"เจริญ" ส่งลูกคุมอสังหาฯผลิตสต๊อกป้อนกองทุน


ผู้จัดการรายวัน(5 พฤศจิกายน 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ที.ซี.ซี.แคปปิตอล แลนด์ ได้ฤกษ์ลงมือพัฒนาโครงการ ประกาศภายใน 3 ปี ต้องเป็นบริษัทอสังหาฯ ที่เด่นที่สุดในเมืองไทย ล่าสุดเตรียมเปิดโครงการแอทธินี เรสซิเด้นท์ มูลค่า 4,000 ล้าน ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ พร้อมเผยแผนลงทุนปี 48 ลุยพัฒนาอย่างน้อย 5 โครงการ ส่วนปี 49 เปิดเพิ่มอีกเท่าตัว จับกลุ่มลูกค้ากลาง-บน

ภายหลังจากการร่วมทุนของบริษัท ที.ซี.ซี.แลนด์ จำกัด ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี และบริษัท แคปปิตอล แลนด์ ประเทศสิงคโปร์ ภายใต้ชื่อบริษัท ที.ซี.ซี.แคปปิตอล แลนด์ จำกัด เมื่อเดือนกันยายน 2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท โดยที.ซี.ซี.แลนด์ ถือหุ้น 60% และแคปปิตอล แลนด์ ถือหุ้น 40% พร้อมประกาศลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน

นับจากประกาศเปิดตัวบริษัทก็ได้เงียบหายไปจนล่าสุด นางวัลลภา ไตรโสรัส (สิริวัฒนภักดี) บุตรสาวคนที่สองของนายเจริญ ได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของ ที.ซี.ซี. แคปปิตอล แลนด์ โดยมีนายเฉิน เหลียน ปัง เข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส (สามี) ดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ส่วนตนทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหารของบริษัท ซึ่งภายหลังจากเปิดตัว บริษัทได้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร และวางระบบการทำงานต่างๆ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยี วิธีการบริหารงาน รวมถึงวิธีการบริหารต้นทุนมาจากกลุ่มแคปปิตอล แลนด์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาฯ มาหลายประเทศ และเป็นเวลานาน เพื่อให้สามารถวางแผนงานและพัฒนาสินค้าออกมาสู่ตลาดได้ดีที่สุด

นายเฉิน เหลียน ปัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ซี. แคปปิตอล แลนด์ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาของบริษัทว่า ได้วางเป้าหมายของธุรกิจในระยะ 3 ปี ข้างหน้าต้องการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เด่นที่สุดในเมืองไทย โดยจะเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน หรือสินค้าราคาที่มีระดับราคาตั้งแต่ 50,000 บาทต่อตร.ม.ขึ้นไป โดยล่าสุด บริษัทเตรียมเปิดโครงการ แรก คือ แอทธินี เรสซิเด้นท์ ย่านถนนวิทยุ ด้านหลังโรงแรมพลาซ่า แอทธินี บนเนื้อที่ 7 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม สูง 40 ชั้น จำนวน 219 ยูนิต รวมพื้นที่ขาย 40,200 ตารางเมตร ราคาขายเฉลี่ยประมาณ 1 แสนบาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการ และทำการตลาดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม 2547 นี้ โดยบริษัทจะใช้โครงการดังกล่าวในการสร้าง ชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในตลาดถึงคุณภาพของสินค้า และระบบของความปลอดภัย โดยจะใช้ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอาคารสูงในประเทศ ต่างๆ ของแคปปิตอล แลนด์ มาใช้ในการพัฒนาโครงการในไทย

ทั้งนี้ บริษัทได้มอบหมายให้บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส จำกัด เป็นผู้บริหารการขาย ซึ่งซีบี ริชาร์ดฯ คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 60% ภายในระยะเวลา 6 เดือน และภายหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว ในต้นปี 2548 บริษัทมีแผนที่จะนำโครงการดังกล่าวไปเสนอขายยังต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเชีย และฮ่องกง เพื่อให้ลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติได้เข้ามาซื้อ

ปัจจุบันเครือข่ายของนายเจริญ ยังมีกองทุนรวมอสังหาฯที่อยู่ในการบริหารจัดการประมาณ 15 กองทุนฯ

นายเฉิน กล่าวว่า การนำโครงการออกไปเสนอขายยังต่างประเทศดังกล่าว ไม่ใช่การทำตลาดในไทยยากขึ้น แต่เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ รวมถึงชาวต่างชาติที่ทำงาน ในสถานทูตต่างๆ ย่านเพลินจิต ถนนวิทยุ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องการอาศัยอยู่ในทำเลดังกล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2548 บริษัทตั้งเป้าพัฒนาอย่างน้อย 5 โครงการ โดยจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง ย่านพหลโยธิน และโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ย่านเกษตร- นวมินทร์ โดยจะพัฒนาให้เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม สูงกว่าในตลาดที่พัฒนาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในเบื้องต้นจะนำที่ดินขนาด 70 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 300 ไร่ในบริเวณดังกล่าวมาพัฒนาเป็นเฟสแรก

ด้านแนวทางการพัฒนานั้นจะเน้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 60% โครงการบ้านเดี่ยว 30% และอีก 10% เป็นอาคารสำนักงาน โดยตั้งเป้าหมายที่จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จัก และในปี 2549 บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.