เจมาร์ทเข้าตลาดฯก.ค.นี้


ผู้จัดการรายวัน(19 มีนาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

นางสาวยุวดี พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจำหน่ายมือถือของเจ มาร์ท ในเทสโก้โลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ว่า หลังจากได้ตกลงกับเทสโก้โลตัสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจมาร์ทจะย้ายจุดจำหน่ายมือถือ จากเดิมอยู่ในแผนกโอเอของเทสโก้โลตัสออกมาตั้งเป็นคีออสในพื้นที่ของพลาซ่าแทนทั้ง 30 สาขา ภายในวันที่ 7 เมษายนศกนี้

ส่วนจุดจำหน่ายที่เป็นแบบร้านเจมาร์ท เดิมในเทสโก้โลตัสที่ตั้งอยู่ในส่วนของพลาซ่านั้นก็จะเปิดดำเนินการต่อไปปกติคือ สาขาชลบุรี อุดรธานี อุบลราชธานี ซึ่งก่อนหน้านี้นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวกับ ผู้จัดการรายวัน ว่า การลงทุนส่วนนี้เป็นเรื่องกะทันหัน จึงไม่ได้อยู่ในงบลงทุนเดิมของปีนี้ที่ตั้งไว้ 120 ล้านบาท ซึ่งจะต้องเปลี่ยนแปลงระบบการใช้จ่ายจากเดิมที่เป็นการแบ่งเปอร์เซ็นจากยอดรายได้ให้กับเทสโก้โลตัส เมื่อปรับมาเป็นรูปแบบเช่าพื้นที่ในพลาซ่าก็จะต้องเสียเป็นค่าเช่าแทน

อย่างไรก็ตามจุดขายในโมเดิร์นเทรดยังมีความสำคัญ โดยสัดส่วนยอดขายของเจ มาร์ทมาจากโมเดิร์นเทรด 25% ซึ่งปัจจุบันนอกจากเทสโก้โลตัสแล้ว ก็ยังมีสาขาอื่นอีกเช่น สยามจัสโก้ บิ๊กซี ศูนย์การค้าชั้นนำ และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส

ส่วนความคืบหน้าในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น คาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้จะจำหน่ายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปและเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้แน่นอน เพราะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำลงมาก โดยในสิ้นเดือนมีนาคมนี้บริษัทจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน)

ด้านแผนงานการลงทุนในปีนี้ เจมาร์ทตั้งเป้าหมายที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น 100 สาขา ในหลายรูปแบบทั้งการเปิดเป็นคีออส เป็นร้านทั่วไป หรือเคาน์เตอร์ โดยบริษัทจะลงทุนเอง 50 สาขา และขายแฟรนไชส์ให้ผู้ลงทุน 40 ราย จากปัจจุบันมีแฟรนไชส์แล้ว 6 สาขาเช่นที่ ชุมพร ตราด หาดใหญ่ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ เป็นต้น

ปัจจุบันเจมาร์ทมีเครือข่ายที่เป็นคีออส ร้านมาตรฐาน รวมทั้งสิ้น 100 สาขา แนวทางการขยายสาขาส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปเปิดที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก เพราะตลาดยังเปิดกว้างและเจมาร์ทขยายสาขาได้ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะในระดับอำเภอ ตำบล ขณะที่ในกรุงเทพฯบริษัทวางเครือข่ายไว้แทบจะครอบคลุมแล้ว

สำหรับเป้าในปี 2546 จะขยายให้ครบ 350 สาขา และครบ 500 สาขาในปี 2547 ทั้งนี้ยอดขายของเจมาร์ท เมื่อปี 2544 ทำได้ 2,000 ล้านบาท โดยกว่า 90% มาจากการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์เสริมและคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งเริ่มทำตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว ส่วนรายได้จากเดลิเวอรี่เบอร์ 1117 มียอดขาย 5 ล้านบาทต่อเดือน

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ มาร์ทกรุ๊ป กล่าวว่า ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญตามล่าหารถเต่าหรือ JAY MART s Scout Beetle เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคจดจำเบอร์เดลิเวอรี่ 1117 ให้ได้ในอันดับต้นๆ แคมเปญนี้เจาะกลุ่มคนที่มีรถยนต์เป็นของตนเอง อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับกลุ่มลูกค้าของบริการเดลิเวอรี่ของเจมาร์ท โดยทุ่มงบกว่า 7 ล้านบาท และบางส่วนได้รับการสนับสนุนจากดีแทคด้วย ซึ่งแคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่ 18 มีนาคม-30 เมษายนศกนี้

แคมเปญดังกล่าว บริษัทได้จัดพิมพ์สติ๊กเกอร์ 450,000 ใบและซื้อรถโฟลค์เต่าบีทเทิ้ล 2 คัน กำหนดวิ่งรอบกรุงเทพฯ หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็น รถสองคันจะจอดในจุดที่กำหนดเวลา 17.30-18.00 น. เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายได้ร่วมเล่นเกม ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ รายการโมเดิร์นเลิฟ 103.5 เมกกะเฮิร์ตซ ชิงรางวัลกว่า 600 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 5 แสนบาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.