|

SCIBจ้องขึ้นดบ.บ้านพ.ย.นี้
ผู้จัดการรายวัน(15 ตุลาคม 2547)
กลับสู่หน้าหลัก
แบงก์นครหลวงไทย เล็งปรับดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน หลังแบงก์พาณิชย์หลายแห่งทยอยปรับขึ้นไปแล้วก่อนหน้า เตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาอนุมัติก่อนประกาศขึ้นต้นเดือน พ.ย. นี้ พร้อมปรับลดเป้าปล่อยกู้ทั้งปีเหลือ 8 พันล้านบาท จากเป้าเดิม 1 หมื่นล้านบาท เหตุงวด 9 เดือนแรกปล่อยได้แค่ 6 พันล้านบาท เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หดตัว พร้อมจับมือมาสเตอร์การ์ดเปิดตัวบัตรเครดิตรูปแบบใหม่ "สคิปไซด์การ์ด" ตั้งเป้า 2-3 หมื่นใบในช่วง 3 เดือน ตอกย้ำการเป็นยูนิเวอร์แซลแบงก์
นายประวิทย์ องค์วัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารว่า ธนาคารมีนโยบายจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเสนอให้คณะกรรมการธนาคารพิจารณาอนุมัติ โดยคาดว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยได้ประมาณวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ หรืออาจจะเป็นวันที่ 1 มกราคม 2548
"การปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยครั้งนี้ สืบเนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น และมีธนาคารหลายแห่งได้ปรับขึ้นไปก่อนหน้าแล้ว"
สำหรับผลงานการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารในปีนี้ นายประวิทย์ กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี ธนาคารมียอดการปล่อยสินเชื่อรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์รวมอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท และคาดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อรวมทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ที่คาดว่าจะปล่อย สินเชื่อที่อยู่อาศัยรวม 10,000 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อ ลดลงนั้น เนื่องมาจากยอดขายบ้านของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง รวมทั้งการก่อสร้างบ้านที่มีความล่าช้า ส่งผลให้ลูกค้าไม่สามารถโอนบ้านกับธนาคารได้ทำให้การปล่อยสิน เชื่อต่ำกว่าเป้าหมาย รวมทั้งทิศทางของอัตราดอกเบี้ยมีความผันผวน ทำให้ลูกค้ารอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ เปิดตัว "สคิบไซด์การ์ด"
วานนี้ (14 ต.ค.) ธนาคารนครหลวงไทย ได้ร่วมมือกับบริษัท มาสเตอร์การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบัตรเครดิตรูปแบบใหม่ "สคิบไซด์การ์ด" ที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเป็นบัตรแรกที่มีดีไซด์แตกต่างจากบัตรเครดิตทั่วไป โดยมีฝาพิเศษป้องกันแถบแม่เหล็กบนบัตรเครดิต พร้อมเสนอสิทธิประโยชน์เอาใจผู้ถือบัตรด้วยโปรแกรม Cash Back ได้แก่ การคืนเงินให้กับผู้ใช้ 0.4 - 0.6% ของยอดการใช้จ่ายทันที
นายประวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ธนาคารคาดว่าบัตรนี้จะได้รับการตอบรับจากประชาชน โดยตั้งเป้าในสิ้นปีอยู่ที่ 2-3 หมื่นใบ ทำให้ฐานบัตรในสิ้นปีของธนาคารจะอยู่ที่ 2 แสนใบ จากปัจจุบันที่ธนาคารมีบัตร 1.5 - 1.6 แสนใบ ทั้งนี้จุดแข็งของธนาคารจะเน้นการใช้สาขาเป็นตัวดึงลูกค้า
สำหรับยอด NPL ของธนาคารในส่วนบัตรเครดิตอยู่ที่ 4% ของยอดสินเชื่อคงค้าง 2,200 ล้านบาท ต่ำกว่าระบบธนาคารที่อยู่ประมาณ 8%
"บัตรเครดิตแบบใหม่ที่ธนาคารเปิดตัวกับมาสเตอร์การ์ด ถือเป็นบัตรแรกที่มีโปรแกรมเป็น เงินสดให้กับลูกค้าด้วยยอดเงินคืนสูงสุด 0.6% ของยอดใช้จ่าย ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของบัตรเครดิต และตัดความยุ่งยากที่เคยมีในการสะสมคะแนนเพื่อแลกเป็นสินค้า ซึ่งธนาคารเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี" นายประวิทย์ กล่าว
นายประวิทย์ กล่าวว่า การออกบัตรเครดิต ใหม่เป็นสิ่งที่ตอกย้ำความเป็นยูนิเวอร์แซลของแบงก์และสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารที่ต้องการขยายสัดส่วนลูกค้ารายย่อยให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่อยู่ 6% และเพิ่มเป็น 10% ภายใน 5 ปี
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|