|
"แมงป่อง" เคาะจอง7บาทฟุ้งสถาบันจองเกิน8เท่า
ผู้จัดการรายวัน(27 ตุลาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
"แมงป่อง" เคาะราคาจอง 7 บาท เตรียมสร้างสีสันในตลท.กลุ่มธุรกิจบันเทิง และสันทนาการ ผู้บริหารที่ปรึกษาฯฟุ้ง สถาบันสนจองเกิน 8 เท่า มั่นใจรายได้ปีหน้าก้าวกระโดด ชี้ปีหน้าเตรียมซื้อลิขสิทธิ์หนังเฉลี่ย 3 เรื่องต่อเดือน ย้ำฐานะมั่นคง อนาคตเติบโตก้าวกระโดด เน้นประสบการณ์ผู้บริหารพร้อมความโปร่งใส
นางกิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมงป่อง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท พร้อมบริษัทหลักทรัพย์ร่วม จัดจำหน่ายอีก 10 แห่ง โดยจะเสนอ ขายหุ้นสามัญของบริษัท (IPO) ในราคาหุ้นละ 7 บาท จำนวน 75 ล้านหุ้น ในวันที่ 27-28 ต.ค. และจะเข้า ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันที่ 5 พ.ย. ทั้งนี้ ในส่วนของนักลงทุนสถาบันสนใจจองซื้อเกินกว่าจำนวน ที่จัดสรรกว่า 8 เท่า บริษัทมีนโยบาย ในการจ่ายเงินปันผล 0.40 บาทในงวดงบการเงินปีนี้
สำหรับสัดส่วนในการจัดสรรหุ้นบริษัท นักลงทุนรายย่อย 36.25 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบัน 15 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณ 20 ล้านหุ้น กรรมการและพนักงานบริษัท 3.75 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปเพื่อใช้ในการจัดซื้อลิขสิทธิ์หนัง และขยายช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงการใช้เป็นเงินหมุนเวียนและชำระเงินกู้ โดยคาดว่าในช่วงปีหน้ารายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทจะมีการซื้อลิขสิทธิ์หนังไม่ต่ำกว่า 3 เรื่องในแต่ละเดือน และการร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท สหมงคล จะส่งให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น
ด้านการดำเนินธุรกิจปัจจุบันบริษัท แมงป่อง เป็นผู้ผลิตสินค้าโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ โดยถือครองลิขสิทธิ์เพื่อจัดจำหน่ายในรูปแบบวีซีดี ดีวีดีภาพยนตร์ เทปคาสเซต และซีดีเพลงที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย โดยแมงป่องเน้นการจัดหาลิขสิทธิ์จากค่ายภาพยนตร์ชั้นนำ เช่น สหมงคลฟิล์ม, อาร์.เอส.โปรโมชั่น, ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น, ซีเอ็ม ฟิล์ม เป็นต้น
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่าย กล่าวว่า มั่นใจกับราคาที่เสนอขายหุ้นบริษัทแมงป่อง ทั้งจากพื้นฐานธุรกิจของบริษัท ประกอบกับความต้องการจองซื้อหุ้นในส่วนของนักลงทุนสถาบัน
บริษัทมีอัตราการเติบโตค่อนข้างโดดเด่น โดยเฉพาะในส่วนของตลาดลิขสิทธิ์ ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทมีมาร์เกตแชร์เป็นอันดับหนึ่งที่ระดับ 25% ประมาณ 1.5 พันล้านบาท โดยคาดปีหน้าในส่วน ของธุรกิจลิขสิทธิ์จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 พันล้านบาท ทั้งนี้ การเติบโตของอุตสาหกรรมเฉลี่ย โตขึ้นปีละ 20-25%
"หากคิดว่าปัจจุบันมีเครื่องวีซีดีทั่วประเทศ 10 ล้านเครื่อง มีการซื้อวีซีดีเฉลี่ยครอบครัวละ 1 เครื่องต่อ 1 เดือน ราคาเฉลี่ยเรื่องละ 100 บาท มูลค่าของธุรกิจก็จะสูง 1.2 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าหากมีการซื้อมากขึ้นมูลค่าจะเพิ่มขึ้นตาม" นางสาวสุวภากล่าว
สำหรับจุดเด่นของบริษัทแมงป่อง มีทั้งเรื่องความสามารถในการเติบโตของบริษัท การเป็นผู้นำในตลาดความบันเทิงที่บ้านทั้งในรูปภาพยนตร์ และเพลง ประสบการณ์ผู้บริหารซึ่งบริหารงานในธุรกิจดังกล่าวนานกว่า 20 ปี ส่งผลให้บริษัทมีความแข็งแกร่งในด้านการแข่งขัน และที่สำคัญธรรมาภิบาลของบริษัท การบริหารงานอย่างโปร่งใส
อย่างไรก็ตาม การที่หุ้น IPO ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทที่จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ค่อนข้างมาก ความผันผวนของราคาก็อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่หากนักลงทุนพิจารณาพื้นฐานและแนวโน้มการเติบโตของบริษัทการลงทุนในระยะยาวจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งกล่าวว่า มีบทวิเคราะห์ให้ราคาเป้าหมายของบริษัท แมงป่องไว้ที่ช่วง 6.7-10 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นแมงป่องได้ให้ราคาเหมาะสมของบริษัทแมงป่องที่ระดับ 6.70 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาจอง อย่างไรก็ตาม ได้สอบถามข้อมูลพบว่า ตัวเลขการประเมินราคาที่กำหนดออกไปเป็นราคาที่ยังไม่ได้ ปรับปรุง เนื่องจากมีข้อมูลใหม่ที่จะทำให้การประเมินราคาหุ้นเปลี่ยนไป จึงต้องรอความชัดเจนก่อน จึงเชื่อว่าในที่สุดแล้วบทวิเคราะห์ที่ให้ราคา เป้าหมายต่ำกว่าราคาจองจะมีการเปลี่ยนตัวเลข เป็นสูงกว่าราคาจองอย่างแน่นอน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|