|
แมกเนคอมพ์ฯแบล็คดอร์KRPเทนเดอร์ออฟเฟอร์2.60บ.
ผู้จัดการรายวัน(23 พฤศจิกายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
"แมกเนคอมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล" สิงคโปร์ ฮุบ KRP ถือ 80% ด้วยวิธีการหุ้นแลกหุ้น พร้อมถอนคดีฟ้องร้องคดีการละเมิดลิขสิทธิ์ผลิตสินค้า KRP จะเพิ่มทุนเป็น 21,085 ล้านบาท ออกหุ้นสามัญ 1,718.45 ล้านหุ้น จัดสรรให้แมกเนคอมพ์ 1,418 ล้านหุ้น ราคา 2.60 บ. สูงกว่าราคาตลาด ที่เหลือขายพีพีให้ประชาชนผู้ถือหุ้นเดิม เตรียมประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ 2.60 บ. พร้อมส่งทีมมาบริหาร ล่าสุดปรึกษาตลท.หาแนวทางแก้ไขปัญหาฟรีโฟลท ไม่อยากถูกดีลิสต์
นายวินเซนต์ โจเซฟ แมสโธรปิแอโธร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เค.อาร์.พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) (KRP) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้บริษัทเข้าทำบันทึกความเข้าใจกับบริษัทแมกเนคอมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สิงคโปร์ เกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่าง KRP กับธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลของบริษัทแมกเนคอมพ์
การควบรวมดังกล่าว โดยบริษัทแมกเนคอมพ์ จะเข้ามาถือหุ้นใน KRP ไม่เกิน 80% ขณะที่ KRP จะได้หุ้นของบริษัทในเครือบริษัทแมกเนคอมพ์ 8 แห่ง ประกอบไปด้วยบริษัทอินเดสท์ คอเปอร์เรชั่น, บริษัทเเมกเนคอมพ์ (ประเทศไทย), บริษัทอครธน พรีซีชั่น เทคโนโลยีส์ (ฮ่องกง), บริษัทอครธน พรีซีชั่น เทคโนโลยีส์, บริษัทเเมกเนคอมพ์ เฟลกซเจอร์, บริษัทออปติมอล เทคโนโลยี และบริษัทเเมกเนคอมพ์ คอเปอร์เรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทของอินเดสท์ คอเปอร์เรชั่น ถือหุ้นอยู่
เมื่อมีการทำรายการเข้าซื้อกิจการ บริษัททั้ง 2 แห่ง ได้ตกลงจะถอนคดีฟ้องร้องที่ดำเนินการอยู่ก่อนหน้านี้ทั้งหมดและอาจจะมีการแต่งตั้ง กรรมการชุดใหม่เข้ามารับตำแหน่ง
นายวินเซนต์ กล่าวว่า คณะกรรมการของ KRP ยังมีมติให้ลดทุนจดทะเบียนจาก 6,024.74 ล้านบาท เหลือ 3,900.74 ล้านบาท โดยลดจำนวนหุ้นลง 212.40 ล้านหุ้น และมีมติเพิ่มทุนจาก 3,900.74 ล้านบาท เป็น 21,085.26 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญ จำนวน 1,718.45 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตรา ไว้หุ้นละ 10 บาท นอกจากนี้ที่ประชุม ยังมีมติจัดสรรหุ้นจำนวน 1,418.45 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่บริษัทแมกเนคอมพ์ ในราคาหุ้น 2.60 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิน 3,687.97 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เสนอขายกว่าราคาที่สูงกว่าราคาตลาด โดยการจัดสรรให้บริษัทแมกเนคอมพ์ เพื่อเป็นการตอบแทนการได้มาบริษัทย่อยของบริษัทแมกเนคอมพ์ ส่วนจำนวนหุ้นที่เหลือ 300 ล้านหุ้น จะจัดสรรให้กับบุคคลวงในจำกัด,เสนอขายประชาชนทั่วไป และผู้ถือหุ้นเดิม
คณะกรรมการบริษัทยังมีมติเป็นเอกฉันท์ให้บริษัทเข้าทำสัญญาเงินกู้จำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ กับบริษัทแมกเนคอมพ์ หลังจากเข้าทำรายการซื้อขายกิจการเสร็จสิ้นแล้ว
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการ บริษัทเทิรน์อะราว ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทย่อยของบริษัทแมกเนคอมพ์ ที่นำมาแลกหุ้นกับ KRP ถ้าพิจารณา จากมูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ 31 ธ.ค. อยู่ที่ระดับ 2.1 พันล้านบาท ดังนั้นมูลค่าส่วนต่างที่เหลือเป็นค่าความนิยมหรือชื่อเสียง (GOODWILL) ประมาณ 1.5 พันล้านบาท ในส่วนเงินกู้ยืม จำนวน 10 ล้านเหรียญนั้น
เนื่องจากว่าหลังจากที่มีการควบรวมแล้วขนาดของบริษัทและพนักงานจะมีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นอาจจะต้องใช้หมุนเวียนมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทแมกเนคอมพ์ได้ให้สำรองไปใช้ก่อนจำนวน 10 ล้านเหรียญ แต่หาก KRP สามารถกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ได้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกู้เงิน
ทั้งนี้ การควบรวมดังกล่าวเป็น ลักษณะจดทะเบียนในทางอ้อม ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้สภาพคล่องของหุ้นลดลง เพราะบริษัทแมกเนคอมพ์เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่า KRP ส่งผลทำให้ฟรีโฟลทของ KRPลดเหลือ 9% ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ขอกับตลาดหลักทรัพย์เพื่อขอดำรงสถานะการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป ดังนั้น จึงกำลังจะหารายการเพื่อจะเพิ่มฟรีโฟลท
ดังนั้น ถ้า KRP ควบรวมกับบริษัทแมกเนคอมพ์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เชื่อว่ายอดขายของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 4.5 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทแมกเนคอมพ์ เป็นบริษัทที่ใหญ่ อยู่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีมาร์เกตแชร์ ประมาณ 18% ขณะที่ KRP มีมาร์เกต แชร์ประมาณ 4% ซึ่งหากควบรวมกันแล้วจะสามารถขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้และบางธุรกิจที่เป็นจุดแข็งและมีความชำนาญ อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นที่หนึ่งใน ธุรกิจนั้น
โดยขณะนี้อันดับหนึ่งได้แก่ บริษัทฮัทชินสัน เทคโนโลยี จากสหรัฐ มีมาร์เกตแชร์ 55% ส่วนอันดับสองได้แก่บริษัทจากญี่ปุน คือ บริษัทเอ็น เอส เค ซึ่งมีมาร์เกตแชร์ 20% ซึ่งเชื่อว่าที่ผ่านมา KRP เป็นบริษัทที่มีผลขาดทุนต่อทุนต่อเนื่อง เชื่อว่าหลังจาก การควบรวมกิจการแล้วภายในปีหน้าจะมีการกลับมาสร้างกำไรได้
สำหรับขั้นตอนในการควบรวม ภายในเดือนธันวาคม คงจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของ 2 บริษัทเพื่อขอความเห็นชอบ หลังจากนั้นภายในเดือน กุมภาพันธ์ 48 บริษัทก็จะทำคำเสนอซื้อกับนักลงทุนทั่วไปภายในเดือนกุมภาพันธ์ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท เช่นกัน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|