TKSฮุบสยามเพรสฯ85%ดันเข้าตลท.ใน2ปีหนุนธุรกิจ


ผู้จัดการรายวัน(3 ธันวาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

TKS ถือหุ้นใหญ่ในสยามเพรสฯ 85% หวังขยายธุรกิจครบวงจร พร้อมดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2 ปี หลังแยกธุรกิจออก จากกันอย่างชัดเจน คาดปีนี้ยอดขาย TKS ประมาณ 8 พันล้านบาท แต่กำไรโต 10% ผลจากการตั้งสำรองหนี้เสียจากการปล่อยสินเชื่อให้ดีลเลอร์ ส่วนปี 48 ฟันยอดขายโตกว่า 1 หมื่นล้านบาทและกำไรพุ่ง 40% จากโครงการ รัฐหนุนและไม่มีภาระสำรองหนี้เสีย

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ที.เค.เอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (TKS) เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ตกลงเข้าซื้อหุ้นสามัญ บริษัท สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด จำนวน 899,997 หุ้น ในราคาหุ้นละ 11.65 บาท ราคาพาร์หุ้นละ 10 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,484,965.05 บาท การซื้อหุ้นดังกล่าวจะมีผลให้สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด เพิ่มขึ้นจาก 70% เป็น 85% และสถานะของบริษัทดังกล่าวจะเปลี่ยนจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย โดยการซื้อหุ้นครั้งนี้ TKS ซื้อหุ้นเพิ่มจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) 50% และบริษัท สยามพาณิชย์ ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) 15% โดยใช้เงินลงทุน 46.28 ล้านบาท

การที่ TKS กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จะทำให้บริษัทได้ประโยชน์ในการขยายฐานธุรกิจให้มีบริการครอบคลุมและสร้างความแข็งแกร่งแก่กลุ่มบริษัท ขนาดของรายการเท่ากับ 11.39% จึงไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องรายงาน ตามประกาศการเปิดเผยเกี่ยวกับได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน

หลังจากการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้แล้วเสร็จ บริษัทคาดว่าไม่เกิน 2 ปี บริษัทจะแยกธุรกิจสิ่งพิมพ์ของ TKS มารวมกับบริษัท สยามเพลสฯ และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดของการพิมพ์ ซึ่งปัจจุบัน TKS จดทะเบียนอยู่ในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ และหลังการซื้อหุ้นในบริษัทดังกล่าวจะทำให้ปี 48 บริษัทรับรู้รายได้จากบริษัทลูกเพิ่มขึ้น

สำหรับ TKS ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 46 ที่มีรายได 6 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 30% ส่วนกำไร ของบริษัทในปีนี้ก็คาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 46 ซึ่งมีอัตราการเติบโตของกำไร ประมาณ 10% การที่กำไรของบริษัทเติบโตค่อนข้างน้อย เนื่องจากบริษัทได้มีการสำรองหนี้เสียที่เกิดจาก ดีลเลอร์ทำให้บริษัทต้องตั้งสำรองในปีนี้ประมาณ 40-50 ล้านบาท

โดยรายได้ของ TKS ที่เพิ่มขึ้น มาจากบริษัทในเครือที่ทำรายได้เพิ่ม ส่วนนโยบายการจ่ายเงินปันผล ซึ่ง TKS ยังมีเป้าหมายที่จะจ่ายเงินปันผล ตามนโยบายที่ไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ จากปี 46 ซึ่งบริษัทจ่ายปันผลหุ้นละ 20 สตางค์

นายสุพันธุ์คาดการณ์รายได้ในปี 48 ว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% และบริษัทจะมีการเติบโตของกำไรไม่ต่ำกว่า 40% ซึ่งรายได้และกำไรที่มีอัตราการเติบโตสูง ก็มาจากธุรกิจไอทีที่ยังมีการเจริญเติบโต โดยเฉพาะปี 48 โครงการของรัฐบาลก็จะมีส่วนสนับสนุนการเติบโต ของธุรกิจไอที และในส่วนของภาคเอกชนธุรกิจไอทีเริ่มไปมีส่วนในชีวิตประจำวันมากขึ้น ดังนั้น แม้ปีหน้าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่ธุรกิจไอที ก็จะไม่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ในส่วนของการสำรองหนี้เสีย ในปีหน้าก็จะปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทไม่ต้อง มีการตั้งสำรองเพิ่ม เนื่องจากได้ตั้งสำรองครบในปีนี้แล้ว

โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทยังมาจากธุรกิจไอที 90% และมาจากธุรกิจการพิมพ์ 10%

สำหรับ TKS ได้มีการออกและจัดสรรให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย เพื่อเป็นการเสริมสร้างกำลังใจและประสิทธิภาพ ในการปฏิบัติหน้าที่แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย โดยเป็นชนิดระบุชื่อผู้ถือ และไม่สามารถโอนเปลี่ยนมือได้และให้ฟรี มีอัตราการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย สามารถซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้นราคาใช้สิทธิในการ ซื้อหุ้นสามัญ ราคาหุ้นละ 3.04 บาท โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

พร้อมกันนี้ มีจำนวนหุ้นสามัญ ที่สำรองไว้เพื่อการใช้สิทธิของใบสำคัญ แสดงสิทธิจำนวน 2,500,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 1 ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ3 ปีนับจากวันออก ใบสำคัญแสดงสิทธิ(วันที่ออกใบแสดงสิทธิ คือ 15 ธ.ค. 46) ระยะเวลา การใช้สิทธิ มิ.ย. และ ธ.ค. ปี 47-49

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.80 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 26.83 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 43.18 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 35.23 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.