ดีแทคหวังแมกซิไมซ์กวาดลูกค้าโพสต์เพดปี48ชูกลยุทธ์บริการเหนือแข่งขันราคา


ผู้จัดการรายวัน(25 พฤศจิกายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ปี 48 ดีแทคมองกลยุทธ์เหนือชั้นตลาดโพสต์เพด ค่าบริการเป็นเรื่องรอง ตลาดหลักแข่งที่บริการ ชิงจับตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีการใช้งานมาก หลังประสบความสำเร็จกับ MAXIMIZE ด้วยฐานลูกค้ากว่า 2.4 แสนราย หลังเปิดตัวได้ 9 เดือน พร้อมปรับแนวคอนเซ็ปต์ MAXIMIZE CARD สู่ "Five sense" เข้าถึงความรู้สึกผู้ใช้ให้ลูกค้าได้มากกว่าการซื้อแค่แพกเกจโทรศัพท์มือถือ

นายสันติ เมธาวิกุล ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ โพสต์เพด บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวถึงกลยุทธ์การทำตลาดของระบบโพสต์เพดปี48 ว่า จะให้ความสำคัญเรื่องอัตราค่าบริการเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ในส่วนดีแทคแม้จะต้องอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันเรื่องค่าโทร. ชั่วโมงละ 1 บาท หรือก่อนหน้านั้นนาทีละ 1 บาท แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับยอดผู้ใช้บริการ โดย ดีแทคยึดกลยุทธ์ที่สำคัญคือได้รับในสิ่งที่คุ้มค่า ได้รับความแปลกใหม่ในบริการมากกว่าการซื้อแค่แพกเกจโทรศัพท์

ตั้งแต่เปิดตัวแมกซิไมซ์ 9 เดือน มียอดรวมลูกค้าจดทะเบียนในระบบโพสต์เพดกว่า 2.4 แสน รายจากยอดรวมลูกค้าในระบบจดทะเบียนทั้งหมด 1.2 ล้านราย

"ปัจจัยที่ทำให้ดีแทคเติบโตในตลาดโพสต์เพดมียอดจดทะเบียนต่อเนื่องนานถึง 18 เดือน เป็นเพราะกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้า และระบบตรวจสอบความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และนำสิ่งที่ลูกค้าต้องการมาเป็นกลยุทธ์หลัก แทนที่จะมุ่งแข่งขันในเรื่องค่าบริการเป็นหลักใหญ่"

นายสันติ กล่าวว่าลูกค้าที่เลือกใช้แมกซิไมซ์ จะเป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมการโทร.มากกว่า 1,200 บาทต่อเดือนซึ่งที่ผ่านมานอกจากลูกค้าจะได้รับส่วนลดค่าบริการเช่นใช้เกิน 5 นาทีลดค่าบริการ 5% ใช้เกิน 30 นาทีลดค่าบริการ 20% แล้วลูกค้าให้การตอบรับบริการ *1899 เลขาส่วน ตัวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นบริการที่สามารถช่วย เหลือลูกค้าได้จริง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล บริการท่องเที่ยว ติดต่อการซ่อมบำรุง บริการฉุกเฉินบนท้องถนน โดยบริการช่วยเหลือส่วนบุคคลเป็นที่นิยมของลูกค้าใช้บริการมากถึง 40% ส่วนการใช้สิทธิประโยชน์จากแมกซิไมซ์การ์ดที่ดีแทคร่วมกับพันธมิตรอย่างร้านอาหารได้ รับความนิยมใช้บริการ 42% และการใช้สิทธิประโยชน์ด้านการชอปปิ้งมีลูกค้าใช้บริการสูงถึง 30%

จากความสำเร็จของยอดผู้ใช้บริการโพสต์เพดที่เพิ่มขึ้นเองเป็นสิ่งยืนยันว่าดีแทคเดินมาถูกทางและคิดจะสานต่อแนวคิดนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มแมกซิไมซ์โดยคอนเซ็ปต์ใหม่ของ แมกซิไมซ์ในปี 2548 จะวางอยู่บน 3 แนวคิดคือ 1.ค่าโทร.เป็นเรื่องเล็ก 2.ทุกปัญหาเป็นเรื่องเล็ก และ3. ชอปปิ้งที่ไหนเป็นเรื่องเล็ก ทั้งนี้ โดยจะมีการปรับในส่วน แมกซิไมซ์การ์ด จากของเดิม ที่จะหมดอายุในสิ้นเดือนธ.ค.ปีนี้ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Five sense" หรือ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อให้แมกซิไมซ์ เป็นได้มากกว่าแพกเกจ โทรศัพท์ตามเป้าหมายที่ต้องการ

"ในปี 2548 ลูกค้าจะเห็นแมกซิไมซ์ โดยเฉพะในบริการเลขาส่วนตัวที่สามารถตอบทุกโจทย์คำถามให้กับลูกค้าได้ และเป็นแพกเกจ บริการที่ลูกค้าเห็นความคุ้มค่าเกินความคาดหมาย เป็นบริการที่สร้างความประหลาดใจให้กับลูกค้า และเป็นบริการที่อิงความรู้สึกและความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก"

ปัจจุบันดีแทคมียอดลูกค้ารวมทั้งหมด ประมาณ 7.7 ล้านราย แบ่งเป็นระบบโพสต์เพด ประมาณ 1.26 ล้านราย และพรีเพด 6 ล้านกว่าราย เป้าหมายที่ต้องการคือในปี 2548 ต้องการเพิ่มลูกค้า ในระบบโพสต์เพดให้ได้มากกว่าเดือนละ 1 หมื่นเลขหมาย หรือมีอัตราการเติบโตเดือน ละ 10% โดยมองว่าในปี 2548 จะเป็นปีที่การแข่งขันในตลาดโพสต์เพดเป็นไปอย่างรุนแรง และการทำตลาดจะยากขึ้น จากก่อนหน้านี้หลาย โอเปอเรเตอร์ยังไม่เห็นความสำคัญของตลาดนี้ แต่ปัจจุบันทุกรายหันมาหาตลาดโพสต์เพดและมองว่าเป็นตลาดที่ก่อให้เกิดรายได้แน่นอนและยังมาทำตลาดกันอย่างจริงจัง

"ปี 48 ตลาดโพสต์เพดจะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันในเรื่องการบริการ ส่วนราคาจะไม่ค่อยมีการพูดถึงกันมากนัก ในส่วนดีแทคจะได้ เปรียบเพราะเน้นคอนเซ็ปต์นี้มาตั้งแต่แรก โดยคาดว่าจากฐานลูกค้าโพสต์เพด 1.3 ล้านรายในปี 2547 จะเพิ่มเป็น 1.4 ล้านรายในปี 2548"


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.