ช.การช่างจับมือ "มิตซุยคอร์ปอเรชั่น" ประมูลแอร์พอร์ตลิงค์คาดรู้ผลธ.ค.นี้


ผู้จัดการรายวัน(18 ตุลาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ช.การช่างจับมือพันธมิตร "มิตซุย คอร์ปอเรชั่น" ยื่นประมูลแอร์พอร์ตลิงค์ โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ "ปลิว" เล็งโดดประมูลโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ของรัฐ คาดสามารถคว้างานประมูลได้ประมาณ 3-6 หมื่นล้านบาท จากมูลค่าโครงการกว่า 7 แสนล้านบาท ส่วนแนวปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท เหตุต้นทุนวัสดุก่อสร้างพุ่ง ขณะที่แนวโน้มปีหน้าตั้งเป้าไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท เตรียมดันบริษัทน้ำประปาไทยเข้าตลาดหุ้นปี 48

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) เปิดเผยว่า บริษัทได้ ร่วมมือกับมิตซุย คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น เข้ายื่นซองประมูลงานโครงการระบบรถไฟฟ้าใต้ดินเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิงค์) ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีการยื่นซองเสนอราคาใน วันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ และประมาณเดือนธันวาคมจะสามารถสรุปโครงการได้

สำหรับการก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงค์ ช.การช่างจะเป็นผู้ดูแลในด้านระบบโยธา ส่วนพันธมิตรจะดูแลในด้านงานระบบ ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด เมื่อโครงการแล้วเสร็จทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้ชำระคืนทั้งหมด โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน คาดว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาการก่อสร้างประมาณ 33 เดือน

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลมีนโยบายลงทุนในโครงการระบบขนส่ง และสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) มูลค่าประมาณ 5-7 แสนล้านบาทในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะส่งผลดีต่อยอดรายได้ของบริษัทที่จะเข้าไปร่วมประมูลงานก่อสร้าง โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลจะทำให้ยอดรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเข้าประมูลงานได้ประมาณ 10-20% หรือทำให้มีรายได้ เพิ่มขึ้นประมาณ 3-6 หมื่นล้านบาท ในอนาคต

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2547 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้จำนวน 8 พันล้านบาท โดยสาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากลดการประมูลงาน เพราะกังวลว่าราคาวัสดุก่อสร้างอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นเหมือนในปีที่ผ่านมา

ส่วนงานที่อยู่ในมือของช.การช่าง ปัจจุบันมีงานในมือ (แบล็กล็อก) ประมาณ 2.35 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวน 8 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปี 2548 ประมาณ 12,000 ล้านบาท และเชื่อว่าในปี 48 บริษัทจะสามารถประมูลงานของรัฐบาล อาทิ งานประปา งานระบบไฟฟ้า เป็นต้น

สำหรับเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในปี 2548 ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างถนน,ระบบราง, รถไฟฟ้า และระบบน้ำ คาดว่าจะมีประมาณ 3-4 แสนล้านบาท ส่วนในปี 2549 คาดว่าจะมีมูลค่าโครงการใกล้เคียงกัน โดยในส่วนนี้ช.การช่าง ตั้งเป้ามีรายได้จากการประมูลงานประมาณ 10-20%

นายปลิวกล่าวว่า ที่มาของรายได้ของช.การช่าง ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการรัฐคิดเป็น 90% และงานของภาคเอกชน 10% ทำให้เห็นแนวโน้มว่ารายได้ที่จะเข้ามาในช่วงกลางปี 2548 และในช่วงต่อไปในอนาคตจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการลงทุนของภาครัฐ โดยเป้าหมาย รายได้ที่ตั้งไว้ในปี 2548 1.2 หมื่นล้านบาท ไม่ได้รวมกับแนวโน้มรายได้ที่เกิดขึ้นจากเมกะโปรเจกต์ที่คาดว่าหากเริ่มมีการประมูลจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงกลางปี 2548 เป็นต้นไป และอาจผลักดันให้รายได้ของบริษัทขยายตัวก้าวกระโดด

นอกจากนี้ ช.การช่าง ยังมีแผนนำบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก เข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.