|

บอร์ดทศทชี้ชะตาอนาคต 2 เรื่องซีอีโอ/ตัดเชือก5.6แสนเลขหมาย
ผู้จัดการรายวัน(10 พฤศจิกายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
บอร์ดทศทชี้ชะตา 2 เรื่องสำคัญ สรรหาซีอีโอและโครงการ 5.6 แสนเลขหมาย ที่คาดว่าจะเสนอซีเมนส์บริษัทเดียวให้พิจารณา ท่ามกลางข้อสงสัยของการดำเนินงานที่เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใสทึบแสง ในขณะที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีชี้ทางให้เลือกเทคโนโลยีไร้สายที่เหมาะสม มากกว่าการเดินสายเคเบิลที่ต้นทุนแพงและเทคโนโลยีไม่ทันสมัยแล้ว วัดใจหมอเลี้ยบกล้าเลือกบริษัทเดียวทำโครงการ 8 พันล้านหรือไม่
ในวันนี้ (10พ.ย.) การประชุมบอร์ดบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จะมีการพิจารณา 2 เรื่องที่มีความสำคัญกับอนาคตของทศทคือการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ และการพิจารณาโครงการขยาย โทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมายมูลค่า 8 พันล้านบาท
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าได้ขอให้บอร์ดทศทพิจารณา เลือกกรรมการผู้จัดการใหญ่ให้แล้ว เสร็จภายในการประชุมครั้งนี้ โดยที่จะเริ่มงานในวันที่ 1 ม.ค.เพื่อให้นับอายุการทำงานได้ง่ายตามปีปฏิทิน โดยที่เป็นคนนอกหรือคนในก็ได้ เพราะจะต้องมีการตั้งมาตรฐานการวัดผลหรือ KPI ไว้
"เราให้ทดลองงาน 6 เดือน แล้ววัดผล หากไม่ผ่านก็อาจมีการสรรหาใหม่ โดยผมขอให้ท่านประธานบอร์ดเลือกให้ได้โดยเร็ว"
ด้านแหล่งข่าวจากทศท กล่าวว่าการชี้ชัดว่าจะได้คนนอกหรือคนในมาเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ อยู่ที่รายชื่อที่เสนอให้บอร์ดพิจารณา หากคนในจะได้เป็นก็น่าจะเป็นนายจำรัส ตันตรีสุคนธ์ ในขณะที่หากบอร์ดต้องการคนนอก ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะให้นายจำรัสรักษาการต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง รอจนคนนอกที่มีความเหมาะสมมาสมัครรอบใหม่ เหมือนเมื่อครั้งนายสิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ ได้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่
ส่วนโครงการขยายโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย มูลค่า 8 พันล้านบาทนั้น นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานบอร์ดทศทกล่าวว่า การพิจารณาโครงการโทรศัพท์ 5.6 แสน เลขหมายหากเหลือเพียงบริษัทเดียวที่ผ่านด้านเทคนิคและเงื่อนไขพาณิชย์ต่างๆแล้ว อยู่ที่กรรมการบอร์ดจะพิจารณาอย่างไร และมีคำอธิบายที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งหากผ่านเพียงบริษัทเดียวก็จะต้องมีการเจรจาต่อรองราคาอีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.ท.บุญญฤทธิ์ รัตนะพร รองประธานบอร์ดทศทกล่าวว่า ไม่มีระเบียบข้อไหนห้ามไม่ให้จัดซื้อจากบริษัทเดียว เพราะโครงการนี้มีบริษัทยื่นข้อเสนอมากถึง 10 บริษัทแต่สุดท้ายถ้าเหลือบริษัทเดียว ก็ถือว่าดำเนินการมาตามขั้นตอนต่างๆแล้ว
"ถึงผ่านบริษัทเดียวก็จ้างได้ เพราะไม่มีระเบียบข้อไหนห้าม"
แหล่งข่าวจากทศทกล่าวว่าคาดว่าบริษัทซีเมนส์จะเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ผ่านการพิจารณา เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการเปิดซองราคา และต่อรองราคา ท่ามกลางความไม่โปร่งใสทึบแสงในขบวนการประกวดราคาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทดสอบอุปกรณ์ของบริษัทซีเมนส์ที่ใช้อุปกรณ์หลักยี่ห้อ OPNET จากประเทศไต้หวัน จะไม่ผ่านการทดสอบถึง 4 ประเด็นหลักคือ
