|
"ชาติศิริ"ย้ำขายหุ้นBHรายได้ไม่เข้าBBL
ผู้จัดการรายวัน(6 มกราคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"บอสน้อย-ชาติศิริ" ย้ำโอนหุ้น BH ให้บบส. ธนาคารกรุงเทพไม่มีผลทางบัญชี ตลอดจนไม่ทำให้มีรายได้จากการขายเข้าในงบไตรมาส 4 ปีแต่อย่างใด เหตุผู้รับโอนเป็นบริษัทลูกของธนาคารกรุงเทพ
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง กรณีที่ธนาคารกรุงเทพได้รายงานการขายหุ้นบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ว่า ไม่ได้ทำให้ธนาคารกรุงเทพมีผลกำไรเข้ามาในไตรมาส 4 ปี 2547 แต่อย่างใด นอกจากนี้ในแง่บัญชีก็ไม่ได้ทำให้ผลบันทึกรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขายดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนมือไปให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด
นายชาติศิริ กล่าวอธิบายเหตุที่ไม่มีรายได้ดังกล่าวเข้ามาที่ธนาคารกรุงเทพก็เนื่องจากธนาคารได้โอนหุ้น BH ให้แก่บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ธนาคารจัดตั้งขึ้น โดยถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์รับโอนสินทรัพย์จากธนาคารเพื่อนำไปบริหารจัดการต่อไป จึงทำให้การโอนหุ้นดังกล่าวไม่มีผลเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์และความเสี่ยงของธนาคารที่มีต่อหุ้น BH แต่อย่างใด
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ล่าสุดได้วิเคราะห์ว่าการโอนหุ้น BH ดังกล่าว ไม่มีผลต่อธนาคารกรุงเทพ
บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การขายหุ้น BH ของธนาคารกรุงเทพ ให้กับบริษัทในเครือครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของ BH และเหตุผลในการขายหุ้นของ BBL น่าจะมาจากการที่ธนาคารมีความจำเป็นต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงินลงให้เหลือต่ำกว่า 10% ตามแผนแม่บทของธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" BH โดยให้มูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานปี 2548 ที่ 20.60 บาทต่อหุ้น
บล.โกลเบล็ก แนะนำ "ซื้อ" หุ้น BH ราคาเป้าหมายที่ 22.7-23.7 บาท ทั้งนี้เชื่อว่า บริษัทยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายตัวของลูกค้า โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มีสัดส่วน 50% และจากการที่ล้างขาดทุนสะสมได้ทำให้บริษัทเริ่มจ่ายปันผลระหว่างกาลแล้ว และคาดว่าทั้งปีเงินปันผลจะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 3.1%
บทวิเคราะห์บล.บัวหลวง ให้ราคาเหมาะสมที่ 19.25 บาท โดยราคาดังกล่าว อ้างอิงตาม PE เป้าหมายที่ประเมินไว้ที่ 11.7 เท่าในปี 48 หากพิจารณาการขยายฐานลูกค้า ที่ผ่านมาค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติทั้งส่วน ที่อาศัยอยู่ในประเทศ และที่เดินทางเข้ามาเพื่อรับการรักษา ส่งผลให้รายได้ที่มาจากลูกค้าต่างชาติในปีนี้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ที่ประมาณเกือบ 40%
บทวิเคราะห์บล.ฟิลลิป แนะนำซื้อ BH ราคาเป้าหมายในปี 2548 อยู่ที่ 19.8 บาท ทั้งนี้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพิ่งดำเนินธุรกิจ โรงพยาบาลมาเพียง 2 ปี ซึ่งทางผู้บริหารให้ข้อมูลว่ายังมีผลขาดทุนอยู่ แต่คาดว่าจะเริ่มทำกำไรได้ในปี 2549 การประเมินราคาหุ้น อิง P/E ที่ 18 เท่า ซึ่งต่ำกว่าของราคาหุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH ที่ 20 เท่า
บทวิเคราะห์บล.เคจีไอ มองราคาหุ้น BH เต็มมูลค่า หลังประกาศแผนซื้อหุ้นใน Asian Hospital International ที่ฟิลิปปินส์ โดยจะลงทุนทั้งหมด 370 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้น 42% และได้สิทธิ์ในการบริหาร นอกจากนี้ BH ยังมีแผนซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 51% ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะไฟแนนซ์จากเงินสดหมุนเวียนในบริษัทเท่านั้น
ทั้งนี้ ได้มีการปรับราคาเป้าหมายของ BH ขึ้นมา 48% จาก 12.4 บ. เป็น 18.4 บาท อย่างไรก็ตามราคา BH เมื่อเทียบกับหุ้นโรงพยาบาลทั้งในประเทศและภูมิภาคจะพบว่าค่อนข้างแพง โดยขณะนี้เทรดที่ P/E ปี 47 ถึง 17 เท่า และจะเป็น 15 เท่าในปี 48 จึงมองหุ้นเต็มมูลค่าแล้ว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|