|

บัณฑูรฟันธงปีหน้าดบ.ขยับ คลังปรับจีดีพีใหม่สิ้นพ.ย.นี้
ผู้จัดการรายวัน(9 พฤศจิกายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
คลังเตรียมประกาศประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปี 47 ใหม่ปลายเดือนพ.ย.นี้ มั่นใจไม่คลาดเคลื่อนจากของเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 6.7% ด้าน "บัณฑูร ล่ำซำ" ฟันธงปี 48 ดอกเบี้ยระยะสั้นปรับเพิ่มแน่ เหตุต้องให้ความสำคัญกับความเสี่ยงมากขึ้นหลังมีประสบการณ์เลวร้ายมาแล้วในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมแนะทุกองค์กรต้องเน้นประหยัด เพิ่มรายได้ และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนเอ็มดีแบงก์กรุงไทยคนใหม่ "อภิศักดิ์" ระบุปีหน้าธุรกิจกลุ่มแบงก์แข่งขันดุ หลังจากทุกแห่งแก้ปัญหาภายในเรียบร้อย
นายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง ทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยว่า ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะมีการประกาศตัวเลขประมาณการอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2547 ใหม่ ซึ่งเป็นภาวะปกติที่ สศค.จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจทุกๆ 3 เดือน
ทั้งนี้ ตัวเลขจีดีพีที่ประกาศออกมาไม่น่าจะมีการแตกต่างจากเดิมที่ สศค. ประมาณการไว้ที่ 6.7% มากนัก และคงจะไม่ต่ำกว่า 6% อย่างแน่นอน เพราะปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังเป็นปัจจัยเดิมที่นำมาวิเคราะห์ไว้แล้ว อาทิ ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย ไข้หวัดนก สถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ เป็นต้น ขณะที่ประมาณการเศรษฐกิจในปี 2548 นั้นจะต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ก่อน
แนะลดต้นทุนบริหารความเสี่ยง
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะไม่ปรับตัวขึ้นในปีนี้ แต่จะปรับตัวเพิ่มในปี 2548 อย่างแน่นอน แต่จะมีความแตกต่างจากช่วงวิกฤต เนื่องจากสภาพคล่องในระบบของสถาบันการเงินยังสูงอยู่ แต่สถาบันการเงินจะต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น จากเดิมก่อนช่วงวิกฤตไม่ได้มีการคำนึงถึง ดังนั้นในเรื่องการปล่อยกู้ในยุคนี้ต้องนำปัจจัยเรื่องการบริหารความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของธนาคารพาณิชย์ในระยะนี้ ถือเป็นการปรับโครงสร้างทางการเงินของแต่ละสถาบันการเงิน เพื่อรองรับสภาพคล่องที่อาจจะเริ่มลดลงในปี 2548 ซึ่งจะส่งผลให้มีการแข่งขันระดมเงินฝากกันมากขึ้น
ส่วนการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในอนาคตนั้น นายบัณฑูร กล่าวว่า ธนาคารจะมีการปล่อยสินเชื่อแตกต่างไปจากเดิม คือจะไม่แย่งกันปล่อยสินเชื่อ แต่จะคำนึงถึงความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในปี 2548 นั้น ภาคธุรกิจยังต้องเผชิญความเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นธนาคารจะต้องหาวิธีในการบริหารความเสี่ยงให้ได้ รวมทั้งการหาช่องทางทางการเงินใหม่เพื่อสร้างรายได้ให้มาก พร้อมกับปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน เน้นประหยัดค่าใช้จ่ายทุกด้าน และที่สำคัญต้องนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการลดต้นทุนการดำเนินงาน
เอ็มดีใหม่กรุงไทยฟันธงธุรกิจแบงก์แข่งดุ
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการ ผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวหลังจากเข้าทำงานเป็นวันแรกว่า ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในปีหน้าจะมีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น สืบเนื่องจากแต่ละแห่งได้มีการแก้ไขปัญหาภายในเกือบหมดแล้ว จึงหันมาทำธุรกิจและแข่งขันได้อย่างเต็มที่ ทั้งธุรกรรมด้านการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจ รวมถึงธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น
"ในปีหน้าคาดว่าการปล่อยสินเชื่อของกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะขยายตัวประมาณ 7-8% หรืออาจจะขยายตัวได้สูงถึง 10% ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่โตประมาณ 5%"
สำหรับภารกิจหลังจากที่เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยนั้น นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้ (9 พ.ย.) จะเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารธนาคาร หลังจากนั้นจะขอเวลาในการศึกษางานประมาณ 1 เดือน แต่โดยภาพรวมธนาคารถือว่าดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนักสำหรับการแข่งขัน โดยเฉพาะแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ที่เกิดขึ้นใหม่ เพราะปกติธุรกิจธนาคารพาณิชย์จะแข่งขันกันอยู่แล้ว
เริ่มสรรหาเอ็มดีแบงก์นครหลวงไทย
ส่วนการสรรหากรรมการผู้จัดการ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) แทนนายอภิศักดิ์นั้น นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางลีนา เจริญศรี รองปลัดกระทรวงการคลัง นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ นางทัศนา รัชตะโพธิ์ อดีตผู้ช่วย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และตัวแทนจากคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (กพร.) เป็นกรรมการ
"ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการฯ จะไปคัดเลือกประธานคณะกรรมการ เพื่อสรรหากรรมการผู้จัดการธนาคารนครหลวงไทยตามขั้นตอน ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานและไม่มีปัญหาใดๆ เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นกับธนาคารกรุงไทย"
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|