|

สหภาพฯทีพีไอพบขุนคลังวอนกองทุนรัฐถือหุ้นใหญ่
ผู้จัดการรายวัน(30 พฤศจิกายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
"ขุนคลัง" ย้ำแนวทางจัดสรรหุ้นทีพีไออย่างเป็นธรรม เผยส่งหนังสือขอซื้อหุ้นของประชัยให้ผู้บริหารช่วยดูแล้ว เชื่อได้คำตอบในไม่ช้า ขณะที่ปลัดคลังชี้ การจัดสรรหุ้นยึดตามแผนฟื้นฟูฯ เป็นหลัก ด้านสหภาพฯ ตบเท้าพบ "สมคิด" วอนคลังส่งกองทุนรัฐถือหุ้นใหญ่ในทีพีไอ เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างเจ้าหนี้-ลูกหนี้ หวั่นการเคลื่อนไหวของประชัยอาจสร้างความขัดแย้งรอบใหม่
วานนี้ (29 พ.ย.) ตัวแทนสหภาพแรงงานเครือบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อติดตามความคืบหน้าการพิจารณาสรรหาผู้ร่วมทุนทีพีไอรายใหม่
นายสมคิด กล่าวภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนสหภาพฯ ว่า ตัวแทนสหภาพฯ ได้ย้ำถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาทีพีไอ โดยต้องการให้การดำเนินการทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาทีพีไอ และคำนึงถึงการเติบโตในอนาคตของบริษัทเป็นสำคัญรวมทั้งต้องการให้กระทรวงการคลังเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อให้มีเสียงข้างมาก และการหาพันธมิตรร่วมทุนใหม่จะต้องเข้ามาช่วยทำให้ทีพีไอเดินหน้าต่อไปได้
"ผมได้ตอบไปว่า ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนข้อเสนอของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีพีไอ ที่ต้องการซื้อหุ้นคืนนั้น ได้ส่งต่อให้ผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ แล้ว เพราะเขาดูแลเรื่องนี้อยู่ โดยยึดหลักความเป็นธรรม ซึ่งคิดว่าผู้บริหารแผนฯ คงให้คำตอบได้ในไม่นานนี้"
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานจัดผู้ร่วมลงทุนและการจัดสรรการขายส่วนทุนและหุ้นบริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอพีแอล ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (ฉบับแก้ไข) ของทีพีไอ กล่าวว่า ในแผนฟื้นฟูฯ ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ร่วมทุนใหม่ไว้แล้ว เช่น จะต้องเป็นนิติบุคคล มีความเชี่ยวชาญธุรกิจปิโตรเคมี และให้มีจัดสรรหุ้นให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยความเป็นธรรม
สำหรับกรณีการยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นทีพีไอ และทีพีไอพีแอลคืนทั้งหมดของนายประชัยนั้น ผู้บริหารแผนฯ จะเป็นผู้พิจารณา โดยยึดตามแผนฟื้นฟูฯ ส่วนคณะกรรมการที่ตนป็นประธาน จะมีการประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้
นายวิชิต นิตยานนท์ ประธานสหภาพแรงงานฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลล้มละลายกลางอนุมัติแผน ฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขของทีพีไอ โดยกำหนดให้ขายหุ้นสามัญให้พันธมิตรจำนวน 11,651 ล้านหุ้น หรือประมาณ 90% ของหุ้นทั้งหมด เพื่อนำเงินไปชำระคืน ให้เจ้าหนี้นั้น ทางสหภาพฯ ได้มีข้อเสนอผู้ร่วมทุนราย ใหม่ควรเป็นกองทุนรัฐบาล และถือหุ้นในสัดส่วนเสียงข้างมาก เพื่อเข้ามาเป็นตัวกลางในการยุติความขัดแย้ง ระหว่างเจ้าหนี้และผู้บริหารลูกหนี้ที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน
"สหภาพฯ กังวลกับเรื่องที่นายประชัย จะเข้ามาซื้อหุ้นคืน เพราะหลังจากที่มีข่าวออกไปทำให้ฝ่าย เจ้าหนี้ ไม่พอใจ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป อาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ ดังนั้นจึงต้องการให้มีกองทุนภาครัฐเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อยุติปัญหาที่อาจเกิดขึ้น"
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า รมว.คลัง ชี้แจงถึงความคืบหน้าในการหาพันธมิตรร่วมทุนรายใหม่ว่า ขณะนี้มี 2 ราย คือ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) แต่ในรายละเอียดยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ยืนยันว่าการสรรหาผู้ร่วมทุนรายใหม่จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2547 นี้อย่างแน่นอน
ส่วนในเรื่องความขัดแย้งของพนักงานที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มนั้น ในส่วนของพนักงานทีพีไอในจังหวัดระยอง ประมาณ 90% สนับสนุนแผนการฟื้นฟูฯ ฉบับแก้ไขของผู้บริหารแผนฯ และการทำงาน ของกระทรวงการคลังมาโดยตลอด
แหล่งข่าวจากคณะผู้บริหารแผนฯทีพีไอ กล่าวว่า ข้อเสนอซื้อหุ้นทีพีไอและทีพีไอโพลีนของนาย ประชัยที่ยื่นต่อรมว.คลังนั้น การตัดสินใจชี้ขาดอยู่ที่กระทรวงการคลัง แต่ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่าแหล่งเงินที่ซื้อ หุ้นดังกล่าวจะมาจากการขายหุ้นให้พันธมิตรร่วมทุน ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผิดเงื่อนไขแผนฟื้นฟูฯฉบับแก้ไข ที่ระบุว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้นิติบุคคลที่มีสัญาติไทย โดยนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องมีความรู้ความสามารถในธุรกิจปิโตรเคมีด้วยดังนั้น หากมีการขายหุ้นทั้งหมดให้กลุ่มนายประชัยก็ จะขัดกับแผนฟื้นฟูฯฉบับแก้ไขที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหนี้และศาลล้มละลายกลางมาก่อนหน้านี้
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|