|
ศาลสั่งประชัยรั้ง CEO คลังยันไม่กระทบแผน
ผู้จัดการรายวัน(3 พฤศจิกายน 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลล้มละลายกลาง ยืนยันผู้บริหารแผนทีพีไอไม่มีอำนาจในการสั่งปลด "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ผู้บริหารลูกหนี้ พ้นจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) "สมคิด" ลั่น ไม่กระทบการแก้ไขแผนฟื้นฟูฯทีพีไอ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนบอร์ดทีพีไอบางคนแทนที่จะโละทิ้งทั้งหมด หลังดึงพันธมิตรใหม่เข้าร่วมทุน มั่นใจเจ้าหนี้ต่างประเทศเข้าใจ
วานนี้ (2 พ.ย.) นายวิญญู พิชัย ผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง ได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีที่บริษัท เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส จำกัด (EPL) อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน)(TPI) ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลล้มละลายกลางที่ให้นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ พ้นจากทุกตำแหน่งในทีพีไอ และไม่ให้ผู้บริหารลูกหนี้ออกคำสั่งแก่พนักงาน รวมทั้งใช้ทรัพย์สินต่างๆในทีพีไอ
โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ยืนตามคำตัดสินของศาลล้มละลายกลาง เพราะตามมาตรา 90/1 พ.ร.บ. ล้มละลาย ให้นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ยังมีสถานะเป็นผู้บริหารลูกหนี้ และดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อไปได้ แต่ถูกจำกัดอำนาจในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของทีพีไอ หลังศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการ ตามมาตรา 90/25 และ 90/59 ดังนั้น ผู้บริหารแผนฯ ไม่มีอำนาจออกคำสั่งให้สถานะของนายประชัยสิ้นสุดลงได้
ซึ่งผู้บริหารลูกหนี้ยังคงมีอำนาจในการตรวจสอบการบริหารงานของคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู ซึ่งเมื่อการฟื้นฟูกิจการทีพีไอสิ้นสุดลงโดยการยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ มาตรา 90/74 ระบุว่า "ให้ผู้บริหารลูกหนี้กลับมามีอำนาจจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไปได้" แสดงว่าคำสั่งฟื้นฟูกิจการไม่ได้ทำให้สถานะของนายประชัย ซึ่งเป็นผู้บริหารลูกหนี้สิ้นสุดลงแต่อย่างใด เพียงแต่พักการใช้อำนาจในการบริหารกิจการและทรัพย์สินเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้บริหารแผนแล้ว ให้อำนาจหน้าที่ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ตกแก่ผู้บริหารแผนฯ โดยมีอำนาจที่จะออกคำสั่งไม่ให้นายประชัยออกคำสั่งใดๆ แก่พนักงาน หรือติดต่อภายในพื้นที่ รวมทั้งใช้สินทรัพย์ต่างๆของทีพีไอ หรือต้องดำเนินการคืนทรัพย์สินที่ครอบครองอยู่ตามที่ผู้บริหารแผนมีอำนาจสั่งการ รวมถึงกุญแจสำนักงาน บัตรผ่านเข้าออก อุปกรณ์สำนักงาน พาหนะ รวมถึงกระดาษหัวจดหมายและตราประทับของบริษัท เป็นต้น
แหล่งข่าวจากคณะผู้บริหารแผนฯทีพีไอกล่าวว่า ตามข้อเสนอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอที่เจ้าหนี้ได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนการแก้ไขแผนฯเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการกำหนดในหลักการว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ในทีพีไอ ก็จะต้องมีการปลดคณะกรรมการเดิม เพื่อแต่งตั้งกรรมการใหม่เข้าไปดูแลแทน แต่เมื่อศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่าไม่สามารถที่จะปลดนายประชัย ออกจากการเป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอได้ ดังนั้น ผู้บริหารแผนฯก็อาจไม่ปลดนายประชัยพ้นจากตำแหน่ง แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบางคนแทน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อแผนฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งความกังวลของเจ้าหนี้ต่างชาติที่ไม่ต้องการให้นายประชัยเข้านั่งเป็นกรรมการบริษัท เพราะถือว่าการแก้ไขแผนฟื้นฟูฯได้ผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ศาลล้มละลายกลางเลื่อนนัดฟังคำสั่งศาลในการเห็นชอบการแก้ไขแผนฟื้นฟูฯทีพีไอฉบับกระทรวงการคลัง เป็นวันที่ 10 พ.ย. 2547 ว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อแผนฟื้นฟูฯ ที่เจ้าหนี้เห็นชอบไปก่อนหน้านี้ และมั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดจะจบโดยเร็ว
ส่วนกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษาให้ยืนตามคำตัดสินของศาลล้มละลายกลางให้นายประชัยยังดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ต่อไปได้ แต่อำนาจในการบริหารจัดการบริษัทจะต้องถูกควบคุมไว้ชั่วคราวตามมาตรา 90/25 และ 90/59 นั้น มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของทีพีไอเช่นกัน "คงไม่มีอะไรหรอก มั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" นายสมคิดกล่าว
ศาลรธน.ชี้ขาดทีพีไอ 4 พ.ย.
ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดแถลงด้วยวาจาและลงมติกรณีคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 198 กรณี พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/17 ซึ่งมีข้อความบัญญัติว่า "...แต่ในกรณีที่ลูกหนี้เสนอผู้ทำแผนด้วยให้ผู้ทำแผนที่ลูกหนี้เสนอเป็นผู้ทำแผนเว้นแต่จะมีมติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนหนี้ทั้งหมดของเจ้าหนี้ซึ่งได้ออกเสียงลงคะแนนในมตินั้นกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้ทำแผน...." ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 และมาตรา 50 ประกอบมาตรา 29 หรือไม่
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงทั้งในรูปเอกสารและมาชี้แจงด้วยตนเองประกอบด้วย นายไกรสร บารมี-อวยชัย อธิบดีกรมบังคับคดีมาในฐานะตัวแทนของกระทรวงยุติธรรม, พล.อ.มงคล อัมพรพิศิฏฐ์ ประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูทีพีไอ และนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ
วานนี้ ราคาหุ้น TPI เปิดตลาดที่ 7.15 บาท มีแรงซื้อขายเข้ามาตลอดทั้งวัน จนช่วงใกล้ปิดตลาด มีแรงซื้อเข้ามาดันปิดตลาดที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 10 สตางค์ เปลี่ยนแปลง 1.40% มูลค่าการซื้อขายรวม 74.64 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|