Shambava เสน่ห์บนถนนข้าวสาร

โดย อรวรรณ บัณฑิตกุล
นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"ครั้งแรกที่มาเห็นบ้านหลังนี้ ค่อนข้างประหลาดใจว่า มีอย่างนี้บนถนนข้าวสารด้วยหรือ" ปณิธาน วีระพันธ์ เริ่มต้นเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังด้วยท่าทีสบาย ๆ ทั้งที่ธุรกิจชิ้นแรกของเธอยังคงต้องรอเวลา

บ้านหลังที่เธอเล่าปัจจุบันคือ "Shambava" Boutique Hotel & Restaurant ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2547 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้คือบ้านเก่าๆ ครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น พื้นที่ประมาณ 50 ตารางวา มีรั้วไม้และสังกะสีล้อมรอบ มองเข้าไปเห็นมะม่วงต้นใหญ่ดูร่มครึ้ม

เสน่ห์ของบ้านเก่าที่ดูเงียบสงบ ต่างจากความแออัดจอแจบนถนนข้าวสาร ถนนที่ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาเที่ยว คือความประทับใจในตอนนั้นและ ไอเดียการทำธุรกิจก็บรรเจิดขึ้นมาทันที

เธอวางแผนปรับปรุงบ้านหลังนี้เป็นเกสต์เฮาส์ เล็กๆ คงโครงสร้างเดิมทั้งหมด ส่วนชั้นบนจัดให้มีห้องพักเพียง 9 ห้อง ชั้นล่างเป็นห้องอาหาร สไตล์การ ตกแต่งเน้นไม้และวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก เพื่อให้มีกลิ่นอายความเป็นเอเชียมากที่สุด

"เดิมตั้งใจว่าจะมีแค่ครัวเล็กๆ ไว้เสิร์ฟแขกที่มาพัก ทีนี้แขก แค่ 9 ห้อง ทานบ้างไม่ทานบ้าง ก็กลัวเหมือนกันว่าเงียบไป แล้วอีกอย่างตัวเองก็ฝันที่จะมีร้านอาหารเหมือนกัน เพราะเป็นคนชอบทาน ชอบปรุง เลยตัดสินใจทำเป็นร้านอาหารรับแขกข้างนอกด้วย"

เป็นเกสต์เฮาส์ริมทางย่านถนนข้าวสารในบ้านเก่าที่สะอาด และสงบ ต่างกับจุดขายของที่พักอื่นๆ ในย่านนี้ ซึ่งส่วนใหญ่คือการปรับปรุงอาคารพาณิชย์และตึกแถว ทำให้เธอต้องตั้งราคาขายสูงกว่าที่อื่นคือ คืนละ 200-250 บาท

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจาก "Shambava" สร้างเสร็จ ทำเอานักลงทุนหน้าใหม่คนนี้หายใจไม่ทั่วท้องคือทำเลที่ต้องเข้าซอย แม้ไม่ลึกนัก แต่ไม่ใช่ย่านที่คนเดินผ่านไปมาและมองเห็นได้ง่าย

"ช่วง 1-2 เดือนแรก ต้องไปยืนแจกแผ่นแนะนำกับเพื่อน อีกคน (สุชาพัทร์ รุ่งโรจน์) ที่เป็นหุ้นส่วน ยืนอยู่วันละประมาณ 2-3 ชั่วโมงจนขาแข็ง พอเห็นแท็กซี่มาก็เตร่ไปดูเลยว่า แบกเป้มาหรือเปล่า ถ้าใช่ก็เดินเข้าไปแนะนำตัว บอกว่า เราเป็นเกสต์เฮาส์ใหม่นะ ยูมาดูไหม ไม่พักก็ไม่เป็นไร บางทียืนแจก 4 ชั่วโมง ได้แขกแค่คนเดียว"

หลังจากนั้นไม่นานที่พักก็เต็มตลอด แขกจะบอกกันปากต่อ ปาก และในเว็บแนะนำสถานที่บนถนนข้าวสาร ก็ให้ที่นี่ติดอันดับต้นๆ สิ่งหนึ่งที่เธอสรุปได้ก็คือชาวต่างชาติในย่านนี้คือพวกมีเงิน พร้อมจะจ่ายแพงขึ้นหากห้องพักสะอาดสวยงาม

ร้านอาหารซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ช่วยให้เงินลงทุน ที่หมดไปกับค่าเซ้งค่าเช่าในแต่ละเดือน สามารถกลับคืนมาได้เร็วขึ้น คือส่วนที่เธอกำลังรอเวลา

"ค่อยดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ตอนแรกมีแต่เพื่อนฝูง และคนคุ้นหน้า ตอนหลังเริ่มมีคนหน้าตาแปลกๆ เข้ามาบ้างแล้ว ก็หวังอยู่ว่าไม่เกิน 3 ปีก็น่าจะถึงจุดคุ้มทุน"

โชคดีที่เงินก้อนซึ่งเอามาลงทุนได้มาจากธนาคารส่วนตัวที่บ้านที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด แถมยังคงที่ด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.