นลท.รายย่อยขวางคลังฟื้นทีพีไอกมธ.ปกครองจี้ "สมคิด" เคลียร์ข้อมูล


ผู้จัดการรายวัน(2 ธันวาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้ถือหุ้นรายย่อยทีพีไอร้องวุฒิฯตรวจสอบความโปร่งใสในการขายหุ้น ปธ.กมธ.ปกครอง เรียกร้องกระทรวงการคลังระงับการเข้ามาบริหารแผนทีพีไอไว้ก่อน หลังพบปมส่อทุจริตของ "เอฟเฟคทีพ แพลนเนอร์" อ้างศาลล้มละลายกลางหวังเข้าไปเป็นผู้บริหารแผนของทีพีไอ พร้อมเรียก "สมคิด" ชี้แจงภายในวันที่ 14 ธ.ค.นี้

เมื่อวานนี้ (1 ธันวาคม) ที่รัฐสภา ตัวแทนผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI) ได้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อพล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองวุฒิสภา กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังจากบริษัท เอฟเฟคทีฟ แพลนเนอร์ จำกัด (อีพี) เข้ามาซื้อหุ้นของทีพีไอ โดยพล.ต. อินทรัตน์ กล่าวว่า ตามที่บริษัทเอค เฟคทีฟ เพลนเนอร์ จำกัด (อีพี) ได้อ้าง หนังสือของนายสถาพร กวิตานนท์ อดีตเลขาธิการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เมื่อวัน 13 กุมภาพันธ์ 2544 ที่เสนอต่อศาลล้มละลายกลางว่าอีพีเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของทีพีไอได้ ซึ่งจริงๆ แล้วอีพีเป็นเพียงบริษัทที่ปรึกษาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า อีพีฝ่าฝืนบัตรส่งเสริมการลงทุนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพราะบัตรส่งเสริมการลงทุนอีพีทำได้เฉพาะเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินเท่านั้น รวมทั้งอีพีมีทุนจดทะเบียนเพียง 2 ล้านบาท อีพีจึงไม่มีเงินชำระค่าหุ้นของทีพีไอและการโอนหุ้นทีพีไอเข้าบริษัทตนเองขัดต่อแผนฟื้นฟูที่ได้รับอนุมัติจากศาลล้มละลายกลาง ส่วนหุ้นที่อีพีโอนให้แก่บริษัทและบุคคลธรรมดาเป็นจำนวน 51 ราย ถือเป็นการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนซึ่งต้องขออนุญาต ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อนแต่อีพีไม่ได้ทำ

พล.ต.อินทรัตน์กล่าวว่า จากการพิจารณาจึงเห็นว่าหุ้นของทีพีไอมีการกระทำที่เป็นไปในทางทุจริต ซึ่งหากทางกระทรวงการคลังดำเนินการขายหุ้นให้กับหน่วยงานของรัฐและเอกชนอาจจะสร้างปัญหาให้กับตลาดหลักทรัพย์ได้ จึงอยากให้ทางกระทรวงการคลังระงับการดำเนินการไว้ก่อนจนกว่าคณะกรรมาธิการฯ จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ ก.ล.ต. คณะกรรมการบีโอไอ มาให้ข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 14 ธันวาคม ทางคณะกรรมาธิการฯ จะเชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมารับฟังคำชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจต่อไป ซึ่งถ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จริงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและหุ้นที่อีพีโอนไปก็จะต้องโมฆะไปโดยปริยาย

"กรรมาธิการขอเรียกร้องให้กระทรวงการคลังระงับการดำเนินการใดๆ กับทีพีไอ ไว้ก่อนจนกว่ากรรมาธิการจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม การดำเนินการของอีพีครั้งนี้หากมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 คือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และหุ้นที่อีพีเข้ามาดำเนินการโอนให้กับบริษัท หรือบุคคลต่างๆ จะกลายเป็นโมฆะไปโดยปริยาย ดังนั้นจะทำอะไรขอให้ตรวจสอบให้ดี" พล.ต.อินทรัตน์กล่าว

ด้านนายคำนวณ เหมาะประสิทธิ์ คณะกรรมาธิการการปกครองวุฒิสภา กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.กรรมาธิการได้เชิญคณะกรรมการบีโอไอมาให้ข้อมูล แต่บีโอไอกลับส่งเจ้าหน้าที่ระดับล่างมาชี้แจงไม่มีบอร์ดคนใดมาให้ข้อมูล ในเรื่องขายหุ้นของทีพีไอ และการเข้ามาดำเนินการของอีพี ดังนั้นการกระทำครั้งนี้ถือว่าเป็นการซื้อเวลา หากตัวเองบริสุทธิ์ควรออกมาชี้แจงให้มีความชัดเจน นอกจากนั้นยังได้ข่าวมาว่าจะมีการรวบรัดดำเนินการเรื่องของทีพีไอให้เสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ พฤติกรรมดังกล่าวส่อไปในทางทุจริตมากยิ่งขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.