ดีบีเอส ไทยทนุ กับคัสโตเดียน

โดย ฐิติเมธ โภคชัย
นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

ในอดีตธุรกิจคัสโตเดียนถูกธนาคารต่างชาติธนาคารยักษ์ใหญ่ของท้องถิ่นครอบงำ ปัจจุบันขนาดไม่ได้เป็นอุปสรรคอีกต่อไป และผู้เล่นรายใหม่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

ธุรกิจคัสโตเดียนเริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผู้เล่นเป็นธนาคารต่างชาติ ที่มีเครือข่ายดำเนินกิจการในไทยเพื่อให้บริการลูกค้าที่เข้ามาลงทุน ขณะเดียวกันนักลงทุนท้องถิ่นยังใช้บริการน้อยมาก จนกระทั่งปี 2535-2536 ดัชนีตลาดหุ้นพุ่งไปถึง 1700 จุด มูลค่าซื้อขายต่อวันทะลุ 20,000 ล้านบาท ทำให้หนี้ซึ่งให้บริการรับฝากทรัพย์สินทั้งที่เป็นเงินสด หลักทรัพย์ตราสารทุน ตราสารหนี้ รวมถึงสัญญาโฉนด ทะเบียนทรัพย์สิน หรือติดตามสิทธิประโยชน์ในหลักทรัพย์ เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล

แม้ว่าธุรกิจคัสโตเดียนเป็นธุรกิจประเภท ปริมาณสูงแต่กำไรต่ำ (high-volume, low profit) แต่ดูเหมือนว่าธนาคารพาณิชย์ต่างให้ความสำคัญกันมากขึ้น โดยเฉพาะผู้เล่นหน้าใหม่และธนาคารขนาดเล็ก ที่มีฐานการเงินแข็งแกร่งจากผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือมีเทคโนโลยีทันสมัย ต่างกระโดดเข้ามาแย่งพื้นที่จากความต้องการเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย

"ผู้ที่ดำเนินธุรกิจคัสโตเดียนจะต้องมีชื่อเสียง มีฐานะการเงินมั่นคง จะต้องมีเครือข่ายที่ดี" จิตติวัฒน์ กันธมาลา ผู้อำนวยการฝ่ายหลักทรัพย์บริการดีบีเอส ไทยทนุบอก

ธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ เป็นหนึ่ง ในผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาดำเนินกิจการคัสโตเดียนช่วงที่ดีบีเอสและไทยทนุ เริ่มทำงานด้วยกันเมื่อประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา ด้วยการจัดตั้งบริษัทไทยทนุ ดีบีเอส ขึ้นมาเพื่อให้บริการคัสโตเดียน อีก 2 ปีถัดมาบริษัทดังกล่าวได้ถูกรวมเข้าเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของธนาคาร

"ลูกค้าที่เข้ามารับบริการจากเราส่วนใหญ่จะมีสินทรัพย์ค่อนข้างใหญ่" จิตติวัฒน์เล่า "พวกเขาต้องการหลักประกัน หรือมั่นใจว่าผู้ให้บริการจะไม่ล้มหายตายจาก"

หลังจากนั้นเป็นต้นมาธุรกิจคัสโตเดียนของดีบีเอส ไทยทนุ ได้รับผลตอบรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 80 รายและสินทรัพย์ที่ต้องดูแลประมาณ 3 แสนล้านบาท โดยเฉพาะการได้เป็นผู้รักษาทรัพย์สินของบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท ของธนาคารกรุงไทย ที่มีมูลค่ารวม กว่า 1.4 แสนล้านบาทเมื่อปีที่ผ่านมา นับเป็นปีทองของธนาคารสำหรับการดำเนินกิจการ

"ผลพวงวิกฤติเศรษฐกิจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินมากมาย ทำให้มีตลาดใหม่ คือ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ขึ้นมา ขณะที่เรามีระบบการจัดเก็บข้อมูลเอกสารที่ควบคุมด้วยบาร์โค้ด ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ"

ความสำเร็จของดีบีเอส ไทยทนุกับธุรกิจคัสโตเดียนในปีที่ผ่านมานั้นปฏิเสธ ไม่ได้ว่าเกิดจากการสนับสนุนจากดีบีเอสในสิงคโปร์ "พวกเขาไม่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจนี้ใหม่" จิตติวัฒน์ชี้ "ความช่วยเหลือจึงมีมาอย่างต่อเนื่อง"

เทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งขับเคลื่อนและแรงจูงใจได้ดีที่สุด การเพิ่มศักยภาพของตนเองอยู่เสมอคือ ความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังเป็นความแตกต่างของผู้เล่นระดับเล็กๆ ด้วยกันเอง และการได้เปรียบด้านการแข่งจากความสามารถของต้นทุนระบบ และการให้บริการ

"ไม่มีลูกค้ารายไหนที่อยู่ดีๆ จะเปลี่ยนมาใช้บริการกับเราอย่างฉับพลัน ต้องหาเทคโนโลยีดีๆ หรือใกล้ชิดพวกเขาตลอดเวลา" จิตติวัฒน์ชี้ "คัสโตเดียนมีบทบาทต่อตลาดเงิน ตลาดทุน และกำลังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ให้กับพวกเรา"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.