บอร์ดปุ๋ยNFCเข้าพบตลาดฯหาทางออกอุ้มนลท.รายย่อย


ผู้จัดการรายวัน(30 พฤศจิกายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

"วิชัย ทองแตง" เตรียมหารือ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" หาทางออกปมปัญหาเพิ่มทุนปุ๋ยเอ็นเอฟซี ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หลังผู้ถือหุ้นรายย่อยขวางแผนเพิ่มทุน เผยเตรียมเสนอทางออก 2 ทาง คือ ยันตามมติเดิมหรืออาจจะมีการกำหนดวันปิดทะเบียนโอนหุ้นใหม่ เพื่อเปิดทางให้สามารถนำหุ้นที่จะจัดสรรให้แก่ IFCT, บสท. และปตท. มาเจียดให้แก่รายย่อยเพิ่ม "วิชัย" ยันที่ผ่านมาให้ความยุติธรรมกับรายย่อยเต็มที่ แถมผู้ถือหุ้นรายใหม่ยังยอมเฉือนเนื้อด้วยการแจกวอร์แรนต์ฟรี

นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) (NFC) เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริษัทเตรียมเข้าหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการลดทุนในครั้งแรกหลังจากที่การประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ถือหุ้นรายย่อยวอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุมเนื่องจากไม่พอใจการจัดสรร วอร์แรนต์ของคณะกรรมการ ส่งผลให้การประชุมต้องปิดลงส่งผลกระทบ ต่อแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท

"เราจะเข้าไปหารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการจัดสรรวอร์แรนต์ให้แก่นักลงทุนรายย่อยก่อนที่จะมีการประชุม คณะกรรมการบริษัทในวันเดียวกันซึ่งทางเลือกน่าจะมี 2 แนวทางคือ 1. คณะกรรมการยืนยันตามมติเดิมและ 2. จะมีการศึกษาในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไรที่จะจัดสรรหุ้นให้แก่นักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้นตามที่เสนอก่อนหน้าที่ให้มีการจัดสรรหุ้นในส่วนของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ซึ่งในการนี้อาจ ต้องมีการปรับวันปิดทะเบียนโอนหุ้นใหม่แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะถือว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากต่างก็เป็นผู้ถือหุ้นเช่นเดียวกัน"

สำหรับทางเลือกแรกที่เสนอให้มีการยืนยันตามมติเดิมของบอร์ดคือจัดสรรวอร์แรนต์ให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มทุน ในครั้งแรกโดยให้อ้างอิงตามราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (PO) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการบรรเทาความเสียหายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยที่ผู้ถือหุ้นเดิมจะมีมูลค่าหลักทรัพย์รวมไม่น้อยกว่า223.66 ล้านบาท

ทั้งนี้ กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะขายให้คือผู้ถือหุ้นเดิมตามรายชื่อที่ปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันลดทุนของบริษัท คือ วันที่ 19 พฤษภาคม 2547 โดยแจกให้ฟรีราคาใช้สิทธิ 1 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะมีการ จัดสรรหุ้นสามัญไว้รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 250 ล้านหุ้น

"สาเหตุที่บอร์ดยืนตามมติเดิม เนื่องจากได้มีการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีผ่านคณะทำงานที่มีการศึกษาผลกระทบอย่างละเอียดและที่สำคัญผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เข้ามาลงทุนต่างยอมเฉือนเนื้อของตัวเอง ซึ่งจุดนี้นักลงทุนรายย่อยน่าจะเห็นใจและอยากให้มองอนาคตของบริษัทมากกว่าที่จะเรียกร้องวอร์แรนต์เพิ่ม"

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนราย ย่อยไม่โหวตวาระการจัดสรรวอร์แรนต์ ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งที่ ผ่านมา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผน เพิ่มทุนของปุ๋ยเอ็นเอฟซี เนื่องจากเป็นวาระที่ต่อเนื่อง โดยปุ๋ยเอ็นเอฟซีเตรียมเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 2,486.61 ล้านบาท เป็น 4,000 ล้านบาทมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท

ทั้งนี้ จะมีการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 250 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งเสนอขายให้แก่นักลงทุนรายย่อยส่วนที่สองจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 500 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่บุคคลใบวงจำกัด และให้จัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 763.38 ล้านหุ้น เพื่อเสนอให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป (PO)

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา "กลุ่มคนรักปุ๋ย" ได้เรียกร้องให้เพิ่มสัดส่วนการจัดสรรวอร์แรนต์ให้แก่นักลงทุนรายย่อยใหม่ โดยอ้างว่าได้รับผลกระทบจากการลดทุนโดยเสนอ ข้อเรียกร้องให้จัดสรรวอร์แรนต์ที่จะจัดสรรให้แก่ IFCT, บสท. และปตท. นำมาให้แก่รายย่อย หรือเมื่อแตกพาร์ จาก 10 บาท เป็น 1 บาท 1 หุ้นสามัญ เดิมจะกลายเป็น 10 หุ้นสามัญใหม่คูณ ด้วย 20 วอร์แรนต์ ซึ่งหมายความว่าต้องจัดสรรวอร์แรนต์จำนวน 200 วอร์แรนต์ให้แก่นักลงทุนรายย่อย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.