ไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ได้ชื่อว่าเป็นนักพัฒนา ที่ดินรายใหญ่ ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในภูเก็ตขณะนี้
เขาเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล "อุปัติศฤงค์" อันเก่าแก่ของภูเก็ต จบการศึกษาชั้นประถมจากโรงเรียนดาวรุ่ง
จังหวัดภูเก็ต มัธยมต้น ที่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย มัธยมปลาย ที่โรงเรียนอำนวย
ศิลป์ ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้านด้านบริหารธุรกิจ
วิทยาลัยฟรอสต์ เบิร์ก (Frostburg State College) รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา
เริ่มต้นการทำงานในบริษัท ซินฮ่องซุ่ย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทกงสีของตระกูล
เมื่อปี 2523 ด้วยการเป็นพนักงานฝ่ายรับซื้อ-ส่งออกยางพารา และแร่ดีบุก ต่อมาได้รับความไว้วางใจจากบุญรอดบริวเวอรี่
ให้เป็นเอเยนต์จำหน่ายเบียร์สิงห์ในภูเก็ต จึงดูแลไปพร้อมกับการส่งออกยางพารา
หลังจากนั้น เมื่อแนวโน้มธุรกิจ ที่ดินกำลังบูม ได้เบนเข็มเข้าสู่วงการพัฒนา
ที่ดิน เมื่อปี 2529
เขาเริ่มต้นโครงการแรกด้วยการร่วมทุนกับ เพื่อนสนิท ขึ้นโครงการกะตะ พลาซ่า
คอนโดมิเนียม ต่อด้วย รอยัล พลาซ่า ภูเก็ตอาเขต ที่สามารถขายได้หมดในเวลารวดเร็ว
ต่อจากนั้น ได้ลงทุนทำโครงการบ้านจัดสรรครบวงจร ที่มีทั้งสโมสร และสิ่งอำนวยความสะดวก
เป็นรายแรกในภูเก็ต ผลงาน ที่สำคัญคือ โครงการภูเก็ตวิลล่า 5 โครงการ ภูเก็ตวิลล่าแคลิฟอร์เนีย
รวมทุกโครงการแล้วกว่า 3,000 หลัง
โครงการพัฒนา ที่ดินของไพบูลย์ ถือว่าประสบความสำเร็จ สามารถขายหมด ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการแรกเป็นต้นมา
จนทำให้ไพบูลย์สามารถเปิดโครงการต่อๆ มาจนถึงช่วง ที่ภาวะเศรษฐกิจกตกต่ำ
วิกฤติเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายโครงการภูเก็ตวิลล่าแคลิฟอร์เนีย ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ที่วางไว้ การวางแผนงานต่างๆ พลาดไปหมด
ไพบูลย์เคยเล่าให้ฟังว่า ช่วง ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจหนักที่สุด ที่ค่าเงินบาทอยู่
ที่ 50 กว่าบาท/ดอลลาร์ ถือว่าเป็นช่วง ที่ภูเก็ตวิลล่าตกอยู่ในสภาพ ที่ลำบากสุดๆ
ไม่สามารถขายบ้านได้แม้แต่หลังเดียว เป็นช่วง ที่ไม่สามารถกำหนดได้ว่าธุรกิจจะดำเนิน
ไปทางไหน ข้างหน้าจะถึงทางตันหรือไม่ ไม่สามารถบอกได้ รู้อย่างเดียวว่าจะต้องสร้างบ้านให้ได้ตาม
ที่สัญญากับลูกค้าไว้
ไพบูลย์บอกกลยุทธ์ในการพาภูเก็ตวิลล่าฝ่าวิกกฤติเศรษฐกิจว่า ขั้นแรกต้องบริหารทรัพยากร
ที่มีอยู่ให้มีความสมดุลกันระหว่างรายรับกับรายจ่าย มีการเปลี่ยนระบบการก่อสร้างใหม่ทั้งหมด
จะเลือกสร้างบ้าน ที่ลูกค้าจองแล้วเท่านั้น รวมทั้งจากเดิม ที่กำหนดไว้ จะมีการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ไม่ว่าจะการสร้างสโมสรพร้อมๆ กับการสร้างบ้านให้ลูกค้า แต่พอเกิดวิกฤติขึ้นมา
เลือกก่อสร้าง เฉพาะสิ่งจำเป็นที่ต้องส่งมอบให้ลูกค้า นอกจากนี้แล้วใช้วิธีเปิดขายเป็นเฟสย่อยๆ
จาก ที่เมื่อก่อนเปิดขายทั้งโครงการ
และสิ่งที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือ ต้องรักษาสัญญา ที่ให้ไว้กับลูกค้า
จะต้องสร้างบ้านให้เสร็จตาม ที่สัญญาไว้กับลูกค้า รวมทั้งจะต้องไม่หนีเจ้าหนี้
ซึ่งเป็นสถาบันการเงิน จะต้องติดต่อกับเจ้าหนี้ตลอดเวลา เพื่อให้เจ้าหนี้ได้ทราบว่าขณะนี้เราตกอยู่ในสภาวะลำบากจริงๆ
พร้อมทั้งแจ้งให้เจ้าหนี้ทราบตลอดว่าจะเดินไปทางไหน เมื่อเกิดวิกฤติขึ้น
จะมีการเปลี่ยนแปลงแผนงานอย่างไรก็ต้องแจ้งให้เจ้าหนี้ทราบ
มาถึงตอนนี้ถือได้ว่าไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ สามารถพาภูเก็ตวิลล่าฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจออกมาได้แล้ว