|
เกาไม่ถูกที่คัน
โดย
ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
คงเป็นการดีกว่านี้ ถ้าบูธของบริษัทจดทะเบียนในงาน SET in the City เน้นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจการมากกว่าการขนสินค้าออกมาวางขาย
การจัดงาน SET in the City ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปีนี้เป็นปีที่ 3 สีสันของงานก็ยังคงไว้ถึงเนื้อหาที่หนักแน่น มิได้ลดลงไปจาก 2 ครั้งแรกแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ตลาดหุ้นไทยเกิดความผันผวนอย่างหนัก จากปัจจัยลบหลายๆ ประการ ทั้งจากปัจจัยภายใน เช่น เรื่องไข้หวัดนก สถาน การณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนปัจจัยภายนอกอย่างเหตุการณ์ในประเทศอิรัก และที่สำคัญที่สุด คือราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
ยิ่งเป็นการจัดงานในช่วงที่ใกล้จะ มีการเลือกตั้งใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งในประวัติศาสตร์ ตลาดหุ้นช่วงนี้มักมีความ คึกคัก ความสนใจของคนที่อยากเข้าไปชม งานย่อมมีสูงขึ้นจนทำให้ตลอด 4 วันของการจัดงานบริเวณศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ต่างคราคร่ำไปด้วยผู้คน ทั้งที่เป็นนักลงทุนอยู่แล้ว และผู้ที่กำลังให้ความสนใจ จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในฐานะนักลงทุนหน้าใหม่
งานในปีนี้อาจจะแตกต่างจากเมื่อ 2 ครั้งแรกตรงที่พื้นที่จัดงานใช้เต็มพื้นที่ของศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยแบ่งเป็น 4 โซนหลักๆ คือโซนของการจัดสัมมนาให้ ความรู้ โซนของธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจ การเงินที่เกี่ยวเนื่องกับหลักทรัพย์ โซนของ บริษัทจดทะเบียน และโซนของการเปิดร้าน ขายของ ซึ่งดูจะกลายเป็นโซนที่คนเข้ามาชมงานให้ความสนใจมากกว่าโซนอื่นๆ
โซนของการจัดสัมมนา มีโปรแกรม เต็มเหยียดตลอดทั้ง 4 วัน ซึ่งหากใครได้เข้าไปนั่งฟังตลอดทุกหัวข้อ เมื่อกลับออกมา คงจะเป็นนักลงทุนที่มีคุณภาพ ไม่ตื่นตระหนก เป็นกระต่ายตื่นตูม เหมือนนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา
โซนของธุรกิจหลักทรัพย์มีเจ้าหน้าที่ ของบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุนรวม ที่ขนกันมาให้ข้อมูลความรู้แก่นักลงทุน พร้อมกับเปิดคลินิกให้คำปรึกษาการลงทุน กับคนที่ยังมีหุ้นราคาสูงกว่าราคาตลาดในวันนั้น ติดอยู่ในพอร์ต
แต่บางส่วนของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ พยายามยัดเยียดกับคนที่เข้ามาเดินชมงาน ให้เปิดพอร์ต เป็นลูกค้ากับบริษัทต้นสังกัดมากเกินไปหน่อย
โซนที่น่าจะเป็นโซนที่มีความสำคัญ คือโซนของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งมีหลายบริษัทมาร่วมเปิดบูธ แต่ปรากฏว่าคนที่มาเดินในโซนนี้ดูจะน้อยกว่าอีก 3 โซนที่เหลือ อย่างเห็นได้ชัด
ที่สำคัญวัตถุประสงค์หลักของการจัดงาน คือการให้แต่ละบริษัทได้มานำเสนอ ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของนักลงทุน แต่ดูเหมือนว่าบางบริษัทกลับไม่ให้ความสำคัญกับประเด็น นี้เท่าไรนัก
บางบริษัทกลับเห็นว่าการได้เข้ามา เปิดบูธในงาน SET in the City คือโอกาสในการขาย แทนที่จะนำข้อมูลมาเสนอกับประชาชนทั่วไป แต่กลับนำสินค้าออกมาวางขายในงานแทน
และบังเอิญว่าโซนของบริษัทจดทะเบียนตั้งอยู่ชั้นบนของโซนที่ผู้จัดงานกันไว้สำหรับเป็นพื้นที่เพื่อเปิดบูธขายของ บาง คนก็เลยสับสนเมื่อเดินจากชั้นบนลงมาชั้นล่างแล้วนึกว่าเป็นโซนที่เปิดขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้ นับได้ว่าประสบความสำเร็จไปแล้วระดับหนึ่ง เพราะภายหลังเสร็จสิ้นงาน SET in the City บรรยากาศการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็คึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ดัชนีราคาหุ้นหลังจากลงไปทดสอบแนวรับ ที่ระดับ 615 จุด ในช่วงก่อนหน้าก็กระเตื้อง ขึ้นมาจนทะลุระดับ 650 จุด
งานนี้ถือเป็น event ที่พยายามกระตุ้นความสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้น ของประชาชนทั่วไปที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่งทีเดียว
แต่จะดียิ่งขึ้นกว่านี้ ถ้าผู้จัดให้ความ สำคัญกับการเปิดพื้นที่ของบริษัทจดทะเบียน ให้มากขึ้น เพื่อให้บริษัทเหล่านี้มีโอกาสนำเสนอข้อมูลของแต่ละบริษัทมากกว่าพื้นที่ที่กันไว้ให้บริษัทหลักทรัพย์ใช้เป็นจุดทำการ ตลาด เพื่อดึงลูกค้าให้มาเปิดพอร์ต
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|