"วรรณ" รอลุ้นประกันสังคมจ้างบริหารไพรเวทฟันด์ต่อ


ผู้จัดการรายวัน(8 พฤศจิกายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ปีหน้าบลจ.เตรียม ลุยธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลต่อ หลังเม็ดเงินทั้งระบบสิ้นก.ย.ลดลง 6.39% จากส.ค. "วรรณ" ลดมากสุดกว่า 27% จากกองทุนประกันสังคมหมดอายุรอผลยื่นขอบริหารใหม่ ด้านธนชาติเพิ่มขึ้น 2.37% คุยจาก ธ.ค. ปี46 ถึง ก.ย. ปี 47 มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น 32.43% ขณะที่ทั้งระบบปรับขึ้น 15.61%

ในจำนวนเม็ดเงินทั้งระบบของ "กองทุนส่วนบุคคล" หรือ Private Fund Management ณ สิ้นก.ย.ซึ่งมีกว่า 1.31 แสนล้านบาท จำนวน 1,533 กองทุน พบว่า บลจ.ที่มีเม็ดเงินบริหารมากสุดอันดับหนึ่ง คือ บลจ. กสิกรไทย ซึ่งบริหารเม็ดเงิน 3.7 หมื่นล้านบาท หรือ 28.68% รองลงมา บลจ. ทิสโก้ บริหารเม็ดเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท หรือ 13.22% ตามด้วยธนาคารกรุงเทพ บริหารเม็ดเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท หรือ 12.83% บลจ.วรรณ บริหารเม็ดเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท หรือ 11.05% และบลจ. อยุธยาเจเอฟ บริหารเม็ดเงิน 9.6 พันล้านบาท หรือ 7.32%

ส่วนบลจ.ที่มีเม็ดเงินบริหารกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค.มากสุด ได้แก่ บลจ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งบริหารเม็ดเงิน 212.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.52% ตามด้วย บลจ.อยุธยาเจเอฟ ซึ่งมีเม็ดเงินบริหาร 9.61 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.06% และบลจ.บัวหลวง ซึ่งมีเม็ดเงินบริหาร 5.517 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%

ขณะที่ บลจ.ที่มีเม็ดเงินบริหารลดลงจากเดือน ส.ค.มากสุดได้แก่ บลจ.วรรณ ซึ่งมีเม็ดเงินบริหาร 130.04 ล้านบาท ลดลง 27.7% บลจ.กสิกรไทย ซึ่งมีเม็ดเงินบริหาร 3.76 หมื่นล้านบาท ลดลง 11.72% และ บลจ.ซีมิโก้ไนท์ ฟันด์ ซึ่งมีเม็ดเงินบริหาร 925.4 ล้านบาท ลดลง 8.64%

ทั้งนี้ การแข่งขันของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลส่วนใหญ่แข่งขันในเรื่องค่าธรรมเนียมการบริหาร เช่น ค่าธรรมเนียมในการบริหารกองทุนรวมลงทุนในตราสารทุนจะอยู่ที่ 1-1.5% หรือกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้คิดค่าธรรมเนียม 0.75% ซึ่งโดยทั่วไปค่าบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลอยู่ระหว่าง 0.5-1.5% แต่มีบางแห่งที่เรียกเก็บจากลูกค้าที่อัตรา 2.5% ซึ่งคงขึ้นอยู่กับรูปแบบในการเลือกลงทุนของลูกค้า เช่น เลือกประเภทลงทุนที่ต้องใช้ความสามารถในการบริหาร สูงหรืออาจเป็นวงเงินที่ให้บริหารไม่สูงนัก เพราะกองทุนส่วนบุคคลต้องบริหารในหลายส่วน ทั้งส่วนที่เป็นทั้งหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ฯหรือหุ้นกู้ รวมทั้งหน่วยลงทุนหรือลงทุนในบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ

นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของบลจ.วรรณ ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. มูลค่ากองทุนภายใต้การบริหารมีการปรับลดลงกว่า 27.70% หรือจาก 20,056.79 ล้านบาท เป็น 14,500.84 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากกองทุนประกันสังคมที่บริหารมีการครบอายุไถ่ถอนออกไป แต่เรื่องดังกล่าวก็เกิดกับบลจ.ที่บริหารให้กองทุนประกันสังคมเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทได้เตรียมการเพื่อยื่นขอเป็นผู้บริหารกองทุนประกันสังคม ซึ่งยังต้องรอดูว่าจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ เพราะเม็ดเงินในกองทุนประเภทดังกล่าวค่อนข้างมาก แต่ทั้งนี้ยังเชื่อว่าการเติบโตของกองทุนส่วนบุคคลจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง คาดว่าทั้งระบบจะเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 10-15%

ขณะนี้การบริหารกองทุนส่วนบุคคลเป็นส่วนของนักลงทุนรายย่อย 900 ล้านบาท จากเม็ดเงินบริหารรวม 1.4 หมื่นล้านบาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าสถาบัน ซึ่งวรรณมีนโยบายที่จะจับกลุ่มลูกค้าสถาบันสำหรับกองทุนส่วนบุคคลอยู่แล้ว แต่ก็จะเน้นไปที่ลูกค้ารายย่อยให้มากขึ้น ทั้งนี้เน้นการบริหารงานเพื่อสร้างความมั่นคั่งให้นักลงทุน

แต่ทั้งนี้มองในแง่การเติบโตยังเชื่อว่า ในอนาคตกองทุนส่วนบุคคลยังมีแนวโน้มที่สดใส เพราะประเด็นสำคัญเรื่องการออกพระราชบัญญัติรับประกันเงินฝากที่คาดว่าจะสามารถอออกมาได้ในช่วง 5 ปี จะทำให้ประชาชนผู้ฝากเงินซึ่งปกติได้รับประกันเงินที่ฝากกับธนาคารเต็มจำนวน เมื่อพระราช บัญญัติดังกล่าวประกาศใช้เงินที่จะได้รับความคุ้มครองจะลดลง ก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้มีเม็ดเงินจากเงินฝากเข้ามาลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.