ช.การช่างออกหุ้นกู้3พันล้านดอกเบี้ย4.5-5.95%ล่อนักลงทุน


ผู้จัดการรายวัน(13 ตุลาคม 2547)



กลับสู่หน้าหลัก

ช.การช่าง ออกหุ้นกู้ 3 พันล้านบาท ขายให้กับนักลงทุนสถาบันและรายย่อย ภายในสัปดาห์นี้ หวังนำเงินที่ได้รับไปรีไฟแนนซ์หนี้ และรองรับการขยายงาน ดอกเบี้ยจูงใจสุดๆ เฉลี่ย 4.5-5.95% หวังจูงใจ นักลงทุน

นางสาวณัฐรินทร์ ตาลทอง ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ ของบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) เปิดเผยว่า หุ้นกู้ที่จะออกจำนวน 3 พันล้าน บาท จะมีอายุ 3 ปี และ 5 ปี ซึ่งจะเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันและรายย่อย ภายในสัปดาห์นี้ โดยแบ่งเป็น 3 ชุด เป็นประเภทไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีประกัน แบ่งเป็นอายุ 3 ปี กำหนดช่วงอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 4.50-5% และอายุ 5 ปี มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งกำหนดในช่วง 5.45-5.95%

ส่วนหุ้นกู้อายุ 5 ปี อีกชุด กำหนดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งจะอ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) เฉลี่ยจากธนาคารพาณิชย์ใหญ่ 4 แห่ง ลบ 0.25 ถึง ลบ 1% ซึ่งปัจจุบัน MLR เฉลี่ยอยู่ที่ 5.68%

สำหรับเรตติ้งหุ้นกู้ของ CK บริษัท ทริส เรทติ้ง ได้จัดอันดับความ น่าเชื่อถือหุ้นกู้ของบริษัทที่ "A-"

นางสาวณัฐรินทร์กล่าวว่า หุ้นกู้ ของช.การช่างจะให้นักลงทุนสถาบันเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต้องการ (Book Building)ในวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่จะเปิดให้นักลงทุนรายย่อย จองซื้อในวันที่ 13-15 ต.ค.และกำหนด วันออกหุ้นกู้ 18 ต.ค.

ส่วนอัตราผลตอบแทนอ้างอิงพันธบัตรรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา พันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี อยู่ที่ 2.90% ขณะที่อายุ 5 ปี อยู่ที่ 3.83%

สำหรับแผนการออกหุ้นกู้ของ ช.การช่างในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะนำเงินที่ได้รับมาใช้สำหรับการรีไฟแนนซ์หนี้ และรองรับการขยายงานในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยปัจจุบันมีต้นทุนดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 4% ต่อปี และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 2.5 เท่า

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทคาดว่าในปี 2548 จะมีรายได้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนเข้าประมูลงานก่อสร้างมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่แผนระยะยาว 6 ปี คาดว่าจะเข้าประมูลงานมูลค่า 6.5 แสนล้านบาท

แหล่งข่าวจากวงการธนาคาร กล่าวว่า หุ้นกู้ที่ช.การช่างออกน่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เนื่อง จากอัตราดอกเบี้ยที่เสนอถือว่าอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบกับระดับเรตติ้งที่ได้รับ "A-" ซึ่งตามปกติแล้วผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้นกู้จะสูงกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 1% กว่าๆเท่านั้น

ส่วนแนวโน้มการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนในครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะมีการระดมทุนมากขึ้น เนื่อง จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นในปีหน้า จะผลักดันให้ผู้ประกอบการหันมาออกหุ้นกู้เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้

สำหรับการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนในปี 2546 มียอดรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.81 แสนล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรกของปีนี้ สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมามียอดการออกหุ้นกู้อยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท เท่านั้น เนื่องจากหลายฝ่ายกังวลกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ทำให้ชะลอการออกหุ้นกู้ ส่วนแนวโน้มในปี 2548 คาดว่าเอกชนจะหันมาระดมทุนผ่านการออก ตราสารหนี้มากขึ้น เพราะทิศทางดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

ราคาหุ้นของ CK เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เปิดตลาดที่ 13.90 บาท หลังจากนั้นได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ปิดตลาดที่ 13.10 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.90 บาท หรือลดลง 6.43% มูลค่าการซื้อขาย 184.54 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.