ยักษ์หลับ แบงก์กรุงเทพปรับสาขาต่างประเทศ-คอมพิวเตอร์สู้กระแสครอบกิจการของฝรั่ง


ผู้จัดการรายวัน(25 กุมภาพันธ์ 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

แบงก์กรุงเทพปรับแผนสาขาต่างประเทศครั้งใหญ่ เร่งลดต้นุทน หารายได้เพิ่ม เพื่อแข่งขันกับธนาคารจากซีกโลกตะวันตกที่ซื้อกิจการในเอเชียเป็นว่าเล่น วางสาขาฮ่องกงเป็นศูนย์กลางคุมสาขาเอเชียตะวันออก และสาขาสิงคโปร์คุมสาขาอินโดนีเซียและมาเลเซีย รวมถึงการสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์ ที่แบงก์มีสิทธิโยกย้ายพนักงานครั้งใหญ่

นายประสงค์ อุทัยแสง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายกิจการธนาคารต่างประเทศ ธนาคารกรุง

เทพ เปิดเผยผลดำเนินงานส่วนกิจการธนาคารต่างประเทศปี 2544 ว่า กำไรสุทธิมากกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งดีขึ้นเทียบกับปี 2543 เนื่องจากปรับเปลี่ยนระบบการทำงานองค์กร และผลจากการทำงานหนักของทุนฝ่ายในธนาคาร

นโยบายดำเนินกิจการธนาคารต่างประเทศปีนี้ มุ่งไม่ให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นขณะเดียวกันพยายามปรับโครงสร้างหนี้รายเดิมให้ลดมากที่สุด และเน้นตั้งเงินสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวนหนึ่ง ทำให้ฐานะการเงินสายงานต่างประเทศมีความมั่นคงสูง

นอกจากนี้จะเริ่มเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบการทำงาน (Infrastructure) พร้อมกับการทำ Bualuang Transformation (BT) กิจการในประเทศ คาดว่าใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าจำเป็นมาก เพราะการทำธุรกิจในเอเชียกำลังเปลี่ยนอย่างมาก ธนาคารจากตะวันตกซื้อธนาคารท้องถิ่นในเอเซียจำนวนมาก ธนาคารจากตะวันตกเหล่านี้มีวิธีทำงานแตกต่างออกไป

ดังนั้นหากธนาคารไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีทำงาน ย่อมจะอยู่ไม่ได้ หรือไม่สามารถรักษาความเป็นดับหนึ่งได้ต่อไป

นายประสงค์กล่าวต่อไปว่าหลักการปรับโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้ จะเปลี่ยนแปลง 2 ส่วน

ประการแรกคือลดส่วนที่เป็นต้นทุน และต้องขยายส่วนหารายได้ให้มากขึ้น ประการที่ 2 การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบงาน คือการสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์ระดับภูมิภาค เพื่อลดต้นทุน สามารถกำกับควบคุมทั้งองค์กรง่ายขึ้น และให้บริการเร็วขึ้น

โดยจะตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ทางทิศเหนือกรุงเทพที่ฮ่องกง เพื่อครอบคลุมกลุ่มสาขาในเอเชียตะวันออกและจีนทั้งหมด ได้แก่ สาขาในจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ สาขาทั้งหมดนี้ โซนเวลาเดียวกัน ยกเว้นญี่ปุ่น ซึ่งเวลาต่างกันเพียง 1 ชั่วโมง

สำหรับศูนย์ฯ สาขาทางใต้ จะตั้งที่สาขาสิงคโปร์ เพื่อให้คุมสาขาในอินโดีนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งมีโซนเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามส่วนระบบงานคอมพิวเตอร์สาขานิวยอร์ก ลอนดอน และในประเทศในอินโดจีน จะขึ้นตรงกับศูนย์คอมพิวเตอร์สำนักงานใหญ่ธนาคาร เนื่องจากศูนย์ฯ นี้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

นายประสงค์กล่าวว่าการเลือกสาขาฮ่องกงและสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์ระบบงานคอมพิวเตอร์ทางเหนือและใต้กรุงเทพ เนื่องจากทั้ง 2 สาขาตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเอเชียที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่ง และเป็นประเทศที่มีระบบกฎหมาย และระบบภาษีที่มีมาตรฐาน ชัดเจน เอื้อในการทำธุรกิจได้ง่าย และสะดวก

"เมื่อสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์เสร็จแล้ว สาขาต่างประเทศอื่น จะทำหน้าที่เป็นจุดบริการ และจุดขาย การเป็นจุดขายไม่จำเป็นต้องลดขนาด บางแห่งอาจขยายใหญ่ขึ้น พนักงานมากกว่าเดิมก็ได้ เช่น สาขาเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจของจีน ประชากรมาก สามารถทำธุรกิจได้มาก ธนาคารเตรียมเพิ่มทุน และขยายขอบเขตการทำงานธุรกิจสาขานี้" นายประสงค์กล่าว

กรรมการรองผู้จัดการใหญ่แบงก์กรุงเทพกล่าวต่อไปว่าหลังจากที่ระบบงานมารวมศูนย์แล้ว งานทุกสาขาจะลดลง ซึ่งเป็นไปได้ที่จะโยกย้ายบุคลากรบ้าง แต่พนักงานไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะย้ายที่ที่เหมาะสม และขอให้พนักงานเข้าใจว่าการที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ดี หากไม่มีการปรับองค์กร ธนาคารจะสู้กับคู่แข่งไม่ได้

นอกจากนี้ธนาคารยังมีแผนตั้งศูนย์ตรวจสอบภายในที่ฮ่องกง เพื่อให้เป็นหน่วยงานตรวจสอบสาขาในจีน และฟิลิปปินส์ โดยสามารถส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ หลังจากตั้งศูนย์ตรวจสอบแล้ว จะศึกษาเพื่อจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติงานกลาง เพื่อรองรับงานฝ่ายสนับสนุนงาน (Back Office) สาขาในเขตทั้งหมด



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.