"TOC" ขยายลงธุรกิจสบู่


ผู้จัดการรายวัน(20 ธันวาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

"ไทยโอเลฟินส์" ศึกษาขยายไลน์ธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หวังรองรับยามอุตสาหกรรมปิโตรเคมีตกต่ำ ด้านบล.นครหลวงไทย มองปีหน้าธุรกิจปิโตรฯยังรุ่ง คาดกำลังการผลิต TOC โตเป็น 8.9 แสนตันในปี 48 และ 1.1 ล้านตันในปี 49 แนะลงทุน ด้าน "กิมเอ็ง" ให้ราคา 98 บาทปี48 คาดกำไรโต 23% พร้อมจ่ายเงินปันผล 2 บาทต่อหุ้น

แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) TOC เปิดเผยความคืบหน้าการศึกษาการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่องว่า ขณะนี้ได้สรุปในระดับหนึ่งแล้วว่า TOC จะมีการขยายไลน์ธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมต่อเนื่อง หลังจากที่ได้มีการศึกษาการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่องหลายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งล่าสุดหนึ่งในธุรกิจที่ TOC คาดว่าจะตัดสินใจเข้าลงทุนคือ การลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรวมทั้งผลิตภัณฑ์ประเภทสบู่ ซึ่งถือว่าเป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากโครงการผลิตเอธาลีนไกคอล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยร่วมกับกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศจากประเทศอิตาลี

"การขยายไลน์ธุรกิจดังกล่าวของ TOC เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตเมื่อถึงเวลา ที่วัฏจักรของธุรกิจปิโตรเคมีเปลี่ยนเป็นขาลง หรือเมื่อถึงไซเคิลอุตสาหกรรมปิโตรเคมีตกต่ำลงจากที่ในขณะนี้ธุรกิจปิโตรเคมีกำลังเป็นขาขึ้นอยู่" แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นายวุฒิชัย สัตยพานิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการบริหาร บริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัทได้ทำการศึกษาการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่องในหลายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งธุรกิจ PVC เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทำการศึกษาทั้งความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์และอนาคตของธุรกิจตลอดจนวิธีการเข้าสู่ธุรกิจที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท แต่ยังไม่มีข้อสรุปผลการศึกษาที่ชัดเจน

ด้านนางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย ระบุไว้ว่า กลุ่มปิโตรเคมีเป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนในปี 2548 เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในปี 48 จะเป็น 8.9 แสนตัน จากปัจจุบันที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 5 แสนตัน และในปี 49 ที่จะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านตัน โดยกลุ่มที่แนะนำลงทุนคือบริษัทไทยโอเลฟินส์ (TOC)

บทวิเคราะห์บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยไว้ว่า ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำในหุ้นของบมจ. ไทยโอเลฟินส์ (TOC) จากซื้อลงทุนเป็นซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายในปี 2548 ที่ ราคา 98 บาท ด้วยวิธีคิดลดกระแส เงินสด (DCF) โดยเชื่อว่าราคาโอเลฟินส์จะยังคงสูงอยู่ในปีหน้า เนื่องจากความต้องการที่ยังคงสูงอยู่และอุปทานที่ขาดแคลนในภูมิภาค นอกเหนือไปจากปัจจัยบวกในเรื่องของราคาน้ำมันที่ยังคงสูงอยู่บวกกับคาดการณ์ว่าทางบริษัทจะมีอัตราการเติบโตของผลกำไรที่โดดเด่นถึง 23% ในปีหน้า จากการที่ราคาส่วนต่างจำหน่าย โอเลฟินส์กับวัตถุดิบ (Spread margin) ยังรักษาระดับสูงได้ที่เฉลี่ย 400 เหรียญ/ตันจากระดับปกติที่ประมาณ 200-300 เหรียญ/ตัน และจะยังมีกำลังการผลิตเอทิลีนส่วนขยายอีก 300,000 ตัน ที่จะเริ่มผลิตได้ในเดือนมกราคมนี้มาช่วยผลักดันผลกำไรอีกด้วย

"เราคาดว่า TOC จะบันทึกกำไรพิเศษจำนวน 1,339 ล้านบาท จากการถือหุ้นในสัดส่วน 50% ใน บริษัทบางกอกโพลีเอธิลีน (BPE) ในไตรมาส 4/47 โดยทาง BPE ได้ขายหุ้นของ TOC ที่ทาง BPE ถืออยู่ในสัดส่วน 4.05% หรือ 33.25 ล้านหุ้น ให้แก่ PTT ที่ราคา 46 บาท/หุ้น และได้ขายส่วนที่เหลืออีก 3.06% หรือ25.11 ล้านหุ้น ให้แก่บริษัท Oman Oil S.A.O.L. (OOC) ที่ราคาเฉลี่ย 69 บาท/หุ้น เมื่อตอนสิ้น เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากราคาต้นทุนเฉลี่ยของหุ้นที่ขายไปนั้นอยู่แค่เพียง 10 บาท/หุ้น เรา จึงคาดว่า BPE จะบันทึกกำไรจากการขายหุ้นส่วนนี้ประมาณ 2,679 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4/47 ซึ่งเร็วกว่าที่เราได้เคยคาดไว้ว่าทาง BPE จะขายหุ้นที่เหลือจำนวน 3.06% ให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจงในปีหน้านี้"

จากผลดังกล่าวจึงทำการปรับการคาดการณ์ผลกำไรในปี 2547 เพิ่มขึ้น 13% เป็น 6,807 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 8.29 บาท เพิ่มขึ้นถึง 384% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะเดียวกันเราได้ปรับการคาดการณ์ผลกำไรปี 2548 ลง 7% เป็น 8,375 ล้านบาท เนื่องจากกจะมีการบันทึกส่วนแบ่งกำไรพิเศษจำนวน 741 ล้านบาท (ส่วนของหุ้น TOC ที่ขายไป 3.06% ให้ OOC) จาก BPE ในไตรมาส 4/47 จากก่อนหน้านี้ที่มีการคาดว่าจะบันทึกในปีหน้า

หุ้น TOC ยังคงมีราคาที่ถูกอยู่ โดยซื้อขายที่ PER ปี2548 อยู่เพียง 6.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มเคมีภัณฑ์ที่มี PER เฉลี่ยอยู่ที่ 10 เท่า และมีส่วนต่างจากราคาเป้าหมาย (Upside) ที่ 98 บาท อยู่สูงถึง 44% เราคาดว่าทางบริษัทจะจ่ายเงินปันผลที่ 2 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 2.9% ณ ราคาหุ้นในปัจจุบัน

ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TOC ล่าสุด (17 ธ.ค.) ราคาปิดที่ 68 บาท มูลค่าการซื้อขาย 198.96 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.