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 55 สาขาในปีนี้จะเพิ่มเป็น 150 สาขาทั่วประเทศและในปี 2549 จะเพิ่มเป็น 250 สาขา
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2547 มีรายได้ 1,200 ล้านบาทซึ่งมากกว่าทั้งปีของปี 2546 ประมาณเกือบ 100% ดังนั้น จึงคาดว่าภายในปี 2548 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนโดยปัจจัยหลักมาจากธุรกิจใหม่คือร้านค้าเคพีเอ็น พลัส ซึ่งเริ่มสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
นายวันชัย คหะแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัทเคพีเอ็นออโตโมทีฟ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 15% และจำหน่ายในประเทศ 85% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 25% ในอนาคต เพื่อลดความเสี่ยงของธุรกิจโดยจะเน้นตลาดในประเทศออสเตรเลียให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่จะส่งออกไปยังอเมริกาเหนือ, อังกฤษ และออสเตรเลีย
นอกจากนี้ นายเล็ก สิขรวิทย เปิดเผยว่าปัจจุบันนี้บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 18 บริษัท ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 15 บริษัทโดยมีบริษัทเคพีเอ็น ออโตโมทีฟเป็นบริษัทแรกที่จะนำเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|