ผู้บริหาร ICT เล็งซื้อหุ้นคืนฟุ้งรายได้พุ่ง


ผู้จัดการรายวัน(10 พฤศจิกายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้บริหาร ICT สุดทน หุ้นดิ่งเหวต่ำกว่าราคาจอง เล็งซื้อหุ้นคืน หวังเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ฟุ้งปีหน้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิสูงกว่า 57 ล้านบาท พร้อมปล่อยข่าวจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 47 หุ้นเด้ง ขานรับปิด 4.04 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 10.38%

นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ICT) เปิดเผยว่า ผู้บริหารของบริษัทมีแนวคิดที่จะซื้อหุ้นคืน เพื่อเรียกความมั่นใจจากนักลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้เนื่องจากติดเงื่อนไขของตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่อนุญาตให้บริหารซื้อหุ้นของตัวเองภายใน 1 เดือน ก่อนยื่นผลประกอบการประจำไตรมาส โดยคาดว่าหลังจากประกาศผลประกอบการจะสามารถซื้อหุ้นคืนได้ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนในการซื้อหุ้นคืนคงไม่มากนัก เนื่องจากต้องการให้หุ้นของบริษัทมีความเคลื่อนไหวเป็นไปตามกลไกตลาดและมีสภาพคล่อง

"โดยส่วนตัวผมเข้าไปซื้อแน่ๆ ถ้าหากราคาหุ้นยังเป็นอย่างนี้ และคาดว่าปีหน้าราคาหุ้นของบริษัทน่าจะเป็นตัวเลขสองหลัก เนื่องจากมีรายได้และกำไรจำนวนมาก เมื่อเทียบกับทุนจดทะเบียน ซึ่งอยู่ที่ 80 ล้านบาทเท่านั้น"

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 มีรายได้รวม 129.81 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 45.14 ล้านบาท และคาดว่ารายได้รวมทั้งปีจะสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 491.98 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 57.15 ล้านบาท

"รายได้รวมของบริษัทคาดว่าจะสูงกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ และคาดว่าจะสามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้"

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

นายสมบัติกล่าวว่า ผลประกอบการรวม 3 ไตรมาส บริษัทมีรายได้รวม 351.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรรวม 3 ไตรมาส 45.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 460% และคาดว่ายอดขายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ไม่น่าจะน้อยกว่า 140 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังอาจมีข่าวดีเกี่ยวกับการรอการประกาศผลการประมูลขายคอมพิวเตอร์ให้กระทรวงศึกษาธิการ 137.5 ล้านบาท และกำลังเตรียมการประมูลโครงการ AMR (Automatic Metering Remote) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในเดือนธันวาคมอีก 202 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มในปี 2548 คาดว่าบริษัทจะมีรายได้รวมประมาณ 1 พันล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายลงทุนด้าน ICT ค่อนข้างมาก โดยอินเตอร์ลิ้งค์ฯ มีส่วนแบ่งในตลาดขายส่งสายสัญญาณมากที่สุดถึง 44% โดยบริษัทมีแผนเปิดสาขาอีก 4 แห่ง ใน 4 ภาคคือ ที่จังหวัดเชียงใหม่, ขอนแก่น,หาดใหญ่ และระยอง ซึ่งสาขาแต่ละแห่ง ที่เปิดจะใช้ต้นทุนเฉลี่ย 2.5 ล้านบาทต่อสาขา และคาดว่าทั้ง 4 สาขาจะสร้างรายได้รวมประมาณ 96 ล้านบาทต่อปี

นายสมบัติกล่าวว่า สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปี 2547 90% มาจากธุรกิจหลักคือ การจำหน่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ส่วนที่เหลือเป็นธุรกิจรับเหมา และธุรกิจเสริม ส่วนในปีซึ่งที่มาของรายได้ส่วนใหญ่ประมาณ 90% มาจากภาคเอกชน ส่วนในปี 2548 บริษัทได้ปรับแผนลงสู่ธุรกิจภาครัฐมากขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้ที่มาจากการจำหน่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากภาคเอกชนที่ 50% ส่วนที่เหลืออีก 50% เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าให้กับภาครัฐ

นอกจากนี้ ในปี 2548 บริษัทยังมีแผนที่จะ รุกธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยจะเริ่มไปบุกตลาดในประเทศลาว เวียดนาม โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการขายประมาณ 24 ล้านบาท และตั้งเป้าเป็นเจ้าตลาดสายสัญญาณคอมพิวเตอร์ในอินโดจีน ซึ่งประกอบด้วย ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม และพม่า ภายใน 3 ปี

สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้น ICT เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน เปิดตลาดที่ 3.66 บาท หลังจากนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องไปแตะที่ 4.50 บาทต่อหุ้น ก่อนที่จะปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงท้าย ตลาด ปิดที่ 4.04 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.38 บาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 10.38% มูลค่าการซื้อขาย 10.34 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.