คณะทำงานย้ำขอเวลา1ด.สรุปแผนร่วมทุนใหม่ทีพีไอ


ผู้จัดการรายวัน(16 พฤศจิกายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

คณะกรรมการจัดหาผู้ร่วมทุนฯทีพีไอ กำหนดกรอบดำเนินงาน คาดใช้เวลา 1 เดือน สามารถสรุปรายละเอียดพันธมิตรผู้ร่วมทุนรายใหม่ ทั้งรายชื่อ หลักเกณฑ์ สัดส่วนการถือหุ้น รวมถึงราคาเสนอขาย ย้ำจัดสรรหุ้นจำนวน 1.7 หมื่นล้านหุ้น อย่างเป็นธรรม พร้อมหารือเป็นทางการกับ ปตท. ระบุเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุด ต้องมั่นใจสามารถบริหารกิจการได้

วานนี้ (15 พ.ย.) นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานจัดหาผู้ร่วมทุน การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนทีพีไอ และการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในส่วนของบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ในส่วนที่ทีพีไอถืออยู่ ได้จัดให้มีการประชุมคณะทำงานเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายศุภรัตน์ กล่าวว่า บทบาทและหน้าที่ของคณะทำงานฯชุดนี้ คือ การดำเนินการจัดหาผู้ร่วมทุน จัดสรรหุ้นส่วนทุน รวมถึงการจัดสรรหุ้นในบริษัททีพีไอ โพลีน ที่ทีพีไอถืออยู่กว่า 240 ล้านหุ้น เพื่อนำไปชำระหนี้เจ้าหนี้จำนวนกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการ

โดยที่ประชุมได้สรุปกรอบกว้างๆ เกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นว่า จะมีการจัดสรรให้กับผู้ร่วมทุนใหม่ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหนี้ เจ้าของเดิม ผู้ถือหุ้นเดิม โดยจะ นำมาจากหุ้นส่วนทุนที่เจ้าหนี้ได้รับจากการแปลงหนี้เป็นทุน และหุ้นใหม่จากการปรับลดราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) จาก 10 บาท เหลือ 1 บาท รวมประมาณ 17,000 ล้านหุ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ คณะทำงานฯ จะสรุปรายชื่อผู้ร่วมลงทุน สัดส่วนการถือหุ้น ราคาเสนอขาย และสัดส่วนการจัดสรรให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับทีพีไอได้ชัดเจนภายในเวลา 1 เดือน

สำหรับในส่วนของเจ้าหนี้นั้น ที่ผ่านมาไม่ได้มีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ต้องการคงสัดส่วนหุ้นที่ได้รับจากการแปลงเป็นทุนในสัดส่วนเท่าใด แต่การที่เจ้าหนี้นำหุ้นที่ได้รับจากการแปลงเป็นทุนมากองไว้ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการจัดสรรนั้น เป็นเพราะต้องการการบริหารงานสามารถเดินหน้าไปได้ เพราะวัตถุประสงค์ของเจ้าหนี้ ไม่ได้ต้องการเข้ามาเป็นผู้บริหารกิจการเอง แต่ต้องการได้รับชำระหนี้คืนมากกว่า

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นให้กับนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะได้รับการจัดสรรหุ้นอย่างไร แต่ในเบื้องต้นการจัดสรรหุ้นจะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม ทั้งลูกหนี้ เจ้าของเดิม รวมถึงผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วย

ส่วนพันธมิตรรายใหม่ ที่ได้มีการเจรจาไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้มีการยื่นเงื่อนไขใดๆ เข้ามาหรือไม่นั้น นายศุภรัตน์ กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการหารือกันอย่างเป็นทางการก่อน แต่หาก ปตท.เข้ามาเป็นผู้ร่วมทุนแล้ว ถือว่าเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุด ดังนั้น ประเด็นสำคัญที่จะมีผลต่อการตัดสินใจคือ มั่นใจว่า หลังจากที่ร่วมทุนแล้วจะต้องสามารถบริหาร กิจการได้ ซึ่งในเรื่องนี้ ปตท.มีสิทธิ์ที่จะเสนอเงื่อนไขต่างๆ ได้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.