1.อุปกรณ์ของ OPNET ไม่สามารถใช้ ISDN ได้ซึ่งไม่เพียงแต่อุปกรณ์ที่เสนอในการประมูลโครงการนี้เท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ที่ทศทซื้ออุปกรณ์ประเภทเดียวกันนี้ของ OPNET ก็ไม่สามารถใช้ ISDN
2.ในการทดสอบอุปกรณ์ STM-4 ปรากฏว่าซีเมนส์ใช้อุปกรณ์ STM-1 มาทดสอบแทน โดยที่เป็นอุปกรณ์ระดับต่ำและมีประสิทธิ- ภาพต่ำกว่า STM-4 ที่ระบุไว้ 3.ระบบ NMS หรือ Network Manage-ment System ในทีโออาร์กำหนดให้ 1 โซนซึ่งมี 2 Areaต้องมี Area ละ 1 ชุด รวมเป็น 1 โซนต้องมี NMS 2 ชุดแต่ที่ซีเมนส์เสนอมีแค่ชุดเดียว และ4.ระบบมัลติมีเดียทั้งหมดไม่ตรงตามความต้องการของทศท
"ในวงการประมูลมักพูดกันว่า Nobody Fully Comply หมายถึงไม่มีบริษัทไหนจะถูกต้องทั้งหมด แต่กรรมการพิจารณากลับตัดสินว่าซีเมนส์ถูกต้องหมด"
แหล่งข่าวเบื้องหลังอุปกรณ์ OPNET ที่ซีเมนส์ใช้ผ่านการทดสอบเทคนิคแบบ 100% เป็นเพราะทีมทดสอบไล่ตั้งแต่รองประธานกรรมการและวิศวกรอีกนับสิบคน เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงาน OPNET ที่ประเทศไต้หวันในช่วงระหว่างมีการประมูลโครงการ 5.6 แสนเลขหมาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
คณะกรรมการชุดดังกล่าว ยังสรุปผลก่อนหน้านี้ให้กลุ่มมารูเบนนีและอีริคสันที่ใช้อุปกรณ์หัวเหว่ย รวมทั้งซีเมนส์ผ่านการทดสอบรวม 3 กลุ่มเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการเสนอบอร์ดเปิดซองราคา แต่ปรากฏว่าหลังจากที่นายจำรัส ตันตรีสุคนธ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ทศทในฐานะเลขานุการบอร์ดพิจารณาอีกครั้งพบว่าอุปกรณ์หัวเหว่ยไม่ผ่านข้อกำหนดในประเด็น เงื่อนไขด้านเทคนิคที่ระบุว่า "Optical Line Card/Unit และ Tributary Card/Unit ของอุปกรณ์ Access Node COT และ RT ที่เสนอจะต้องเป็นชนิดเดียวกันหรือสามารถใช้งานสลับหรือทดแทนกันได้" แต่อุปกรณ์ที่หัวเหว่ยเสนอมากลับเป็นคนละรุ่นกัน ทำให้เหลือ เพียงซีเมนส์รายเดียวที่ผ่านด้านเทคนิค
"อดีตรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่เพิ่งเกษียณถึงกับพูดออกจากปากว่าหากจ้างหัวเหว่ย ต้องมีคนติดคุกแน่"
ประเด็นสำคัญของการปรับให้หัวเหว่ยตกภายหลัง ชี้ให้เห็นว่าผลการพิจารณาของกรรมการไม่ว่าจะเป็นการทดสอบด้านเทคนิคหรือการดูเงื่อนไขพาณิชย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ ไม่มีมาตรฐาน จงใจเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางกลุ่มเป็นพิเศษ นอกจากนี้เงื่อนไขเทคนิค ในทีโออาร์ก็อาจไม่ทันสมัยเพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงเวลาเกือบ 3 ปี รวมทั้งราคาก็อาจสูงเกินไป
"ถ้าจ้างซีเมนส์บริษัทเดียว รับรองต้องมีคนไปศาลปกครองแน่"
ในขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ทศทควรดำเนินการให้เหมาะสม กับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก รวมทั้งควรให้ได้ผู้ชนะในราคาที่เหมาะสมที่สุดด้วย วันนี้เทคโนโลยีต่างๆ เปลี่ยนไปมากตั้งแต่ งานด้านการวางข่ายสายตอนนอก (Outside Plant) ไปจนถึงตัวเทคโนโลยีที่มีตัวเลือกทั้ง Voice Over IP ที่มีการติดตั้ง IP switching หรือ อาจจะใช้ wireless CDMA ที่สามารถใช้ได้กับความถี่ในย่าน 450 MHz ได้และมีใช้กันอยู่หลายแห่งหากนำมาเพื่อบริการประชาชนได้ถูกกว่าดีกว่าก็ต้องเหมาะสมแทนที่จะใช้ การเดินสายเคเบิลที่ไม่คุ้มค่าและต้องลงทุนมากเป็นหน้าที่ของกระทรวงไอซีทีและทศท ต้องหาผู้ชนะที่เสนอเทคโนโลยีและราคาดีที่สุด
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|